คือ เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนที่ผ่าน วันนั้นเป็นวันประกาศผลสอบประจำภาคของมหาวิทยาลัยผม แต่ผลที่ออกมานั้นไม่น่ายินดีสักเท่าไหร่เมื่อผลที่ได้คือ"ผมโดนรีไทร์" ณ วันนั้นแฟนผมนั่งอยู่ข้างผมคอยให้กำลังใจผมให้ผมสู้ต่อ จนมาพักหลังๆ ไม่รู้ว่าเธอเริ่มเบื่อหรือเซงก็ตามแต่ เธอจึงไม่ค่อยได้โทรมาหรือให้กำลังใจผมเหมือนก่อนๆ แต่ด้วยผมที่คิดว่าเทอคงเรียนหนักจนไม่มีเวลา ผมเลยไม่ได้เอะใจอะไรกับสิ่งที่มันกำลังจะเกิดขึ้น จนกระทั่งวันที่28กันยายนที่ผ่านมา วันนั้นผมได้โทรไปหาแฟนผมตามประสาคนที่เป็นห่วงกัน แต่แล้วแฟนผมกลับหงุดหงิดถึงขั้นโทรไปบอกแม่ของเค้าและอาของผม ว่าผมนั้นไปเซ้าซี้กับเค้ามาจนเกินไป ซึ่งอันที่จริงผมลองมองย้อนกลับไปแล้ว มันก็ออาจจะเป็นจริงอย่างที่เค้าว่า ผมก็เรยไม่คิดเอะใจอะรัย แต่ด้วยความสงสัยของผม ผมก็เลย login FB เธอดูแล้วก็พบกับความจริงทั้ง นั่นคือเค้ามีคนอื่น!! ซึ่งผมก็พอจะรู้เรื่องเป็นนัยๆอยู่แล้วตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ที่จู่ๆเค้าก็มาบอกกับผมว่า"น้องที่เคยอยู่ ร.ร.เดียวกันนั้นจะมาเรียนต่อที่ม.นี้" แต่ที่แปลกคือสีหน้าของเธอดูสดใสเป็นพิเศษ ผมเลยถามจนเค้าพูดว่า"เคยเป็นแฟนกันสมัยเค้าอยู่ม.4 น้องคนนั้นอยู่ม.2(ปัจจุบันเทออยู่ปี3) และหลังจากนั้นมาเค้าก็คุยกันมาเรื่อยๆในฐานะ "พี่น้องโรงเรียนเดียวกัน" ซึ่งผมก็ไม่ได้เอะใจอะรัย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29กันยายนที่ผ่านมา เค้าได้บอกกับผมว่าเค้ากำลังจะไปคบกับคนๆนั้น ซึ่งก้อสงสัยว่า ทำไมถึงต้องไปคบกับคนๆนั้น โดยที่ผมได้ให้เค้ายกเหตุผลมา3ข้อที่เค้าไป แต่แล้วเหตุผลของเค้าซึ่งฟังดูไม่ขึ้นเลยก้อคือ 1.น้องเค้าดูแลชั้นได้ 2.น้องเค้าให้คำปรึกษาชั้นได้ และ3.น้องเค้าให้ความช่วยเหลือชั้นได้ 3เหตุผลที่หยิบยกขึ้นมานั้นฟังไม่ขึ้นเลยเพราะ ผมมั่นใจว่า ตลอดสองปีที่เราคบกันมา ผมเองก้อได้ทำให้สิ่งที่เค้ายกเป็นเหตุผลขึ้นมาและคิดว่าทำได้ดีกว่าด้วย หลังจากคืนวันที่29 เข้าสู่วันที่30กันยา(เมื่อวาน) ผมคิดว่าเรื่องนี้มันคงเปนปันหาคาใจแน่ ผมจึงนั่งรถจาก กทม.ไปโคราช เพื่อไปเคลียร์ปัญหานี้ให้จบๆไป พอผมไปถึง ผมก็อได้เรียกเค้าทั้งสองฝ่ายมานั่งคุยกันว่าจะเอาอย่างไร บทสรุปสุดท้ายคือ แฟนผมเลือกคนนั้นทั้งๆที่ยังไม่ได้เลิกกับผมเลย ผมเลยถามน้องเค้าไปว่า รู้รึป่าวว่าเค้ามีแฟนแล้ว คำตอบที่ได้จากปากน้องเค้าก้อคือ "ไม่รู้ เพราะพี่เค้าไม่เคยบอก!!!" ผมอึ้งไปสักพัก แต่ด้วยความที่ผมเป็นผู้ใหญ่กว่าเค้า ผมจึงยอมเคารพในการตัดสินใจของทั้งสองฝ่าย และตัวผมก็ได้กลับบ้านมา.... จบ
.
.
.
ที่ผมสงสัยก็คือทำไมเค้าถึงต้องเลือกคนๆนั้นทั้งที่ผมก็มาก่อน และทำหน้าที่ดูแลเค้ามาตลอด หรือเพราะว่าผมโดนไทร์ก็ไม่อาจทราบได้ แต่เค้าน่าจะคอยให้กำลังใจผมในยามที่ชีวิตผมเจอเรื่องร้าย อย่างน้อยๆผมก็สามารถที่จะรีเอนทรี่กลับไปเรียนที่เดิมเหมือนปกติ แต่เค้ากลับทิ้งผมไปดื้อๆ ซึ่งอันที่จริงผมไม่เสียใจหรอกนะที่เค้าทิ้งผมไป แต่ผมเสียเวลา เสียดายของที่เค้าได้ไปจากผมและคนที่บ้านผม ที่ผ่านมาผมช่วยเค้าตลอด เรียกได้ว่าถ้าไม่มีผม เค้าไม่สุขสบายแบบนี้แน่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเรื่องทอง หรือเรื่องอื่นๆ ผมไม่เสียใจนะที่เค้าทิ้งผมไป แต่ที่ผมเสียใจคือเค้าไม่เคยเห็นคุณค่าในเม็ดเงินที่อาผมนั้นได้ส่งให้กับผมทุกๆอาทิต อาทิตละ1,500บาท ซึ่งผมต้องแบ่งให้เค้า อาทิตย์ละ500บาท ทุกๆอาทิตย์ โดยที่ทางบ้านผมไม่รู้เรื่องเรย ผมต้องโกหกที่บ้านเพื่อหลอกเอาตังมาบรำเรอความสุขของเค้า ครั้งนึงผมเคยโกหกที่บ้านว่า ทำสัญญากู้เงิน กยศ. ไม่ทัน และเทอมนี้ต้องจ่ายค่าเทอมเอง เบ็ดเสร็จได้เงินมา 10,500 บาท ทุกบาททุกสตางค์ ลงไปที่เค้าหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม กระเป๋า รองเท้า บลาๆ ตามประสาผู้หญิง... ตรงนี้เค้าไม่เคารพบุพการีผมเลยแม้แต่น้อย ผมเลยสงสัยว่า ผมต้องปล่อยเค้าไปไหมคนแบบนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ช่วยผมคิดทีครับ
ปล.เค้าบอกกับผมว่า ในช่วงเวลาที่ผมดรอปไว้เปนเวลา3เดือนในเทอมนี้ ให้ผมตั้งใจทำงานเก็ยเงิน แล้วพอกลับมาในเทอมถัดไป ค่อยว่ากันเรื่องนี้อีกที ง่ายๆคือ 3เดือนนี้เค้าจะคบกับคนๆนั้น แต่พอผมกลับมาเค้าก้อจะเลิกกับคนๆนั้น
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะครับ