ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
(เซ็นจากบรอนด์บี้ ปี 1991)
แน่นอนเลยว่าจะขาดสุดยอดผู้รักษาประตูร่างยักษ์รายนี้ไปไม่ได้อย่างแน่นอน การันตีด้วยการเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ ลีก ชไมเคิ่ลสามารถรักษาคลีนชีตได้หลายต่อหลายครั้งและเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ “ปีศาจแดง” ในทุกความสำเร็จตลอดช่วงยุค 1990

อีริค คันโตน่า
(เซ็นจากลีดส์ ยูไนเต็ด ปี 1992)
สุดยอดตำนานในดวงใจของแฟนบอลแมนฯยูไนเต็ดที่เชื่อเลยว่าจะไม่มีใครลืมช่วงเวลาของเขาที่อยู่กับทีมตลอด 5 ปี แข้งเลือดเฟร้นช์สะกิดเงินสโมสรที่เฟอร์กูสันจ่ายไปแค่ 1 ล้านปอนด์เท่านั้น แต่เขากลายเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการที่ทีมคว้า 4 แชมป์พรีเมียร์ ลีกและเอฟเอ คัพอีก 2 สมัย

รอย คีน
(เซ็นจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ปี 1993)
เงิน 3.75 ล้านปอนด์ที่เฟอร์กูสันจ่ายไปให้กับฟอเรสต์เพื่อตัวคีนนั้น เป็นสถิติของสหราชอาณาจักรในขณะนั้น แต่นั่นน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับฟอร์มการเล่นของเขาตลอดการค้าแข้งในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตลอด 12 ปี คีนเป็นหัวใจในแดนกลางของแมนฯยูไนเต็ด จนสามารถครองความยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษได้ในช่วงยุค 1990 และเขายังช่วยทีมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศแชมป์เปี้ยนส์ ลีก แม้ว่าจะติดโทษแบนจนอดลงเล่นกับเพื่อนก็ตาม

คริสเตียนโน่ โรนัลโด้
(เซ็นจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ปี 2003)
เฟอร์กูสันทุ่มเงิน 12.24 ล้านปอนด์เพื่อซื้อเพียงดาวรุ่งคนหนึ่งมาร่วมทีมและดูเหมือนว่าจะเป็นการลงทุนที่มากจนเกินไปในช่วงเริ่มแรงของปีกชาวโปรตุกีสรายนี้กับทีม แต่หลังจากนั้นเขาก็เริ่มโชว์ศักยภาพของตัวเองออกมา ก่อนที่จะก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลกคนหนึ่ง โรนัลโด้ทำไปทั้งหมด 42 ประตูให้กับทีมในฤดูกาล 2007-08 ซึ่งปีนั้น “ปีศาจแดง” คว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ ลีกด้วย แม้ว่าจะย้ายไปเล่นให้กับเรอัล มาดริด แต่เขากตอบแทนสโมสรด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก 80 ล้านปอนด์

เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
(เซ็นจากฟูแล่ม ปี 2005)
ฟาน เดอร์ ซาร์มีอายุ 34 ปีในตอนที่เขาย้ายมาเฝ้าเสาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดโดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัว แต่เขาก็โชว์ฟอร์มแบบลืมแก่ออกมาให้แฟนๆได้เห็นกัน
ไม่นานนักเฟอร์กูสันก็ค้นพบว่าเขาเจอคำตอบของปัญหาที่มีมาตลอด นับตั้งแต่หมดยุคของชไมคิ่ล ด้วยการที่ฟาน เดอร์ ซาร์ช่วยเฝ้าเสาให้ทีมเดินหน้าคว้าความสำเร็จมากมาย แชมป์พรีเมียร์ ลีก 4 สมัยและแชมป์เปี้ยนส์ ลีกอีกสมัย ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดใน ปี 2011

http://www.soccersuck.com/soccer/viewto ... sc&start=0
ปล. คนต่อไปในอนาคต ดาบิด เด เคอา















โด้ๆๆๆ