[แบบสอบถาม] การเลือกตำแหน่งยิงประตูจุดโทษ

[Norse]

อยากรู้ว่าคุณจะเตะลูกบอลไปที่ตำแหน่งไหนครับ ระว่าง ...
1. จุดบน ... ถึงแม้ผู้รักษาประตูจะพุ่งมาถูกทาง แต่โอกาสยิงเข้ามีถึง 70-80%
2. จุดล่าง ... ถ้าหากผู้รักษาประตูพุ่งมาถูกทาง โอกาสยิงเข้ามีแค่ 20-30%

[akillis]

ผมว่าเรื่องมุมยิงมันละเอียดอ่อนเหมือนกันนะครับ
มุมสูง คนยิงจะต้องมีความมั่นใจมากๆ และต้องยิงดีถึงจะส่งบอลเข้ามุมพอดี หากไม่มีความมั่นใจแล้วมุมสูงด้วยการตะบันแรงๆ บอลอาจจะเลยข้ามคาน หรือถ้าไม่อัดแรงนายทวารอาจจะเอื้อมมือขึ้นไปปัดถึง (ซึ่งมีหลายครั้งที่เห็นนายทวารป้องกันแบบนี้ได้)
สรุปคือมุมสูง ผมว่าคนยิงนอกจะต้องมั่นใจ ฝีเท้ายังต้องดีด้วย และโอกาสเข้าอย่างที่คุณว่ามามีสูงกว่ามุมเรียด แต่โอกาสออกก็มีถ้าซัดแรงเกิน

มุมเรียด ผมว่าคนยิงก็ต้องมั่นใจสุดๆ เช่นกัน เพราะมุมที่จะเข้าได้คือใกล้เสาประตูที่สุด เนื่องจากนายทวารมักเผื่อเหลือเผื่อขาดเวลาพุ่งกลัวบอลจะมากลางประตู ส่วนใหญ่จึงมักพุ่งออกไปไม่สุด ถ้ายิงดีเข้าใกล้เสาโอกาสได้ประตูมีสูง ซึ่งผมว่ามุมแบบนี้ยิงยากกว่าการอัดแรงมุมสูง
ส่วนคนที่ไม่ค่อยมั่นใจ (อาจจะเริ่มกดดันเรื่อยๆ) และฝีเท้ายิงไม่ดี มักจะเห็นบอลพุ่งไม่พ้นรัศมีป้องกัน เหมือนที่น้าซาร์พุ่งปัดบอลจากอเนลก้าเมื่อปี 2008 ซึ่งดูจากสีหน้าและแววตากังวลมาก จึงยิงได้ไม่ดีเหมือนปกติ

ผมว่าทีมคงมีช่วงซ้อมทุกทีมนั่นแหล่ะครับ ซึ่งส่วนใหญ่ทีมที่เป็นรองก่อนแข่งมักเน้นพิเศษในการซ้อมจุดโทษ เพราะโอกาสชนะในเกมมีน้อย อุดเรื่อยๆ วัดจุดโทษกันไป

มีบางพวกนะครับเท่าที่อ่านมา เค้าจะมองดูท่าทีของนายทวารก่อนเลือกมุมยิง (ซึ่งคนที่จะทำแบบนี้ได้นอกจากความมั่นใจที่ต้องสุดๆ แล้ว ยังต้องมีทักษะกดลูกนิ่งได้ดีพอตัวด้วยการหลอกหน้าเท้า)


แม้จะซ้อมเยอะ แต่เมื่อถึงเวลาจริง บางทีคนยิงอาจจะกดดันจนไม่เลือกยิงมุมที่เคยซ้อมไว้ก็ได้ครับ ในใจอาจจะคิดว่าขอแค่เข้า
โดยเลือกยิงมุมเรียด หากมุมพอก็เข้า แต่หากดันยิงไม่ดีพอก็โดนเซฟได้
หรือเลือกตะบันสุดแรงในมุมสูงให้จบๆ กันไป ซึ่งโอกาสแบบนี้ก็มีสิทธิ์ข้ามคานได้ง่ายๆ หากยิงด้วยความร้อนรน

กลับมาสู่ทีมแมนยูต่อ ผมว่าในช่วงซ้อมปกติคงมีการยิงจุดโทษบ้างนั่นแหล่ะ แต่พอแข่งจริงคนยิงใจต้องนิ่ง ถึงจะยิงได้อย่างที่ซ้อม
ไม่งั้นผมว่าเอเรลาร์หรือมาต้าคงยิงได้ไม่ดีเหมือนคนอื่นๆ ครับ


...สุดท้าย ลูกจุดโทษผมเองก็ไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะจังหวะแบบนี้ 50/50 นายทวารกับคนยิง วัดใจกัน
ผมหวังกับเรื่องฟรีคิก หรือเตะมุมมากกว่า ไม่มีใครมีทีเด็ดพอหวังผลได้เลย ยิ่งปรัชญาของลุงแกเน้นครองบอลด้วยแล้ว การลุ้นจากฟรีคิกหรือเตะมุมจะเป็นอีกทางเลือกในการทำประตู
...เตะยังหาเท้าชั่งทองประจำทีมไม่ได้เลย เศร้าแพร่บ.....(ถ้าน้ากิ๊กส์ได้คุมทีม ติดต่อเบ็คมาเป็นโค้ชติวเข้มเรื่องการเปิดและยิงฟรีคิกด่วน!

[algha111]

ผมว่าจริงๆแล้วจุดโทษมันมีโอกาสเข้ามากกว่าไม่เข้านะ
แต่เวลายิงจริงสิ่งที่ต้องเจอคือความกดดันที่ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ยังอาจพลาดได้
มุมบนจะเป็นมุมที่ยิงยากกว่า แต่โอกาสเข้าสูง
มุมล่างมีโอกาสถูกเซพมากกว่า แต่ยิงง่ายกว่า
แต่ผมว่ามมล่าง ที่วางเท้ายิงง่ายกว่ามันทำให้สามารถออกแรงเตะได้มากกว่านะ
ถ้าลูกพุ่งแรงก็มีโอกาสที่ลูกเข้าประตูก่อนที่โกลจะพุ่งไปถึง
สังเกตุนักเตะหลายๆคนมักจะเลือกยิงมุมเดิมที่ตัวเองถนัดตลอด แต่จะยิงแรงมากจนโกลพุ่งไม่ทัน

[Norse]

ความกดดันแทบไม่มีผลครับ ถ้าหากฝึกซ้อม มีการพูดคุย ตกลงกันมาอย่างดีแล้ว (คือต้องตัดสินใจกันตั้งแต่ก่อนเดินไปยิงจุดโทษ)

สมมติว่าถ้าคุณเป็นนักเตะแมนยู แล้วก่อนยิงจุดโทษช่วงที่ ฟานกัล เลือกนักเตะลงไปยิง >>> ฟาน กัล บอกคุณว่า อย่ายิงเรียด อย่ายิงต่ำ คุณจะยิงเรียดหรือเปล่า เชื่อผมได้เลยว่าคุณต้องยิงสูงขึ้นครับ แบบไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เพราะโดนสั่งไปแล้ว (และนี่คือสิ่งที่ผู้จัดการทีมควรกำชับนักเตะ)

ส่วนเรื่องยิงมุมสูง คุณต้องเข้าใจด้วยว่า การยิงสูงไม่จำเป็นต้องยิงให้เฉียดคานข้างบน หรือให้ใกล้คานประตูที่สุด การยิงสูงหมายถึงแค่ ยิงให้ได้ประมาณกึ่งกลางประตูครับ จะไปยิงให้เฉียดคานเพื่ออะไร มันไม่มีรางวัลให้นะครับ

เสาประตู (จากพื้นถึงคาน) จะสูง 2.4 เมตร คุณยิงให้สูงแค่ 1.2 - 1.5 เมตรก็พอแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องไปยิงให้ได้ 2.20 เมตร+ เลย แบบนั้นมันเป็นการเสี่ยงยิงข้ามคานโดยเปล่าประโยชน์

นี่ล่ะคือสิ่งที่หลายๆคนเข้าใจผิดครับ คิดกันแต่ว่ายิงสูงหมายถึงให้ยิงเข้า 3 เหลี่ยมบน ... อันนี้มันผิดวัตถุประสงค์แล้วนะ
ต้องมาศึกษาวิเคราะห์ตำแหน่งให้ดีว่าตรงไหนคือตำแหน่งที่ปลอดภัยยิงแล้วมีโอกาสเข้าง่ายที่สุด และยากที่จะข้ามคาน ตรงไหนคนยิงได้เปรียบ ก็ยิงตรงนั้นครับ

การยิงจุดโทษไม่ใช่การวัดดวง 50-50 นะครับ ตรงนี้หลายๆคนที่เข้าใจแบบนี้ ควรจะเปลี่ยนมุมมองกันใหม่ได้แล้ว >>> เพราะการยิงจุดโทษคือการแข่งความแม่นยำอย่างเดียวเลย ถ้าคุณยิงไปตรงตำแหน่งที่เข้า 100% ได้ คุณก็จะได้ประตู

พูดง่ายๆนะ อันนี้สมมตินะ >>> ถ้าหากใครยิงไปตรง 3 เหลี่ยมบนได้ คนนั้นก็ได้ประตู >>> จะเห็นว่ามันไม่ใช่การวัดดวงอะไรเลยครับ ใครเตะเข้าเป้าก็ได้แต้ม จบง่ายๆ

หลายคนก็อาจจะแย้งว่า การจะเตะให้ตรงน่ะสิมันยาก มันต้องใช้สมาธิสูง >>> ถ้าจะเตะให้เข้าเป้าเฉพาะ 3 เหลี่ยมบน มันก็ยากแหละครับ เพราะมีจุดให้เลือกแค่ 1 จุด (สมมติว่าพูดถึงฝั่งซ้ายฝั่งเดียวก่อน)

แต่ในความเป็นจริง จุดปลอดภัยมันมีเยอะมาก เยอะมากกว่าจุดอันตรายซะอีก (ดูรูปข้างล่างประกอบ)



รูปนี้จะแสดงให้เห็นว่าเส้นสีเหลืองคือระยะที่ผู้รักษาประตูสามารถพุ่งไปถึงและปัดได้ ส่วนเส้นสีส้มแบ่งเอาไว้ให้เห็นว่า ข้างบนเส้นสีส้มนี้คือจุดปลอดภัยทั้งหมด




ถ้าเลือกยิงเรียดพื้น หรือยิงระดับต่ำไม่เกินหัวเข่า คุณจะเห็นเลยว่าตำแหน่งปลอดภัยมีแค่ในช่วงพื้นที่สีเขียวเท่านั้น ซึ่งมันน้อยมากครับ ยิงให้เข้าเป้ายากมาก




ถ้าเลือกยิงสูง ตั้งแต่ช่วงระดับเอว ไปจนถึง ใต้คาน จะเห็นว่ามีพื้นที่ให้ยิงเยอะกว่า เยอะมากกกกกกก
(แนะนำให้เล็งยิงจุดสีเหลืองก็พอ ไม่ต้องยิงสูงขนาดเส้นสีแดง)




อย่าลืมนะครับว่า ผมไม่ต้องการให้ไปแข่งยิงชนคานเพื่อชิงแชมป์โลกอะไรเลย ผมแนะนำให้ยิงแค่ระดับสูงราวๆ อก ซึ่งมันไม่ได้ยากเย็นอะไร แล้วมันก็ปลอดภัยมากด้วย (ผมแนะนำให้ยิงระหว่าง เส้นสีเหลือง กับ สีเขียว >>> หมายถึงเล็งตรงกลางระหว่างเส้นทั้ง 2)


ตำแหน่งที่แนะนำให้เล็งไว้คือความสูงระดับสีเหลือง จะเห็นว่าอยู่ระดับ อก ของผู้รักษาประตู


เวลาผู้รักษาประตูเตรียมพุ่ง มันจะย่อตัวลง ความสูงจะลดลงครับ
- สีเหลืองแนะนำให้เล็ง
- สีส้ม ถ้าคิดว่าแม่นก็จัดไป
- สีแดงคือ ถ้าใครบ้าก็เล็งตรงนั้นแหละ ไม่เคยแนะนำให้เล็งนะ




ในการเตะบอลจากตำแหน่งหนึ่ง ไปอีกตำแหน่ง มันไม่มีทางตรงกับที่เราตั้งใจไว้ทุกครั้งหรอกครับ >>> มันจะมีความผิดพลาด ความเพี้ยนเกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่ค่าความผิดพลาดนี้มันจะไม่มากเวอร์ คือมันจะอยู่ในช่วงที่เรารับได้ (พูดถึงการจ่ายบอลระยะ 10 เมตรนะ ไม่ได้จ่าย 20-30-40-50 เมตร)
- จากรูปนี้ จุดที่ 1 เจ็ทโด้ เล็งมุมซ้ายมือ (จุดสีเหลือง) จะเห็นว่ามันก็เล็งจุดปลอดภัยนั่นแหละ แต่พอยิงจริงๆมันก็เตะไม่ตรง เพราะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ความผิดพลาดก็คือบริเวณที่เป็นรัศมีวงกลมสีส้ม (ในรูปคือตำแหน่งไม่ดี เลยโดนประตูเซฟได้)
- จุดที่ 2 ผมจะชี้ให้เห็นว่า ถ้าเราเล็งใกล้คานมากเกินไป มันก็อาจจะมีสิทธิ์ข้ามคานได้ เพราะรัศมีความผิดพลาดมันเกินออกไปข้างบน
- จุดที่ 3 จุดนี้ผมจะชี้ให้เห็นว่า ถ้าเล็งระดับความสูงประมาณนี้ ถึงผิดพลาดยังไง ลูกบอลก็จะยังอยู่ในประตูไม่หลุดออกครับ คือเราไม่ต้องเสี่ยงอะไรเลย (แค่ไปฝึกซ้อมมาดีๆ + หาข้อมูล + วิเคราะห์จุดได้เปรียบ ... ไม่ใช่ยิงส่งเดชมั่วๆ)

[layling]

ผมว่าแรงกดดันคับ นักเตะจะเก่งแค่ไหนพลาดจุดโทษมากันไม่รู้เท่าไรคับ ส่วนใหญ่ถ้าใครมีความมันใจมากๆยิงหายหมดคับ
เคยสั่งเกตุไหมคับพวกพลาดจุดโทษความรู้สึกของคนดูถ้าได้เห็นสีหน้าของคนยิงแทบจะมองอกเลยว่าจะยิงไม่เข้า มันกดดันจริงๆคับยิงเข้าเสมอตัวยิงไม่เข้านี้แพะรับบาปเต็มๆ นักเตะระดับโลกหลายคนบางทีไม่กล้ายิงจุดโทษเยอะคับ ขนาดฝึกยิงกันมาพอถึงเวลาไม่กล้ายิงก็เยอะ ความกดดันมาพากล้ามเนื้อเกร็งไม่โดยธรรมชาติ บางทีขาก้าวไม่ออกเลยผิดจังหวะ เบ็คแฮมเจ้าพ่อลูกนิ่งว่างบอลแม่นสุดๆยิงจุดโทษพลาดไม่รู้เท่าไรคับ

[Norse]

เขาเล็งตำแหน่งไม่ดีเองครับ เรียกได้ว่าไม่มีใครกำหนดตำแหน่งมาตั้งแต่ก่อนยิง เพิ่งจะมาตัดสินใจก็ตอนวางลูกบอลเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้กลายเป็นว่าสับสนตัวเอง

ลองพิจารณาจุดที่ว่าถ้าหากเราเล็งบอลที่ระดับข้อเท้า หรือ หัวเข่า ลูกบอลจะไม่ข้ามคานเลย ถูกมั๊ยครับ ... ต่อให้กดดันแค่ไหนก็ตาม ลูกบอลจะไม่ข้ามคานแน่นอน ดังนั้นมันไม่เกี่ยวกับสภาพจิตใจ แต่มันอยู่ที่การวางเท้า (การเล็งตำแหน่งด้วย เล็งสูงมากไปก็เสี่ยงมากตามไปด้วย)

ถ้าเล็งบริเวณ อก หรือ หัว ก็มีสิทธิ์ข้ามคานได้จริง ตรงนี้คนเตะก็ต้องรู้ตัวเองว่าต้องเล็งประมาณไหน อย่างเช่น กำหนดให้เล็งที่ เอว พอแล้ว ถ้าผิดพลาดมามันก็จะสูงแค่ใต้คานประตู หรือถ้าเตะไปแล้วน้ำหนักไม่ดี ลูกบอลก็อาจจะต่ำลงมาอยู่ที่หัวเข่า แต่จะไม่เรียดพื้น

ตรงนี้ต้องไปซ้อมให้เคยชินก่อนครับ จับจุดให้รู้ว่าตัวเองนั้นเวลาะเตะบอลชอบง้างเท้าแบบไหน บางคนง้างแบบงัดขึ้น พวกนี้ก็ต้องงัดให้น้อยลง / บางคนมาอีแป พวกนี้แทบไม่มีข้ามคานอยู่แล้ว / บางคนมาแบบเต็มข้อ เต็มหลังเท้า ถ้าซัดเต็มแรงก็อาจจะข้ามคาน งั้นก็ต้องซัดให้เบาลง คือใช้แรงแค่ 50-70 % / บางคนเอาแบบปั่นโค้งนิดๆอีกแน่ะ ทั้งงัด ทั้งปั่น เสี่ยงหนักขึ้นไปอีก

แล้วก็เรื่องของจิตใจเนี่ย ไปฝึกกันมาให้ดีครับ ทีมงานโค้ชที่เกี่ยวข้องต้องบอกต้องสอนแล้ว มืออาชีพระดับโลกกันแบบนี้ยังปล่อยให้มีอาการขาสั่นไม่ได้ละครับ

ไม่แปลกใจกันบ้างเหรอว่า ทำไมทุกทีมที่เตะจุดโทษแข่งกับเรา เขาทำได้ดีกว่าเราทุกทีมเลย ถ้าจะบอกว่าทีมอื่นเขาจิตใจมั่นคง แน่วแน่ นิ่งกว่าเรา ... งั้นก็เป็นอันชัดเจนว่านักเตะเราห่วยเอง ไม่นิ่ง จิตใจไม่แกร่งพอ สมควรฝึกเพิ่มครับ ฝึกให้นิ่ง ฝึกให้ได้เหมือนอย่างคู่แข่ง ไม่ใช่ว่าเอาแต่ปลง บอกแต่ว่าอยู่ที่สภาพจิตใจ อยู่ที่ดวง (ถ้าย่ำอยู่กับที่แบบนี้ทีมเราก็ไม่ต้องพัฒนาไปไหนละครับ กาก อยู่แบบนี้แหละ)

*** ก่อนหน้านี้ 1 เดือนครึ่ง รูนนี่ ก็เพิ่งยิงจุดโทษให้ทีมชาติอังกฤษ ยิงแบบเต็มๆตีน ลูกสูงประมาณ อก เข้าไปแบบเทพๆ จะบอกว่า รูนนี่ จิตใจไม่นิ่งมันก็ไม่ใช่ครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ รูนนี่ ปืนฝืดมาก ยิงไม่เข้าหลายนัดแล้ว คือกำลังโดนด่าอยู่เป็นทุนเดิม นัดนั้นพลาดไม่ได้เลย แต่ รูนนี่ กลับยิงสูงเต็มตีน ตรงนี้ก็ต้องถามว่า ทำไมรูนนี่ถึงยิงสูงได้ *** ถ้าหากกลัวลูกทีมจิตใจไม่นิ่งพอ ก็ถึงคราวที่ผู้จัดการทีมนั่นล่ะครับต้องเป็นฝ่ายบอก กำชับ เน้นๆ ว่า เอ็งยิงเท่า อก มันเลย แค่นี้มันก็จะยิงตามสั่งแล้วครับ ***





คลิปนี้เอามาให้ดูว่า รูนนี้ ช่วงฟอร์มฝืดยิงไม่ค่อยได้ กับภารกิจการยิงจุดโทษช่วยทีมชาติ (1 เดือนครึ่งก่อนหน้านี้)
นัดนี้ก็กดดันไม่แพ้กัน แต่ทำไม รูนนี่ มาแบบเต็มๆตีน ยิงเข้าไปแบบเทพๆได้
จากคลิปจะเห็นเลยว่า รูนนี่ ยิงสูงระดับ อก แต่ผู้รักษาประตูเอื้อมมือปัดถึง (ปัดไม่เต็มมือ+ยิงเต็มข้อ เอาไม่อยู่หรอก) ... ถ้าลูกนี้ รูนนี่ เลือกยิงเรียดดากๆเหมือนเดิม คงไม่ต้องบอกนะครับว่ารับง่ายสบายบรื๋อ (เหมือนที่โดนโบโร่สอยมาสดๆร้อนๆ)

ถ้าผู้จัดการทีมเรียกนักเตะมาข้างสนามแล้วบอกว่า "ยิงเท่า อก นะโว้ย ยิงให้เต็มๆตีนเลย" แค่นี้คุณก็จะได้เห็นนักเตะทุกคนยิงแบบ รูนนี่ ครับ ... แบบว่าไม่ต้องมาห่วงเรื่องสภาพจิตใจอีกเลย นักเตะมันจะหวดเลยแบบไม่ต้องคิดอะไรแล้ว (คิดแค่ว่าจะยิง ซ้าย หรือ ขวา)

แต่ทีมเราไม่เคยมีใครไปบอก ไปกำชับ ไปชี้แนะ ทีมเราปล่อยให้เล่นกันสบายๆครับ ใครอยากยิงตรงไหนก็ยิงไปดิ (เหมือนที่แฟนบอลหลายๆคนกำลังคิดอยู่ในตอนนี้ คือ ทำใจแล้วปล่อยให้มันยิงๆไปเหอะ จะได้จบๆสักที)

ก็เหมือนเวลาทีมเรากำลังเล่นกากๆ แฟนบอลนี่้อย่างเซ็ง ทำไมทีมเราจ่ายเสียจ่ายพลาด ทำไมทีมเราเอาแต่สาดยาว นักเตะเดินไปเดินมา ไม่วิ่งหาช่อง ... แต่ผู้จัดการทีมยังนั่งดูอยู่บนอัฒจรรย์อย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร ปล่อยนักเตะเล่นกันไปตามสบาย ไม่มีการลงมาสั่ง หรือมาบอกข้างสนามเลย ฟรีสไตล์เป็นอย่างยิ่ง

ผลของการปล่อยให้มันเล่นกันแบบเลยตามเลย ผลงานก็เลยเป็นแบบเลยตามเลยนี่แหละครับ

[Norse]

แอฟริกัน เนชั่น คัพ 2012 นัดชิง Ivory Coast vs Zambia
กดดันกันอย่างมาก แต่นักเตะเลือกยิงสูงกันอย่างชิลๆ ทั้งๆที่ฝีเท้าก็ไม่เทพ ชื่อเสียงก็ไม่มี หลายคนฝีเท้าไม่ได้เทพเลย ... มีแต่ความมั่นใจ





สรุปผล


จะเห็นว่านักเตะแอฟรืกาใต้เน้นยิงสูงทั้งนั้นครับ 17 ลูกยิงสูง 14 ลูก ยิงต่ำแค่ 3 ลูก ลักษณะแบบนี้มาจากการฝึกซ้อม หรือโดนโค้ชกำชับมา ไม่ได้ปล่อยให้ยิงกันเองแน่ๆ (ส่วนอีก 1 ลูกนั้น ตอนแรกยิงเรียดดากๆเลยโดนเซฟ แต่โชคดีกรรมการมองว่าฟาวส์ให้ยิงใหม่ คราวนี้เลยเปลี่ยนมายิงสูงเต็มๆตีนตาข่ายขาด ... ตรงนี้จะเห็นว่าครั้งแรกยิงไม่เข้า กดดันหนักมากกว่าเดิมนะ ได้ยิงใหม่ถ้าไม่เข้าอีกจะยิ่งโคตรกดดัน แต่นักเตะมันทำได้ครับ นิ่งมั๊ยล่ะ)

[Norse]

แอฟริกัน เนชั่น คัพ 2015 นัดชิง Ghana vs Ivory Coast
กดดันกันอย่างมาก เช่นเคย แต่นักเตะเลือกยิงสูงกันอย่างชิลๆ (โดยเฉพาะนักเตะ Ivory Cost)





สรุปผล


*** พวกเตะสูงแต่ออกข้างนี้ สังเกตดูพวกนี้จะเล่นปั่นโค้งช่วย แต่บอลไซด์โค้งไม่มากพอ ออกข้างแล้วออกข้างยาวไปเลย คือมันจะเล่นกินมุมเสาประตูมากเกินไป ความจริงยิงให้ห่างจากเสาสัก 1 ศอก ก็ปลอดภัยแล้ว

[K.H]

ถูกตามที่เจ้าของกระทู้ว่าครับ
ยิงสูงจากพื้น ประมาณ1 เมตร ห่างจากเสาร 1 ฟุตรับยากสุด
มีผลจัยเป็นการันตี ้ เราเองดูก็เห๋นชัดว่าจิง
..
.

มุมบน ถึงประตูพุ่งถูก แต่รับยาก

กานยิงจุดโทษที่ดียังไงก็ต้องฝึกใหแม่น. สิ่งที่โค้ชจะเลือกน่าจะ

1 ดูก่อว่าใครยิงดีสุด จากนั้น
2 จากคนยิงดีสุดก็มาดูอีกทีว่าใครมั่นใจ

้หมือนบาสเก็ตบอลที่ซ้อมยิงวันละพัน
ถ้าไม่ซ้อมจนชำนาญจะเอาความมั่นใจมาจากไหน
(ถ้าคนที่จะยิงปากบอกมั่นใจแต่ไม่ค่อยซ้อมใครจะกล้าเชื่อครับ)

[patter]

ยิงเรียด ถ้ายิงได้มุม อันนี้ก็รับยากจริงๆ
เพราะถึงระยะของผู้รักษาประตูจะนอนเหยียดแขนได้ถึง
แต่มันต้องใช้เวลาในการล้มตัวนาน นานกว่าการโฉบไปปัดบอลลูกที่ลอย

[K.H]

ยิงเรียด ถ้ายิงได้มุม อันนี้ก็รับยากจริงๆ
เพราะถึงระยะของผู้รักษาประตูจะนอนเหยียดแขนได้ถึง
แต่มันต้องใช้เวลาในการล้มตัวนาน นานกว่าการโฉบไปปัดบอลลูกที่ลอย

เห็นด้วยยิงเรียดมุมก็รับยาก

[layling]

นักเตะทุกคนเดินมาเขาคิดไว้แล้วว่าจะยิงมุนไหน สวนโกลเข้ามีมีการฝึกมองการว่างเท้า บางคนคิดจะยิงขวาแต่พอมองหน้าโกลเกิดเปลี่ยนใจ นั้นก็เพราะเกิดจากการกดดัน นักเตะคนไหนบ้างที่ไม่พลาดจุดโทษ ไม่ว่า ไอ้โด้หรือ เมสซี่ ที่ว่าสุดยอดนักเตะยิงพลาดกันมากี่ครั้ง บางครั้งเจอโกลตัวใหญ่แขนยาว อีกนัดเจอโกลตัวเล็กแต่โดดได้วัย ไอ้เราคนวิจารณ์มันพูดง่าย ให้ยิงมุมนั้นมุมนี้แต่สถาณการไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ตอนเดินมาคิดจะยิงซ้าย โกลบางคนขยับไปมา จนทำให้เราไข้วเขว เพราะมันกดดันยิงเขาเสมอตัว ยิงไม่เข้าโดนด่า อันนี้แหละที่เป็นจุดเปลี่ยน บางคนยิงเข้านี้ถอนหายใจเลยนะ ถ้านักเตะคนไหนถ้าเข้าฟร์อมยิงหายหมดเพราะมันมันใจ แต่ถ้าฟร์อมไม่ดีมันก็กดดันตัวเองยิงเข้าก็โล่ง ดูฃิชา ก่อนโดนขายเป็นไงยิงจุดโทษลื่นซ่ะงั้น ปีเราได้แชมป์ UCL เทอรี่ลื่นซ่ะงั้น ถ้าจำไม่ผิดไอ้โด้ก็พลาดจุดโทษ

[Norse]

การยิงเลียดพื้นได้มุมรับยากแน่นอน ถือว่าเข้าชัวร์เลยก็ได้ครับ

แต่ ... รู้กันบ้างหรือเปล่าว่าพื้นที่ ที่มีให้ยิงไปนั้นมีพื้นที่นิดเดียว ดูตามรูปเอานะครับ จะเห็นว่ามันมีให้ยิงอยู่แค่นั้นแหละ
จริงๆแล้วต้องบอกว่า ยิงต่ำน่ะกดดันมากกว่ายิงสูงซะอีก เพราะต้องกลัว ยิงออกนอกกรอบ / กลัวยิงไม่ชิดเสาดีพอ คือกลัวยิงไปให้ประตูปัดได้



เริ่มต้นก่อนยิงเราก็จะคิดกันแค่ว่า
1.เราจะยิงไปทางไหน
2.ประตูจะพุ่งไปทางไหน ไม่ ซ้าย ก็ ขวา
3. ถ้าเรายิงซ้าย ประตูพุ่งซ้ายถูกทางล่ะ ตื่นเต้นสัสๆล่ะครับงานนี้ แค่นี้ก็เยี่ยวราดแล้ว กดดันโคตรๆ

ผิดกับการเลือกยิงสูง เพราะว่า
1. ถ้าเรายิงสูงไม่ชิดเสา คือแถวๆห่างขอบเสาสัก 1.5 เมตร มันก็เข้าประตูอยู่ดี ต่อให้ตรงกับ หรรม ของประตูก็ตาม แต่ลูกบอลอยู่สูงกว่า มันก็เข้าครับ
2. หรือเรายิงสูง และชิดเสา มันก็เข้าอีก คือพื้นที่มีให้เลือกสรรเยอะมากครับ ยิงไปตรงไหนของพื้นที่ก็เข้า

แต่เข้าใจครับ ว่าการยิงสูงเสี่ยงข้ามคาน
1. ดังนั้นก็ต้องฝึกซ้อมให้ดี การวางเท้า แรง น้ำหนัก มุม ไปฝึกมาก
2. จริงอยู่ว่าฝึกดียังไง ก็ยังมีสิทธิ์ยิงพลาดข้ามคาน เพราะความกดดัน ความตื่นเต้น >>> แต่ ... ก็อย่าเอาความคิดแบบนี้มาคิดครับ เพราะถ้าคุณเลือกยิงต่ำคุณก็ต้องเสี่ยงยิงข้ามเสาอยู่ดี (หมายถึงยิงออกนอกเสา) ไม่ต่างกันเลย ดังนั้นเอามาอ้างไม่ได้หรอก

ประเด็นสำคัญมีอย่างเดียวครับ ยิงให้ตรงเป้า คุณได้แต้ม ... ไม่มีใครมาแย่งแต้มคุณ ผู้รักสาประตูก็แย่งอะไรคุณไม่ได้ ถ้าคุณยิงเข้าเป้าซะอย่าง

เลิกคิดกับความคิดเดิมๆครับ ว่ายิงสูงเข้ายาก กลัว สั่นๆ เกร็ง ยิงแล้วจะข้ามคาน เพราะต่อให้ยิงต่ำ ยิงเลียดพื้น คุณก็สั่นอยู่ดี บอลก็มีสิทธิ์ออกข้างเหมือนกัน
ดังนั้นในเมื่อมันสั่นเหมือนกัน มีสิทธิ์พลาดเหมือนกัน
1. เลือกยิงสูงสิครับ พื้นที่มีให้ยิงเยอะกว่า โอกาสเข้า 70%
2. จะไปเลือกยิงเลียดพื้นยิงต่ำทำไม โอกาสเข้าน้อย แค่ 30%





ถ้าใครคิดว่าการยิงจุดโทดคือการวัดดวงตัดสินกับคู่แข่ง ขอให้เปลี่ยนทรศนะคติได้แล้วครับ
มันไม่มีการวัดดวงอะไรกับใครเลย มันเป็นการแข่งของคุณคนเดียว ว่าจะยิงเข้าเป้าหรือเปล่า (เป้าก็ทำให้ดูแล้วในรูป มีทั้งเป้าทั้งบน ทั้งเป้าล่าง) พื้นที่เป้าหมายมีออกจะเยอะ เขาแจกแต้มให้ไปแล้วแต่หลายๆคนมักจะคิดไปอีกแบบ ไม่รู้โดนใครปลูกฝังมา (สงสัยฟังคนพากย์บอลพูดมากเกินไปว่าต้องยิงจุดโทดวัดดวงตัดสินแล้วนะครับ)

คุณลองคิดกันดูว่า การแข่งยิงปืนชิงแชมป์โลก หรือ ชิงเหรียญทองโอลิมปิก >>> มันคือการแข่งวัดดวงหรือเปล่า ???
ผมคิดว่า 99% จะต้องบอกว่า ไม่ใช่การวัดดวง การแข่งยิงปืนคือการแข่งความแม่นยำ กับตัวเองทั้งนั้น ยิงเข้าเป้าก็ได้แต้มแล้ว (ใกล้มากได้มาก ใกล้น้อยก็ได้น้อย) เอาเป็นว่ายิงให้เข้าเป้าได้แต้ม

การเตะจุดโทดก็เหมือนกัน เป้าเขาแขวนไว้ให้เต็มประตู แจกฟรีให้ทุกคน แต่กลับไม่ไปยิงใส่แต้ม แต่เลือกยิงไปจุดที่ไม่ได้แต้มกันเอง
สร้างความกลัวกันขึ้นมาเอง ด้วยความเชื่อผิดๆ

ก็อย่างที่บอกไปครับ ตอนแข่งทุกคนกดดันใช่มั๊ย = ใช่
แต่ลองถามตัวคุณเองดูละกันว่า กดดัน แล้วยังไงต่อครับ ? กดดันแต่คุณก็ต้องยิงอยู่ดีใช่มั๊ย (ใช่อีกแหละ)
พอกดดันแล้วจะยิงต่ำก็ต้องกลัว >>> เพราะเป้ามันน้อย กลัวออกข้าง กลัวโดนเซฟ /// จะยิงสูงก็กลัวข้ามคาน
สรุปว่ายังไงก็กลัวอยู่ดี กลัวกันไปหมด อกสั่นขวัญผวา ... ไม่คิดเหรอว่าไหนๆก็สั่นแล้ว ตื่นเต้นแล้ว ยิงบนก็สั่น ยิงล่างก็สั่น แทบไม่ต่างกันครับ เลิกเอาความสั่นหรือความกลัวมาคิด เลิกเอามาอ้าง เปลี่ยนทรรศนะคติกันซะ

เพราะสุดท้ายก็ต้องยิงอยู่ดี หนีไม่พ้นความจริง
คราวนี้มันถึงเวลาแล้วที่จะเลือกยิงตรงไหน
1. ยิงข้างบนโอกาสเข้า 70% (ถามนักเตะโบโร่ดูว่ารู้สึกฟินมั๊ย)
2. ยิงข้างล่างโอกาสเข้า 30% (ถามนักเตะทีมเราดู ว่ายิงต่ำมันเวิร์คมั๊ย ตกรอบมั๊ย)

*** ประเด็นมีแค่นี้แหละครับ คือ เขาแจกแต้มให้แล้ว ทำไมไม่ไปเอา ดันเลือก 0 คะแนน ***



ถ้าคิดว่ากดดันมาก ผมแนะนำว่าให้ผู้จัดการทีมเป็นคนสั่ง+ระบุไปเลยว่าใครยิงตรงไหนบ้าง
1. รูนนี่ ยิงซ้ายบน
2. เปเรร่า ยิงขวาบน
3. คาริค ยิงขวาบน
4. แอชยัง ยิงขวาบน
5. มาซิยาล ยิงซ้ายบน

กำกับไปเลยครับ นักเตะจะได้รับไปทำ เป็นการลดความกดดันของนักเตะ เพราะเจ้านายสั่งแล้ว ชี้ทางให้แล้ว นักเตะทุกคนจะไม่โลเล ไม่กังวล ไม่สับสนอีก ... ถ้ายิงไปตรงที่บอกแล้วยังไม่เข้าอีก ก็มาด่าผู้จัดการทีมได้เลย เพราะเป็นคนสั่งเอง นักเตะไม่กดดัน สบายเฮ