ในฐานะสาวกผู้บูชาลัทธิซาตาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คงได้แต่ทำใจกับคำให้สัมภาษณ์ของท่านศาสดา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ยืนยันหนักแน่นถึงศักยภาพของลูกทีมชุดที่ยังมีชีวิตอยู่รอดมาจากอาการบาด เจ็บจนถึงทุกวันนี้ว่ามีดีพอสำหรับการไขว่คว้าความสำเร็จในฤดูกาลนี้
แต่จากการที่ "ปีศาจแดง" ต้องกระเด็นตกรอบจากการแข่งขันศึก คาร์ลิ่ง คัพ รวมทั้งศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายในช่วงเวลาแค่ 11 วัน ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายที่น่าจะทำให้บรมกุนซือผู้ซึ่งจะมีอายุครบ 70 ปี ในวันส่งท้ายปีเก่าฉุกคิดขึ้นมาได้บ้าง
ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ มิดฟิลด์จรัสแสงในฤดูกาลนี้ ถูกความเถื่อนของ เควิน เดวี่ส์ สกัดดาวรุ่งไป ส่งผลให้พลพรรค "เร้ด เดวิลส์ " ขาดมิติในการทำเกมรุกไปพอสมควร เพราะการจ่ายบอลในแดนกลางดูเชื่องช้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่า อันแดร์สัน จะได้จับคู่กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค หรือแม้แต่ตัวเก๋าอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ ก็ตาม
ทว่า เมื่อ เฟล็ทเชอร์ และ อันแดร์สัน ต้องลาป่วยยาวตาม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ไป ดูเหมือนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องเผชิญกับวิกฤติในแดนกลางมากยิ่งขึ้น เมื่อนักเตะอย่าง กิ๊กส์ ก็สังขารไม่เอื้ออำนวยสำหรับการลงเล่นติดต่อกันหลายนัด ส่วน ดาร์รอน กิ๊บสัน ก็เป็นได้เพียงมิดฟิลด์ดาวรุ่งไปตลอดทั้งชีวิตนั่นแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ที่นี้ ก็เหลือเพียง คาร์ริค และ ฟิล โจนส์ แข้งจับฉ่ายภาค 2 ที่พร้อมสำหรับลงยืนจับคู่ในแดนกลางของทีม ก่อนที่จะถึงช่วงโปรแกรมฟาดแข้งในอันสุดโหดในช่วงคริสต์มาส ต่อเนื่องไปจนถึงปีใหม่ แต่ทั้งคู่ไม่ได้เป็นมิดฟิลด์ประเภทสายตาหลักแหลมที่จะแทงทะลุช่องให้เพื่อน เข้าไปถล่มตาข่ายคู่แข่งได้
ปัจจุบัน รูปแบบการเข้าทำประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด มักจะอาศัย เวย์น รูนี่ย์ ลงมาล้วงบอลเองในแดนกลาง ก่อนที่จะแทงทะลุช่อง หรือไม่ก็โยนยาวไปให้กับ หลุยส์ นานี่, แอชลี่ย์ ยัง หรือ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่สลับกันลงสนามทำเกมทางริมเส้น ทำหน้าที่เปิดบอลเข้าไปลุ้นหาจังหวะยิงในกรอบเขตโทษเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันที่กองหลังคู่แข่งสามารถรับมือกับลูกโยนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ให้มาเข้าทางของกองหน้าชาวเม็กซิกันอย่าง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ได้แล้ว เหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" ก็ต้องนั่งลุ้นปัสสาวะเหนียวทุกครั้งว่าทีมรักจะสามารถเก็บชัยชนะในเกมนั้นๆ ได้หรือไม่
ดันนั้น สิ่งที่ต้องลุ้นเป็นอย่างแรกคือการลุ้นให้บิ๊กบอสชาวสก็อตต์ลด "ทิฐิ" อันแรงกล้าของตัวเองเสียก่อน เพื่อที่เจ้าตัวจะได้เล็งเห็นปัญหาที่แท้จริงของทีมในตอนนี้ จากนั้นมาลุ้นกันต่อว่าป๋าจะเล็งคว้าตัวกองกลางรายใดมาเสริมทัพในช่วงเปิด ตลาดซื้อขายเดือน ม.ค. ซึ่งกำลังจะเปิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สำหรับผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวปั้นเกมที่มีข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ผ่านมา แทบจะมีให้เห็นอยู่ทุกๆ วัน อาทิ ลูก้า โมดริช, มาริโอ เกิทเซ่, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, นิโกลัส ไกตาน, คริสเตียน อิริคเซ่น, มาเร็ค ฮัมซิค รวมทั้ง เปาโล กานโซ่
แต่หากจะให้เลือกมา 1 คน จาก 7 รายชื่อที่ยกขึ้นมา โดยส่วนตัวแล้วคงเลือกจิ้มไปที่ ลูก้า โมดริช กองกลางชาวโครแอตของ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ อย่างไม่ลังเล ด้วยเหตุที่ว่าดาวเตะวัย 26 ปี มีประสบการณ์การตะบันแข้งบนเวที พรีเมียร์ลีก มามากกว่า 100 เกม ทำให้ไม่ต้องลุ้นว่าเจ้าตัวจะสามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นอันหนักหน่วง รวดเร็วของลีกผู้ดีได้หรือไม่
ส่วนอีก 6 คนที่เหลือ แม้ว่าบางคนจะมีชื่อชั้นที่เหนือกว่า โมดริช แต่ก็ไม่มีใครที่รับประกันได้ว่าพวกเขาจะสามารถปรับตัวเข้ากับระบบการเล่น ของ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงศึก พรีเมียร์ลีก ได้หรือไม่
สุดท้ายแล้ว อุปสรรคทุกอย่างในตอนนี้คงหนีไม่พ้น "ทิฐิ" ของผู้จัดการทีมที่มีนามว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพราะหากป๋าแกยอมรับความจริงซะบ้าง เรื่องของเงินทองสำหรับการทุ่มซื้อนักเตะมาร่วมทีมสักคน คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับทีมที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่แล้ว








