มาแล้วครับ ตอนแรกๆ สำหรับเพื่อนๆ ทุกคน เชิญไปอ่านได้เลยงับ อิอิ
Break Over Destiny ตอนที่ 1
เช้าวันหนึ่ง ณ เมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเซส ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 20xx ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนต่างๆ ที่จะเดินสายไปทำงานของแต่ละอาชีพที่ต่างกัน โลกก็หมุนไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุดหมุน แต่มีใครบางคนไม่ยอมหมุนตัวตามโลกนี้
ในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่พักของ เควิน แมทธิว เคนเนดี้ (Kevin Matthew Kennedy)ชายผู้ว่างงาน วัย 28 ปี ผู้นี้ ที่จะปล่อยให้ตัวเองหยุดอยู่กับที่ ไม่ยอมคิดที่จะทำอะไร เพราะความฝันตัวเองนั้นได้สลายไปตั้งแต่วัยเยาว์แล้ว นั่นก็คือ นักฟุตบอลอาชีพ!
อาจจะจริงอยู่ว่าประเทศอเมริกา นั้น จะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับกีฬาชนิดนี้ ที่เรียกกันในประเทศนี้ว่า "ซ็อคเกอร์" สักเท่าไหร่ แต่สำหรับเขาถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสุดๆ
เขานั้น กำลังดูเทปบันทึก ฟุตบอล การแข่งขันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ โรม่า ซึ่งนัดนี้ แมนยูฯไนเต็ด เล่นในโรงละครแห่งความฝัน ที่มีชื่อก้องอันลือช่าว่า "โอล์ด แทร็ฟฟอร์ด" สิ่งเขาเห็นก็คือ ภาพการประสานงานของนักเตะแต่ละคนกันอย่างดิบดี และคนที่ได้ชื่อว่าเป็นรุ่นพี่ของเขาอย่าง...ไรอัน กิ๊กส์
ย้อนกลับไป เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เควิน นั้น ได้เป็นถึงนักเตะทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาแล้ว! เขาเป็นได้อย่างไรนั้นหรือ? เรื่องมันมีอยู่ว่า เควิน นั้น มีครอบครัวทางฝั่งของแม่เป็นอเมริกัน ส่วนมีฝั่งพ่อเป็นชาวบริติซ โดยตรง เลือดรักฟุตบอลก็เลยแรงมาถึงรุ่นลูก และตัวของพ่อเขาเองนั้น หวังจะให้เขาเล่นฟุตบอลให้ได้ ซึ่งผิดกับแม่ของเขาที่ไม่เห็นด้วย
เควิน ยังจำภาพได้ดีอยู่เลย เล่นแบ่งข้างสลับคละผู้เล่นกับทีมชุดใหญ่ โดยนัดนั้น เขาได้ยินเป็นศูนย์หน้า คู่กับ ไรอัน กิ๊กส์ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนในตอนนั้น ฝึกซ้อมเบาๆ กับทีมสำรอง ในนัดนั้น ไม่ค่อยจะมีนักเตะจากทีมชุดใหญ่มาสักเท่าไหร่ แต่นัดนี้ การประสานงานคู่กองหน้าระหว่าง ตัวเขาเอง กับปีกพ่อมด นั้น เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่ง เขาหวังว่า สักวันนึง เขาคงจะได้เล่นร่วมกันในทีมชุดใหญ่
ไรอัน กิ๊กส์ เคยคุยกับเขาไว้ว่า เขาหวังให้มาช่วยในแดนหน้ามากขึ้น เพราะตัวของ ไรอัน เองนั้น อยากที่จะเล่นเป็นปีกมากกว่า และเพื่อนของเขา พอล (สโคลส์)เองนั้น ก็แปรพันตัวเองมาเป็นมิดฟิลด์แล้ว
เควันกับไรอัน ก็คุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละชั้นกัน แต่ ไรอัน เป็นคนที่มีนิสัยดี ร่าเริง และเข้ากับคนอื่นได้ง่าย เป็นกันเองกับทุกคน ด้วยเหตุนี้ เควิน ถึงชอบ ไรอัน กิ๊กส์ มากกว่ารุ่นพี่คนอื่นเป็นพิเศษ ที่จะไม่ค่อยยอมลดตัวมาคุยกับนักเตะรุ่นน้องสักเท่าไหร่
แต่แล้ว ความฝันของเขาได้ดับลง เมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน วันนั้น เขากลับจากสนามซ้อม คาร์ลิงตัน ออกมาสักเวลา 1-2 ทุ่มเศษ เขาฝึกซ้อมและมีความมุมานะกว่านักเตะเยาวชนคนอื่นๆ การฝึกซ้อมบ่อยๆ ก็เคยแสดงให้เห็นถึงนักเตะอัจฉริยะที่มีชื่อว่า เดวิด เบ็คแฮม และ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ มาแล้ว
เขาขี่จักรยาน เพื่อที่จะไปอพาร์ทเมนต์ ที่คุณพ่อของเขาซื้อไว้ให้บริเวณใกล้ๆ กับสนามซ้อมคาร์ลิงตัน ประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ แต่เขาเกิดอาการเหนื่อยเพลีย จากการฝึกซ้อม จนทำให้เขาเสียหลักล้มลง และจังหวะนั้น เขาขี่จักรยานไปโดนชนกับรถที่สวนมาด้านหลัง ด้วยความเร็วประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่เมืองแมนเชสเตอร์ เขาหวังว่า ตัวเขาเอง คงจะไม่เป็นอะไรมาก แต่หมอเจ้าของไข้ของเขา บอกอาการโดยละเอียดว่า เขาไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกแล้ว เพราะอวัยวะส่วนกระดูกและเส้นเอ็นของขาและข้อเท้า แหลกละเอียดหมด
หลังจากที่เขารู้สภาพตัวเองนั้น ทำให้เขาหัวใจแทบจะสลายไปเลย จนกระทั่ง ย้ายกลับไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อไปเรียนศึกษาต่อ แต่ด้วยความที่หมดแรงบันดาลใจของเขา ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้
ทุกวันนี้ เขาทำงานเป็นพนักงานขับรถส่งสินค้า ถึงขาของเขาจะไม่ค่อยดี แต่ก็ยังสามารถขับรถและเลี้ยงชีพตัวเองไปวันๆ ได้ ส่วนเรื่องฟุตบอลนั้น เขาทำได้เพียงแค่ ดูมันอย่างเดียวพร้อมกับจิบเบียร์ไปด้วย ทำให้ ร่างกายนักกีฬาที่เคยแข็งแรง กลายเป็นคนอ้วนไปได้ในพริบตา จากที่เขาเคยน้ำหนักแค่ 60 กว่ากิโลกรัม พุ่งไปถึง 130 กิโลกรัมได้
วันนี้ หลังจากเขานั่งดูโทรทัศน์ เทปบันทึกการแข่งขันฟุตบอล ของแมนยูฯไนเต็ด แล้ว ก็ได้เปลี่ยนช่องไปดูหนังทั่วไป เกี่ยวกับเรื่องไทม์มาชีน หรือการย้อนไปยังอดีต พร้อมกับหยิบแฮ็มเบอร์เกอร์ มากินพร้อมกับเบียร์
เขาบ่นพึมพัมกับตัวเองว่า "ถ้าเกิดเราย้อนเวลากลับไปได้ นี่ก็ดีสินะ" เขาดูหนังเรื่องนี้เสร็จก็ผล็อยหลับไป ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเวลากลางวันอยู่ ปกติเขาจะอยู่ที่บ้านคนเดียว ไม่ค่อยสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่นัก และยิ่งเป็นวันหยุดวันอาทิตย์ เขาต้องการอยู่ในโลกส่วนตัวซะมากกว่า
เควิน ได้นอนอย่างเต็มอิ่ม แต่ทว่า เมื่อมองดูนาฬิกาแล้ว เป็นเวลา ตี 4 กว่าๆ ใกล้จะเช้าแล้ว เขาสะดุ้งตรงที่ว่า เขานอนหลับมาราธอนอย่างนั้นได้อย่างไร แต่ในที่มืดนั้น มองอะไรไม่ค่อยเห็น เมื่อเปิดไฟมาอีกที พบว่า...
ตัวเองอยู่ในอพาร์ทเมนต์ ที่เมือง แมนเชสเตอร์ เขาตกใจมาก และไปดูปฏิทิน.....6 มิถุนายน 1998...
จบตอนที่ 1