ถ้าไม่ใช่เพราะ เรอัล มาดริด เพิ่งซื้อมาในราคาแพงระยับ รวมถึงหากไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งแห่งถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ที่ทำสถิติเสื้อขายได้สูงที่สุดของสโมสร
อยากจะทำนายจริงๆ ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คงไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่
ด้วยเหตุที่แม้ทั้งคู่จะเป็นฝอยทองเหมือนกัน แต่รสชาติมันเหมือนมาจากคนละตำรับ คนละตำรา กันเลย
ไอ้โด้ ชอบโชว์ลีลาความสามารถเฉพาะตัว ให้ความบันเทิงแก่คนดู เล่นทีมไหนเพื่อนๆ ต้องปรับตัวเข้าหา
ตอนอยู่ แมนฯ ยูฯ ขนาด เวย์น รูนี่ย์ ที่ปกติหน้าที่ประจำคือกระซวกประตู ยังต้องเสียสละถูกถ่างไปเล่นเป็นปีกเลย เพราะช่วงหลัง ซูเปอร์สตาร์จากโปรตุเกส ไม่ค่อยลงไปช่วยแบ็คไล่บอลในเกมรับ
ข้อดีของ ไอ้โด้ มีมากมาย ครบเครื่องไปเสียทุกเรื่อง ทั้งเลี้ยง จ่าย ยิง โหม่ง ฯลฯ จิตใจก็แข็งแกร่ง กระหายในชัยชนะ
แต่อย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือ การเล่นที่มีเขาเป็นศูนย์กลางของทีม บ่อยครั้งไปกดศักยภาพของผู้เล่นคนอื่น ไม่ให้สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับที่ หมูรูน เคยเจอ และ กาก้า กำลังประสบในปัจจุบัน
ส่วนฝอยทองสูตร เฮียเครียด นั้น บางคนอาจบอกไม่อร่อยลิ้นเหมือนของไอ้โด้
แต่ก็เต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มีรางวัลจากสถาบันแห่งยุโรปเป็นเครื่องรับประกัน
เขาเน้นที่ผลงานของทีมเป็นหลัก ความสนุกและสวยงามเป็นเรื่องรอง คุมทีมไหนนักเตะต้องปรับตัวให้ได้กับแท็คติคของเขา
ที่สำคัญ เกมรับต้องเหนียวแน่นไว้ก่อน !!!
เคยอ่านในหนังสือชีวประวัติของ โชเซ่ มูรินโญ่ มีตอนหนึ่งน่าสนใจ
เขาบอกว่า การได้ประตูของทีมฟุตบอลสมัยนี้ โดยมากเริ่มต้นจากความผิดพลาดของฝ่ายตรงข้าม แล้วนำไปสู่การได้ประตู
ไม่ใช่มาจากการตั้งเกมขึ้นไปจากแดนตัวเอง
ความผิดพลาดของฝ่ายตรงข้าม อาทิเช่น การส่งพลาด, การโดนแย่ง, การถูกตัดบอล ฯลฯ
ด้วยความคิดนี้ ก็เลยน่าจะมีอิทธิพลต่อรูปแบบการคุมทีมของเขา ที่เล่นแบบรัดกุมรอบคอบ รอโอกาสให้คู่แข่งทำพลาด แล้วค่อยเผด็จศึก เห็นได้ชัดมากตอนเจอกับทีมในระดับใกล้เคียงกัน
สังเกตดูจะพบว่า ทีมที่เขาคุมอย่าง สิงห์บลู หรือ งูใหญ่ มีนักเตะประเภทรับดีๆ อยู่หลายคน ส่วนตัวที่เล่นเกมรุก ไม่ว่าจะเป็น ปีก, มิดฟิลด์ หรือ ศูนย์หน้า ก็บีบพื้นที่คู่แข่งเก่งมาก
บีบแบบให้เล่นได้อึดอัดลำบาก เพื่อหวังจะแย่งบอลมาครอบครองจริงๆ ไม่ใช่ทำเป็นไล่บอลแบบขอไปที
เมื่อได้ไปคุมชุดขาวจริงๆ อยากเห็นครับว่า เขาจะให้ อดีตขวัญใจเด็กผีเล่นอย่างไร
ที่แน่ๆ ก็คือ ไอ้โด้จำเป็นต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่น และคงตัวเล็กลงกว่าเดิม เพราะไม่มีใครใหญ่กว่าผู้จัดการทีม โดยเฉพาะคนที่สถาปนาตัวเองเป็น สเปเชียล วัน คนนี้









เดอะ สเปเชี่ยล วัน



