ซี้ด!เอฟเอรอบ3ผีซดหงส์-จิ้งจอกบู๊เรือใบ
เดือดเร็วเกินคาด ศึกเอฟเอคัพรอบสามหรือรอบ 64 ทีมสุดท้ายของเมืองผู้ดีได้ฤกษ์ระเบิดศึกวันแดงเดือดตั้งแต่ไก่โห่เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ดถูกจับสลากให้ปะทะกับลิเวอร์พูลในการฟาดแข้งที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ขณะที่เลสเตอร์เจองานหนักต้องรับการมาเยือนของแมนฯ ซิตี้เศรษฐีจากลีกสูงสุด
จากการจับสลากประกบคู่ฟุตบอลถ้วยน็อคเอาท์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกรอบสามเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.ที่เวมบลีย์ซึ่งถือเป็นด่านแรกที่ทีมในลีกสูงสุดจะต้องลงบู๊นั้น
ปรากฏว่าได้สร้างความฮือฮาอย่างคาดไม่ถึงเมื่อผีแดงจะต้องทำศึกวันแดงเดือดกับหงส์แดงโดยทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจะได้เปิดโรงละครต้อนรับทีมของกุนซือรอย ฮ็อดจ์สัน
ที่สำคัญ การเผชิญหน้ากันของสองคู่ปรับนับเป็นคู่เดียวในรอบสามด้วยที่ทีมในพรีเมียร์ลีกต้องห้ำหั่นกันเองเพื่อเขี่ยอีกฝ่ายให้ร่วงตกรอบ ขณะที่ "แชมป์เก่า" เชลซีจะเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ฉะกับอิปสวิชทีมจากแชมเปี้ยนชิพ ส่วนอาร์เซน่อลจะต่อกรกับลีดส์อีกสโมสรแชมเปี้ยนชิพในถิ่นของตัวเองเช่นกัน
ด้าน "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ที่มีผู้บริหารเป็นชาวไทยต้องดวลกับทีมเรือใบสีฟ้าในถิ่นของตัวเองซึ่งนับเป็นงานช้างของกุนซือสเวนโกรัน อีริคส์สันซึ่งต้องพาทีมคว่ำอดีตสโมสรที่ตัวเองเคยเป็นกุนซือให้ได้
สรุปผลการประกบคู่ฟุตบอลเอฟเอคัพรอบสาม
- เบิร์นลีย์ - คริสตัล พาเลซ
- บริสตอล ซิตี้ - เชฟฯ เว้นส์เดย์
- ฟูแล่ม - ปีเตอร์โบโร่
- ดอนคาสเตอร์ - วูล์ฟส์
- ไบรท์ตัน/เอฟซี ยูไนเต็ด - พอร์ทสมัธ
- ฮัดเดอร์สฟิลด์ - โดเวอร์ แอธเลติก
- ครอวลีย์/สวินดอน - ดาร์บี้
- เวสต์แฮม - บาร์นสลีย์
- เรดดิ้ง - เวสต์บรอมวิช
- อาร์เซน่อล - ลีดส์
- เชฟฯ ยูไนเต็ด - แอสตัน วิลล่า
- เลสเตอร์ - แมนฯ ซิตี้
- โบลตัน - ยอร์ค ซิตี้
- แบล็คเบิร์น - ควีนส์พาร์ค
- สวอนซี - โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- วีคอมบ์/เฮเรฟอร์ด ยูไนเต็ด - ลินคอล์น ซิตี้
- สตีฟเนจ - นิวคาสเซิ่ล
- เบอร์ตัน อัลเบี้ยน - มิดเดิ้ลสโบรช์
- มิลล์วอลล์ - เบอร์มิ่งแฮม
- เซาแฮมป์ตัน - แบล็คพูล
- วัตฟอร์ด - ฮาร์ทลี่พูล/เยโอวิล
- เชลซี - อิปสวิช
- ซันเดอร์แลนด์ - น็อตต์ส เคาน์ตี้/บอร์นมัธ
- สคันทอร์ป - เอฟเวอร์ตัน
- แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล
- ฮัลล์ ซิตี้ - วีแกน
- สโต๊ค - คาร์ดิฟฟ์
- สเปอร์ส - ชาร์ลตัน/ลูตัน
- เปรสตัน - ฟอเรสต์
- นอริช - ดรอยส์เดน/เลย์ตัน โอเรี้ยนท์
- ทอร์คีย์ - คาร์ไลส์
- อนึ่ง การฟาดแข้งจะอุบัติขึ้นในวันที่ 8 และ 9 ม.ค.2011
คาร์ริคสรรเสริญฟอร์มเบิร์บเหมา5ตุงถล่มกุหลาบ
ไมเคิ่ล คาร์ริค ห้องเครื่อง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชมฟอร์ม ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หัวหอกตัวเก่ง ที่เพิ่งซัด 5 ตุง เกมถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มั่นใจ "เบิร์บ" จะงัดฟอร์มขั้นเทพออกมาช่วยทีมได้อีกมากแน่นอน
ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวยกย่องฟอร์มระเบิดตาข่ายของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หัวหอกเลือดบัลแกเรีย ที่ซัด 5 ประตู ในแมตช์เปิดบ้านถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
"เบิร์บ" ทำประตูไม่ได้เลย นับตั้งแต่ที่ซัดแฮตทริก แมตช์ชนะ ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา แต่เกมล่าสุดเพิ่งจะระเบิดผลงานขั้นเทพ ซัดกระจุยถล่ม "กุหลาบไฟ" ยับเยิน โดย คาร์ริค กล่าวชมทักษะ และพรสวรรค์ของเพื่อนร่วมทีมรายนี้ว่า จะช่วยให้ "ปีศาจแดง" ทำผลงานติดลมบนมากกว่านี้
อดีตดาวเตะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กล่าวว่า "ฟอร์มการเล่นของ ดิมิทาร์ สุดยอดมากๆ ประตูที่เขายิงได้ มันเต็มไปด้วยพรสวรรค์ทั้งนั้น มีอยู่ลูกหนึ่งหลังช่วงพักครึ่ง ตอนที่เขาทำชิ่งหนึ่งสองเข้าไปทำประตู ซึ่งมันเป็นประตูของซีซั่นเลย มันเป็นสิ่งที่พิเศษจริงๆ"
"เราทุกคนรู้ว่า การยิงได้ 5 ประตูต่อเกมคงไม่มีทางเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ผมดีใจกับเขาด้วย ผมมั่นใจว่า เขาจะยิงประตูเป็นกอบเป็นกำให้กับเราแน่นอน เวย์น (รูนี่ย์) กับ ดิมิทาร์ สร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้ทุกวัน แน่นอน เวย์น จะกลับมาเฉียบคมอีกครั้ง เขาฟิตและกระหายชัยชนะ มันทำให้เป็นเรื่องง่ายมากๆ เมื่อคุณได้เล่นกับทีมที่มีฟอร์มสุดยอดแบบนี้ แต่เรารู้ว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่เขาจะแสดงออกมา และเขาจะยิงประตูสำคัญให้กับเราซีซั่นนี้" คาร์ริด ระบุ
ป๋าเปรยน้าซาร์แขวนถุงมือจบซีซั่น
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดมีโอกาสสูงที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะเลิกเล่นตอนจบฤดูกาล เพราะอายุปาเข้าไป 40 ปีแล้ว เสี่ยงกับการเสียฟอร์มตอนแก่แบบ ปีเตอร์ ชิลตัน แถมภรรยาร่างกายไม่แข็งแรง ต้องรักษาตัวที่ ฮอลแลนด์ จึงน่าจะอยากกลับไปดูแลให้เต็มที่
ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังไม่บอกว่าจะเลิกเล่น หรือเฝ้าเสาต่อ แต่ เฟอร์กี้ ก็ต้องมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่มาทดแทนแล้ว และล่าสุดก็เชื่อว่ามีโอกาสที่ นายทวารดัตช์ จะแขวนถุงมือ เพื่อไปใช้เวลากับ แอนมารี ภรรยา ที่ปีที่แล้วล้มป่วยทางสมอง โดย เฟอร์กี้ กล่าวว่า "ผมต้องยอมรับว่านี่จะเป็นซีซั่นสุดท้ายของ เอ็ดวิน แล้ว มันน่าเศร้า แต่เรื่องยากสำหรับผู้รักษาประตูอายุ 40 ปี เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ ปีเตอร์ ชิลตัน ด้วยอายุที่มากขึ้น ฟอร์มของ ชิลตัน ย่ำแย่แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และผมไม่คิดว่า เอ็ดวิน อยากเป็นแบบนั้น"
"เขาเป็นคนภูมิใจในตัวเอง เขาจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของเรา เราคุยเรื่องอนาคตกับเขาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว เขาเล่าแผนของเขาให้ผมฟัง และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากนั้น มันยากมาก เพราะเขาต้องคิดถึงสุขภาพของภรรยาหลังจากเธอล้มป่วย ตอนนี้เธอโอเคแล้ว และดูดีมาก แต่เธอก็ยังต้องรับการรักษาที่ ฮอลแลนด์ ด้วยเรื่องเหล่านี้ทำให้มันยากมากที่เขาต้องอยู่กับเราที่นี่"
แม้ได้ตัว ลินเดการ์ด มาแล้ว แต่ก็มีข่าวว่า ยูไนเต็ด ต้องการนายทวารอีก 1 คน โดย เฟอร์กี้ กล่าวว่า "เรายังไม่มีบทสรุปเรื่องผู้รักษาประตู เอ็ดวิน มีประสบการณ์มาก คุณซื้อหาไม่ได้ด้วย มันเลยเป็นสถานการณ์ที่ยากมาก เพราะเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่ ยากที่จะหาใครมาแทนได้"
มาร์ติเนซเชื่อเคลฟเวอร์ลี่ย์อนาคตติดธงสิงโต
โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือชาวสเปนของ วีแกน แอธเลติก สุดทึ่งศักยภาพ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ กองกลางดาวรุ่งที่ไปยืมมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะความเข้าใจแท็กติก มั่นใจ อนาคตเป็นแข้งทีมชาติแน่นอน
เคลฟเวอร์ลี่ย์ ย้ายจาก "ปีศาจแดง" มาเล่นแบบยืมตัวกับ "เดอะ ลาติกส์" นาน 1 ฤดูกาล แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกว่าบางทีอาจเรียกกลับมาร่วมทีมในเดือนมกราคมเลย เพราะมีช่วงหนึ่งที่ทีมมีปัญหาผู้เล่นมิดฟิลด์บาดเจ็บเยอะ ขณะเดียวกันก็รู้ว่า เคลฟเวอร์ลี่ย์ จะช่วยทีมได้มาก โดย มาร์ติเนซ เองก็ตระหนักถึงคุณภาพของ กองกลางวัย 21 ปี และมั่นใจว่า จะเติบใหญ่เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม "สิงโตคำราม" ได้แน่
"เขาเพิ่งอายุ 21 ปี แต่คุณดูฟอร์มของเขาในเกมกับ ลิเวอร์พูล และ เวสต์บรอมฯ คุณจะเห็นเลยว่าเขาเป็นนักเตะที่มีศักยภาพมาก ความเข้าใจแท็กติกของ ทอม ไม่ใช่เรื่องปกติของนักเตะดาวรุ่ง ผมไม่คิดว่าเราจะเห็นนักเตะอย่างเขามากนัก ผมไม่สงสัยเลยว่าเขาจะติดทีมชาติแน่นอน ทีมชาติอังกฤษ มีนักเตะดาวรุ่งน่าจับตามองหลายคน ทั้ง แจ็ค วิลเชียร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ทอม และ วิคเตอร์ โมเซส"
"พวกเขายังเด็ก แต่มีความเข้าใจทางแท็กติกดีเยี่ยยม พวกเขาคืออนาคตของฟุตบอลอังกฤษ ตอนนี้ ทอม ต้องมีสมาธิกับการเล่นฟุตบอล และรักษามาตรฐานสูงๆ เอาไว้ เขามีแรงกระตุ้นที่จะพัฒนาตัวเอง และหวังว่านั่นจะช่วยให้เราที่ วีแกน มีความสุข และเก็บแต้มได้เยอะแยะ" มาร์ติเนซ ทิ้งท้าย
ผีจ้องฉกชไวนี่12ล้านปอนด์ช่วงปีใหม่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล็งตัดหน้า เรอัล มาดริด, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าตัว บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์ บาเยิร์น มิวนิค มาร่วมทีมในช่วงปีใหม่ ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 576 ล้านบาท) หลังดาวเตะทัพ "อินทรีเหล็ก" ยังยึกยักเรื่องต่อสัญญากับ "เสือใต้" จากของเดิมที่จะหมดอายุในปี 2012
ชไวน์สไตเกอร์ ยังไม่ตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่ในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า แทนของเดิมซึ่งเหลืออยู่เพียงแค่ 18 เดือนเท่านั้น ทำให้ บาเยิร์น ค่อนข้างคิดหนัก เพราะหากปล่อยให้เวลาล่วงเลยอาจจะเสียมิดฟิลด์วัย 26 ปี ไปแบบไม่ได้ค่าตัวเลย
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมลองใจ บาเยิร์น ด้วยการควักเงิน 12 ล้านปอนด์ เพื่อขอซื้อ ชไวน์สไตเกอร์ ในช่วงเดือนม.ค.นี้ ท่ามกลางข่าวที่ว่า เรอัล มาดริด, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงความสนใจดาวเตะเบียร์เช่นกัน
เฟอร์กี้หน้าบานชี้เบิร์บน่าซัดกุหลาบสัก6ตุง
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนฯ ยูฯ หน้าบานสุดๆ คุย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ฮีโร่ 5 ตุง น่าจะกดได้สัก 6 ลูกเลยด้วยซ้ำ ในเกมต้อน แบล็คเบิร์น 7-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เชื่อ "เบิร์บ" กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้งแล้ว
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกอาการสุดประทับใจกับฟอร์มการเล่นขั้นเทพของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กองหน้าจอมเทคนิค ที่เหมายิงประตูคนเดียว 5 ลูก ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุด ที่ "ปีศาจแดง" เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่มแหลก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา โดย "เฟอร์กี้" ชี้ว่า "เบิร์บ" น่าจะกดได้ถึง 6 ลูกเลยด้วยซ้ำ ถ้าลูกโขกเหน่งๆ ในช่วงท้ายเกม ไม่ถูกเซฟโดย พอล โรบินสัน นายทวาร "กุหลาบไฟ"
นายใหญ่ แมนฯ ยูฯ กล่าวว่า "มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เขาอาจจะยิงได้ถึง 6 ลูกเลยด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นเพราะว่า ช่วงท้ายเกม พอล โรบินสัน เซฟลูกยิงของเขาได้เจ๋งมาก ยามที่บรรดาผู้เล่นกองหน้ายิงประตูไม่ได้ พวกเขาก็มักจะไม่คิดว่า พวกเขาทำผลงานได้ดีแล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นปัญหาที่คอยกวนใจตลอดเวลา แต่วันนี้เขากลับมาแล้ว"
การซัด 5 ตุงครั้งนี้ นอกจากทำให้ เบอร์บาตอฟ หยุดสถิติอันห่วยแตก ที่ยิงประตูไม่ได้มา 10 นัดติดต่อกันได้แล้ว ยังส่งผลทำให้กลายเป็นผู้เล่นรายที่ 4 ต่อจาก แอนดี้ โคล อดีตหัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด, อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ เจอร์เมน เดโฟ กองหน้าร่างจิ๋ว ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สามารถยิงประตูได้ถึง 5 ลูกในเกมเดียว นับตั้งแต่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชั่น 1 มาเป็น พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 1992 อีกด้วย
เบ็คส์รับไม่มีสิ่งไหนสำคัญกว่าร่างกายที่ฟิต
เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์ชาวเมืองผู้ดี สังกัดทีม ลอสแอนเจลิส แกแล็กซี่ เผยตอนนี้คิดแต่ว่า ทำอย่างไรให้ร่างกายฟิตสมบูรณ์เต็มที่เท่านั้น ส่วนประเด็นการย้ายไปเล่นในลีกผู้ดีอีกครั้ง ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ แม้ตกเป็นข่าวว่า เดวิด มอยส์ นายใหญ่ เอฟเวอร์ตัน สนยืมไปร่วมทีมก็ตามที
เดวิด เบ็คแฮม กองกลางซูเปอร์สตาร์ของ ลอสแอนเจลิส แกแล็กซี่ สโมสรชั้นนำในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐฯ (เอ็มแอลเอส) เผยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตนเองในเวลานี้ก็คือ การทำให้สภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์เต็มที่ ส่วนการที่ตกเป็นข่าวว่า เดวิด มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก มีความสนใจที่จะดึงตัวเขาไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว ช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบสอง ในเดือน ม.ค.ศกหน้านั้น ตนยังไม่ได้มีการตัดสินใจแต่อย่างใด
เบ็คแฮม วัย 35 ปี กล่าวผ่านสำนักข่าว "สกายสปอร์ตส์" แดนผู้ดีว่า "ผมแค่พยายามทำให้ร่างกายของตัวผมมีสภาพที่สมบูรณ์เต็มที่ และทำให้สมบูรณ์หลังจากได้รับบาดเจ็บเมื่อ 7 เดือนก่อน ดังนั้นผมก็แค่พยายามทำให้มั่นใจว่า ร่างกายของผมอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม จากนั้นผมค่อยมาคิดถึงเรื่องนั้น ซึ่งผมยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ ในเวลานี้"
พร้อมกันนั้น อดีตดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยอีกว่า ยังไม่มีความคิดที่จะเลิกเล่นอยู่ในหัวเวลานี้ และมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าเล่นกีฬาที่เขาชอบต่อไปเรื่อยๆ โดยยืนยันว่า "ผมยังไม่พร้อมกับการสิ้นสุดชีวิตการเล่นในเวลานี้"
รายละเอียด SiamSport
ข่าวผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยน่ะครับ ....














