
มหาตมะ คานธี

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

ชาร์ลี แชปลิน

หลุยส์ ปาสเตอร์.

เอลวิส เพรสลีย์

ลุดวิก ฟอน บีโทเฟน

ฮาร์โรลด์ แซนเดอร์ส

สตีเฟน ฮอว์คิง

ชาร์ลส บรอนสัน

อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณเป็นคนขับรถสิบล้อส่งของในชนบททั้งๆ ที่ใฝ่ฝันว่าชีวิตนี้จะได้เป็นนักร้องดังก้องโลก
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณมีพ่อขี้เมาบังคับให้คุณเล่นดนตรีให้ได้เพื่อหาเงินไปซื้อเหล้าให้พ่อให้ได้มากที่สุด และคุณยังต้องเล่นดนตรีหาเลี้ยงตัวตลอดชีวิตแม้กระทั้งหูหนวกไปแล้ว
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณเกิดมาในครอบครัวยากจน พ่อแม่แยกทางกัง คุณต้องยืนต่อแถวสมัครเป็นนักแสดงประกอบฉากละครเวที ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงแม่ที่กำลังป่วย
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณทำมาหากินอาชีพไหน ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเลย ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ครอบครัวขอแยกทางไปที่อื่น
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณถูกครูผู้สอนให้ความเห็นว่าเป็นคนหัวช้าปัญญาทึบไม่น่าจะเอาดีทางไหนได้เลย
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณพิการจนพูดไม่ได้ ขยับแขนขาไม่ได้ เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงไป ต้องนั่งอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิต
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณถูกดูถูกเหยียดหยาม เพราะคุณเป็นคนเอเชียผิวเหลือง ไม่ใช่เป็นฝรั่งผิวขาวผู้ถือตัวว่าเป็นชาติเจริญกว่า เมื่อขึ้นรถไฟชั้น 1 ร่วมกับฝรั่งแล้วคุณกลับถูกไล่ลงกลางทางเพราะฝรั่งไม่อยากนั่งรถไฟชั้นหนึ่งร่วมกับคุณ
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณมีพ่อแม่เป็นคนต่างด้าวอพยพ ต้องทำงานในเหมืองถ่านหินหาเงินมาจุนเจือตัวเอง โดยไม่รู้อนาคตข้างหน้า
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณถูกพ่อแม่ทิ้งไม่เหลียวแล ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ยากจน ตกจากตึกแถวชั้น 2 จนพิการเดินไม่ได้หลายปี และถูกตัดขาข้างหนึ่งในภายหลัง เคยล้มเหลวในการทำงานจนกินยาฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ต้องทำงานหนักวันละ 14-18 ชั่วโมง และตายในขณะที่ยังทำงานอยู่เมื่ออายุเกือบ 80 ปี
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณกลายเป็นคนหมดเนื้อหมดตัว กลายเป็นครูสอนคนหูหนวก ถูกคนรอบข้างดูถูกว่าสติเฟื่องประดิษฐ์แต่ของเล่นไร้สาระ
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณเป็นลูกช่างฟอกหนังจนๆ จากต่างจังหวัด เข้าเรียนในโรงเรียนก็ผลการเรียนแย่มากตั้งแต่ชั้นประถม-มหาวิทยาลัย ยากจน จนแม้กระทั่งขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ยังไม่ได้ทานอาหารครบทุกมื้อ หยิบจับทำงานอะไรก็มีแต่คนสบประมาท
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าคุณเคยมีเรื่องให้ต้องน้อยใจไม่ว่าจะคล้ายกันหรือจะต่างกับที่ได้กล่าวมาบ้าง สิ่งหนึ่งที่อยากบอกต่อไปนี้ก็คือ... มีคนจำนวนมหาศาล นับไม่ถ้วนบนโลกนี้ที่เคยเป็นแบบคุณมาแล้วเหมือนกัน ทุกคนต่างมีความทุกข์กายทุกข์ใจ มีช่วงเวลาแห่งความท้อแท้สิ้นหวัง และเคยพบความลำบากยากแค้นแสนสาหัส มาไม่น้อยไปกว่าคุณ
ผมจะเฉลยให้ดูนะครับ....
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณเป็นคนขับรถสิบล้อส่งของในชนบททั้งๆ ที่ใฝ่ฝันว่าชีวิตนี้จะได้เป็นนักร้องดังก้องโลก...และต่อมาได้กลายเป็นนักร้องจริงๆ ที่ชื่อ เอลวิส เพรสลีย์
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณมีพ่อขี้เมาบังคับให้คุณเล่นดนตรีให้ได้เพื่อหาเงินไปซื้อเหล้าให้พ่อให้ได้มากที่สุด และคุณยังต้องเล่นดนตรีหาเลี้ยงตัวตลอดชีวิตแม้กระทั่งหูหนวกไปแล้ว...ต่อมาถูกจารึกชื่อในนามหนึ่งในนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลนาม ลุดวิก ฟอน บีโทเฟน
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณเกิดมาในครอบครัวยากจน พ่อแม่แยกทางกัง คุณต้องยืนต่อแถวสมัครเป็นนักแสดงประกอบฉากละครเวที ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงแม่ที่กำลังป่วย...และได้กลายมาเป็นนักแสดงอมตะที่มีคนรักทั้งโลก แบบ ชาร์ลี แชปลิน
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณทำมาหากินอาชีพไหน ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเลย ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ครอบครัวขอแยกทางไปที่อื่น..เพิ่งจะมาประสบความสำเร็จตอนแก่ชราตอนทำอาชีพ ทอดไก่ขายข้างถนน... เช่นเดียวกับ
ฮาร์โรลด์ แซนเดอร์ส เจ้าของตำนาน ไก่ทอด KFC แห่งรัฐเคนทักกี
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณถูกครูผู้สอนให้ความเห็นว่าเป็นคนหัวช้าปัญญาทึบไม่น่าจะเอาดีทางไหนได้เลย...ต่อมาคุณสอบเข้าโรงเรียนโปลิเทคนิคได้ในครั้งที่ 2 (ครั้งแรกสอบเข้าไม่ได้)...และได้กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกนี้ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณพิการจนพูดไม่ได้ ขยับแขนขาไม่ได้ เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงไป ต้องนั่งอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิต...แต่คุณยังต่อสู้เพื่อให้เรียนจบปริญญาเอก เป็นอาจารย์สอนในม.ชั้นนำของอังกฤษด้วยการใช้อุปกรณ์เลียนเสียงพูดนาทีละ 20 คำ เดินทางไปทั่วโลกด้วยรถเข็น เพื่อบรรยายทฤษฏีวิทยาศาสตร์ชั้นสูงและเขียนหนังสือวิทยาศาสตร์ขายดีแปลเป็นภาษาต่างๆ วางขายทั่วโลก...กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เยี่ยมยอดที่สุด สตีเฟน ฮอว์คิง
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณถูกดูถูกเหยียดหยาม เพราะคุณเป็นคนเอเชียผิวเหลือง ไม่ใช่เป็นฝรั่งผิวขาวผู้ถือตัวว่าเป็นชาติเจริญกว่า เมื่อขึ้นรถไฟชั้น 1 ร่วมกับฝรั่งแล้วคุณกลับถูกไล่ลงกลางทางเพราะฝรั่งไม่อยากนั่งรถไฟชั้นหนึ่งร่วมกับคุณ...แต่นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้คุณต่อสู้ เพื่อความเป็นธรรมระหว่างผิวสีโดยสันติ กลายเป็นแบบอย่างอันประเสริฐของโลกนานเท่านานเช่นเดียวกับ มหาตมะ คานธี
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณมีพ่อแม่เป็นคนต่างด้าวอพยพ ต้องทำงานในเหมืองถ่านหินหาเงินมาจุนเจือตัวเอง โดยไม่รู้อนาคตข้างหน้า...ต่อมาเรียนวิชาการแสดงและมีโอกาสทำอาชีพนักแสดงภาพยนต์จนประสบความสำเร็จระดับโลกอย่าง ชาร์ลส บรอนสัน
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณถูกพ่อแม่ทิ้งไม่เหลียวแล ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ยากจน ตกจากตึกแถวชั้น 2 จนพิการเดินไม่ได้หลายปี และถูกตัดขาข้างหนึ่งในภายหลัง เคยล้มเหลวในการทำงานจนกินยาฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ต้องทำงานหนักวันละ 14-18 ชั่วโมง และตายในขณะที่ยังทำงานอยู่เมื่ออายุเกือบ 80 ปี...ถ้าความพยายามไม่ย่อท้อนั้นเองทำให้คุณกลายเป็นนักแสดงละครเวทีที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เมื่อเดินทางไปถึงประเทศใดก็มีคนมารอต้อนรับนับหมื่นๆคน แสดงละครเวทีวันละ 2 รอบเป็นสิบๆ ประเทศ เมื่อตายไปยังได้รับการจัดงานศพแบบรัฐพิธี มีทหารกองเกียรติยศ เชิญร่างไปตามถนนฌอง เอลิเซ่ส์ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนและดอกกุหลาบเฉกเช่นเดียวกับ ซาราห์ แบร์นา
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณกลายเป็นคนหมดเนื้อหมดตัว กลายเป็นครูสอนคนหูหนวก ถูกคนรอบข้างดูถูกว่าสติเฟื่องประดิษฐ์แต่ของเล่นไร้สาระ...แต่ในที่สุดก็สร้างส่งประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกให้กับเราทุกคน นั่นคือ โทรศัพท์ของ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ผู้ซึ่งในวันฝังศพของเขา คนทั่วทั้งทวีปได้หยุดใช้โทรศัพท์พร้อมกันเป็นเวลาหนึ่งนาทีเพื่อไว้อาลัยแกผู้ที่ประดิษฐ์มันขึ้นมา
คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณเป็นลูกช่างฟอกหนังจนๆ จากต่างจังหวัด เข้าเรียนในโรงเรียนก็ผลการเรียนแย่มากตั้งแต่ชั้นประถม-มหาวิทยาลัย ยากจน จนแม้กระทั่งขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ยังไม่ได้ทานอาหารครบทุกมื้อ หยิบจับทำงานอะไรก็มีแต่คนสบประมาท...แต่ด้วยความเพียรและไม่สนใจต่อคำดูถูกนั่นเอง ทำให้สามารถคิดค้นวิธีการถนอมอาหารด้วยการอุ่นในอุณหภูมิที่เหมาะสมหรือเรียกว่า Pasturization (พาสเจอร์ไรเซชั่น) จากนั้นก็คิดค้นวิธีการฆ่าเชื้อโรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างรักษาคนไข้ คิดค้นวิธีการรักษาโรคพิษสุนัขบ้าและความรู้ใหม่ๆ อีกมากมายในการรักษาชีวิตคน จนในที่สุดก็มีสถาบันทางการแพทย์กระจายออกไปทั่วโลก แม้กระทั่งในเมืองไทยที่เรียกว่า ปาสตุระสภา หรือ สถานเสาวภา ในปัจจุบัน ผู้ที่ทำกุศลแกโลกคนนี้คือ หลุยส์ ปาสเตอร์
.
.
.
ทั้งหมดนี้คือ ตัวอย่างของคนจำนวนมากที่คล้ายคลึงกับเราอีกจำนวนมากเช่นกัน นั่นคือ มีอุปสรรคความแร้นแค้นในชีวิตนานัปการ เกิดมาจน พ่อแม่ทิ้ง บ้านแตกแยก ต้องทำงานหนักหาเงินเลี้ยงตัวกับครอบครัว ตั้งแต่ยังเด็ก แม้แต่อาหารก็มีกินบ้างไม่มีกินบ้าง พิการจนไม่น่าจะทำอะไรได้ ไม่มีเงินเก็บ ถูกดูถูกเหยียดหยาม ทั้งชีวิตที่ผ่านมากพบแต่ความล้มเหลว มองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง แต่ด้วยความมานะพยายาม ไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะพบอุปสรรคแค่ไหน พึ่งตัวเอง มากกว่ารอคอยโชคชะตาหรือความช่วยเหลือจากคนอื่น ในที่สุดเขาเหล่านั้นก็ได้นำชีวงิตตัวเองไปสู่ความสำเร็จ ทั้งที่จริงหลักคิดที่เราเคยได้ยินกันมานาน หากแต่อาจยังไม่ได้เชื่อมั่นกันจริงๆ นั่นคือหลักคิดที่ว่า...คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนอย่างไรได้
หากเลือกที่จะเป็นคนดี ผลที่ได้ก็คือ การคิดดี พูดดี ทำดี และเป็นคนดี
หากเลือกที่จะเป็นคนเลว ผลที่ได้ก็คือการคิดเลว ทำเลว และเป็นคนเลวในที่สุด
ทุกคนไม่มีใครเลือกชะตาตัวเองในภายภาคหน้าได้ แต่เลือกที่จะทำสิ่งต่างๆ เพื่อที่เป็นแรงหนุนให้เกิด ชะตาดีชั่วภายภาคหน้าได้
ความซื่อสัตย์ในวันนี้ก่อให้เกิดความเชื่อถือในวันหน้า
ความพยายามในวันนี้ก่อให้เกิดความสำเร็จในวันหน้า
ความเอื้ออารีต่อกันในวันนี้ ทำให้เกิดสังคมที่สงบสุขในวันหน้า
เช่นเดียวกับความคดโกง ความเห็นแก่ตัว ความอาฆาตมาดร้าย ความต้องการเอาชนะกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ย่อมนำมาซึ่งผลสะท้อนในอนาคตที่เลวร้ายกว่าอีกหลายเท่าตัว
คุณละ? จะเลือกเป็นคนแบบไหนดี...
เครดิต Dek-d.com