akillis เขียน:คือ เกลเซอร์ ไปกู้เงินมาซื้อแมนยูก็จริง
แต่ นั่นไม่ได้หมายความว่า เกลเซอร์จะไม่มีตังค์
เพราะนั่นคือการทำธุรกิจในแบบที่ไม่ต้องควักเงินของตนเองไปจ่ายในการครอบครองสโมสร
และรายได้จากการทำทีมมายาวนานหลายปี จนเกลเซอร์สามารถนำเงินที่เหลือการจ่ายชำระหนี้ตามกำหนดของแบงค์ ไปจ่ายหนี้สินกิจการหลายๆ อย่างของตนเอง
จนเรียกได้ว่าเริ่มอยู่ตัวดีขึ้น
เรื่องงบประมาณถ้าถามว่ามีให้ป๋าจับจ่ายไหม คงมีให้ แต่ป๋าเลือกที่จะประหยัดงบ อย่างที่เห็นเวลาแมนยูต้องการใครมักโดนโก่งค่าตัวเยอะ ขนาดเบเบ้โนเนมยังโดนกดไป 7 ล้านเลย ยังดีนะไปหิ้วเจ้าถั่วมาตอนยังไม่ดัง ไม่งั้น 6-7 ล้าน คงไม่ได้ และมีหวังเพิ่มเป็น 20 ล้านแล้วตอนนี้ (แหมยิงกระฉูดเหลือเกิน)
และการที่หมดซีซั่นนี้ นักเตะซีเนียร์ทั้ง เนวิลล์ สโคลส์ ฟานเดอซาร์ แขวนเกือกกันหมด จำเป็นต้องเสริมนักเตะอย่างมาก
ปลิงมะกันจึงอนุมัติเงินให้ป๋าจับจ่ายอยู่แล้ว และคาดหมายกันเบื้องต้นว่ามี 50-70ล้าน เป็นอย่างน้อย
โจนส์ 16.5 / ยัง 20 / เดเกอา 18 ถ้าได้หมดไม่เปลี่ยนแปลง ก็ 54.5 ล้านเข้าไปแล้ว
ถ้าป๋ายังต้องการอีกคน ก็อาจจะเป็นกองกลางตัวรุก ที่ค่าตัวไม่แพงมากนัก นาสรี่ 8-10 ล้านตามข่าว หรือจะโมรดิช ที่ป๋าอาจจะเลือกส่งเบิปเป็นตัวแลกเปลี่ยน
*และคิดว่าซีซั่นนี้แมนยูทุ่มเยอะ ซึ่งแน่นอนได้นักเตะที่ยังหนุ่มๆ เพื่อสร้างรากฐานต่อในอนาคตอีกหลายปี ประหยัดงบได้อีกบาน ปีต่อๆ ไปก็เน้นดาวรุ่งเอามาขัดเกลาอย่างพี่น้องดาซิลวา
**เกลเซอร์อ่ะผมคิดว่า มีเงินให้ป๋าใช้อยู่แล้ว แต่อยู่ที่ความจำเป็นที่ป๋าจะใช้แค่ไหนมากกว่า นักธุรกิจที่เก่งต้องไม่ใช้เงินแบบฟุ่มเฟือยจับจ่ายคนโน้นคนนี้เก่งๆ ดังๆ เอามาแล้วระบบทีมแย่ สมดุลการเงินเสีย
***แม้ส่วนตัวจะเคืองๆ เกลเซอร์ที่ขี้เหนียวเกินไป แต่อย่างที่เห็นสโมสรเดินหน้าได้ ถึงขนาดจ้างเจ้าหมูรูน รวมสองแสนกว่าปอนด์ นั่นแสดงให้เห็นว่าเกลเซอร์มองถึงอนาคตมากกว่า ไม่งั้นขายเจ้ารูนออกไป ได้เงินเข้า 70 ล้าน สบายกระเป๋ากันทีเดียว
แต่เกลเซอร์เลือกเก็บรูนไว้เพื่อต่อยอดความสำเร็จในอนาคต และรวมไปถึงนักเตะหนุ่มๆ ที่ฝีเท้าดีๆ ที่กำลังจะเข้ามาอีก สามถึงสี่คน และแน่นอน การทุ่มครั้งนี้เพียงหนเดียว ก็จะใช้ทีมชุดนี้ต่อไปได้อีกนาน อาจจะถึง ห้าปี กว่าจะปรับใหม่อีกครั้ง
ชอบเกลเซอร์ตรงที่ไม่เคยเรียกร้องป๋าเลยว่าจะให้จัดทีมแบบไหน หรืออยากได้นักเตะคนใด แค่ป๋าส่งเรื่องไปว่าอยากได้ใคร เกลเซอร์ก็ยินยอมให้เสมอ
มีดีเรื่องเดียวคือตระกูลนี้ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำทีมของเฟอร์กี้นั่นแหละ...ถ้าเป็นแบบเชลซีปวดหัวตายห่า...
ทั้งการซื้อตัวนักเตะ...การประสบความสำเร็จที่เร่งรีบ...ถ้าปลิงมันลดหนี้ลงมาบ้างก็คงจะดีต่อทีมแมนยูฯ...แต่ถ้าหวังจะให้ปลอดหนี้ 100%
เลิกหวังได้เลย...กับการบริหารแบบนักธุรกิจ...สิ่งที่ทำให้แฟนบอลอึดอัดใจคืองบประมาณในการซื้อนักเตะ...
ซึ่งดูเหมือนเกลเซอร์และเฟอร์กี้จะเดินไปในทิศทางเดียวกันถึงอยู่ด้วยกันมาได้อย่างยาวนาน...
คนหนึ่งก็ให้งบน้อยตามที่ขออีกคนก็เลือกใช้สอยที่มีอยู่ไม่ค่อยชอบช็อปเพราะมั่นใจในขุมกำลัง...ซึ่งมั่นใจได้เลยว่า...
เกลเซอร์จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับระบบการทำทีมอย่างแน่นอน...เพราะไม่มีนักเตะที่อยากได้...มีแต่เงินที่อยากได้เท่านั้น
ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเฟอร์กี้ที่ต้องการจะซื้อใครจริงหรือไม่...
เพราะทุกครั้งที่ต้องการซื้อก็มีงบประมาณมาให้ทุกครั้งแต่จะมากจะน้อยอยู่ที่เฟอร์กี้จะใช้สอยตามแต่ใจ...
ซึ่งเฟอร์กี้เคยพูดไว้ว่า"ทุกวันนี้ค่าตัวนักเตะแพงเกินความจริง" จึงเป็นเรื่องยากที่เฟอร์กี้จะทุ่มซื้อใครแบบบ้าเลือด...
หมายเหตุ: ที่จริงผมก็เห็นด้วยกันท่าน akillis นะครับเรื่องเกลเซอร์ไม่เข้ามายุ่งเกี่วกับการซื้อนักเตะอยากได้ใครก็ส่งเรื่องไปของบประมาณ
แต่อยากเอาไข่ไปปาหัวเกลเซอร์ซักครั้งแค่นั้นเอง...อิอิ...เกลเซอร์จะไปเน้นทางด้านแบรนด์ การตลาด มากกว่ายุ่งเรื่องทีมและนักเตะ
ครั้งนี้ทำไมผีเราดูเหมือนมีงบเยอะก็เพราะเรื่องที่ทำไปของบมันมีเหตุและผล..นักเตะเลิกเล่นไปหลายคนนั่นเอง...
ตราบใดที่เกลเซอร์ไม่เข้ามาก้าวก่ายเรื่องการทำทีม..ตระกูลนี้ก็ยังพอมีความดีหลงเหลืออยู่บ้าง...ฮ่าๆๆๆๆๆ
