กับฮาซาร์ด ก็แอบหวั่นใจอยู่นิดนึง ตรงที่เจ้าตัวอยากเล่นต่อเนื่อง และอยากเล่นในตำแหน่งของเบอร์ 10 คือจอมทัพ เพลย์เมกเกอร์ นั่นเอง... ส่วนตัวแล้ว ดูฟอร์มฮาซาร์ดมาซักพัก ยังไงก็ต้องเล่นริมเส้น อาจจะตัดเข้ามาทำประตู แต่ยังไงก็ต้องอยู่ริมเส้นเป็นหลัก มากกว่าจะไปทำเกมตรงกลาง... ไม่ใช่สไตล์ ซีดาน เชส โมดริซ หรือซิลบาเลย... ถ้ามีเงื่อนไขเลือกตำแหน่งเล่นแบบนี้จริง คงไม่ใช่จุดประสงค์ของทีมเรา หรือเฟอร์กี้แน่... ผมว่าเฟอร์กี้น่าจะวางมาเล่นทางซ้ายมากกว่า...
มีทั้งแมนซิตี้ และเชลซียุค(กำลัง) ปรับปรุงใหม่... ทำให้อดย้อนมองกลับไปในช่วงที่ class of 92 กำลังโรยราไปไม่ได้... แมนยูฯ ในยุคที่แกร่งทั่วแผ่น เปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่กันไม่ทัน ... ทั้งเอฟร่า ปาร์ค ฟานเดอร์ซาร์ วิดิช ฮากรีฟ เตฟ... ไม่ใช่การเสริมความแข็งแกร่งแบบชั่วข้ามคืนอย่างที่ใครหวังกันแน่... มันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป.. ค่อยๆสะสมขุมกำลังจนแกร่งพอ... ใช้เวลาหลายปี...แต่ต่างกันที่ตอนนั้นเรามีรูนและโด้เป็นแกนของทีม... ตอนนี้ยังคงต้องการนักเตะพิเศษคนนึง อย่างยิ่งยวด...
ตอนนี้ทีมต่างๆในยุโรปแกร่งขึ้นกว่าช่วงที่เราเข้าชิงต่อเนื่องมาก... ทั้งบาร์เยิน มิลาน มาดริด และกำลังจะมีเชลซี แมนซิตี้ บาร์ซ่า เองก็ยังแกร่งแต่อาจจะไม่ใช่ทีมไร้เทียมทาน แบบยุคของเป๊บ ผมเชื่อว่า น่าจะเทียบได้กับยุคของไรการ์จ ที่มีโรนัลดินโญ่มากกว่า...
ขึ้นอยู่กับเฟอร์กี้แล้วครับ ว่าจะใจเย็นอยู่ได้หรือเปล่า... แต่ต้องยอมรับนิดนึงว่า เวลาเหมือนสายน้ำ ไม่เคยรอใคร... ถ้าหวังจะสร้างทีมพร้อมใช้ใน 3-4 ปีข้างหน้าอาจจะไม่ทัน.. ตัวเฟอร์กี้เองก็ส่งสัญญาณปัญหาเรื่องสุขภาพออกมาบ้างแล้ว...
ส่วนตัวแล้ว เสียดายฮาซาร์ดมาก เพราะคือนักเตะที่หวังและเดินหน้าแบบเต็มที่แล้ว แต่สู้ไม่ได้... ต่างกับแมนซิตี้ ที่พยายามมาเซฟค่าใช้จ่ายไม่เข้าเรื่อง ถึงได้พลาดไปเอง... แต่ผมยังเชื่อว่า ถ้าเรามีแผนยอมจ่ายถึง 32 ล้านเพื่อนักเตะ 1 คนในตลาดแล้ว ก็ไม่แน่อาจจะมีเป้าหมายอื่นอีก ที่เราจะยอมทุ่มเช่นกัน... อย่างเบล โมดริซ... ก็น่าจะเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ ... ต้องลุ้นกันต่อไป...
สุดท้ายนี้ ได้แต่ก้มหน้ายอมรับ และได้แต่หวังว่าจะไม่เห็นภาพซ้ำ ที่เราต้องกลับไปมีช่วงมือเปล่า อีก 2-3 ปี ได้แต่ไปลุ้นเอาจริงกับลีกคัพ ... แต่ถึงจะไม่อยาก ถ้ามันต้องเกิดขึ้นจริงๆ ก็จะเป็นไรไปเล่า ... ยังไงผมก็เชียร์...
