
วีรบุรุษแห่งเกลาหลีใต้ผู้ซึ่งกลายเป็นวีรบุรุษแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ถึงแม้ว่าในอดีตเขาจะถูกตราหน้าว่าอ่อนแอในสิ่งที่เขาทำกับสิ่งที่เขารักในสนาม แต่ครอบครัวเขาไม่คิดเช่นนั้น
พ่อของพาร์ค จี ซอง ไปที่ฟาร์มกบบ่อยๆ เพื่อนำกบมาให้แม่ของพาร์ค ต้มเป็นน้ำให้เขาดื่ม โดยแม่ของพาร์ค บอกว่า น้ำกบ นี้มีสารอาหารมากมายที่จะช่วยบำรุงเลี้ยงให้เขาเจริญเติบโต
กองกลางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดวัย 29 ปีเผยว่า "พ่อและแม่ของผมบอกว่า มันจะช่วยให้ผมมีสุขภาพที่ดี และแข็งแรง แน่นอนว่าผมต้องการกินทุกอย่างที่จะช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น"
นอกจากนี้แล้วพ่อของพาร์ค มักจะให้พาร์ค ไปทำงานในร้านขายเนื้อเพื่อฝึกให้เขาแข็งแรงซึ่งนี่เป็นอีกวิธีที่พาร์ค ทำนอกเหนือจากวิชาการกินน้ำกบ
สิ่งที่เขาทำเพื่อทีมชาติ และสโมสรของเขาเป็นที่มาของฉายา พาร์ค 3 ปอด เนี่องมากจากความพยายามไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของเขา ทั้งหมดนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาสามารถเล่นได้ในระดับสูงตลอดมา นอกจากความพยายามของเขาแล้ว พาร์ค ยังถือว่าเป็นนักเตะที่เล่นด้วยสมองเมื่อเขาสามารถมองเห็นเพื่อน และรู้ว่าควรส่งบอลไปที่ใดเพื่อให้ทีมได้เปรียบมากที่สุด
พาทริค เอวร่า กล่าวถึงพาร์ค จี ซอง ว่า "ผมเพิ่งเคยเห็นนักเตะที่ฉลาดเช่นเขา ผมบอกเขาว่าให้เขาเก็บวิดีโอของเขาไว้เพราะว่าการเคลื่อนไหวของเขาในเกมส์มันจะเป็นตัวอย่างที่ดี และมีประโยชน์มากมากสำหรับผู้เล่นดาวรุ่งเนื่องจากการเล่นของเขาเป็นการเล่นเพื่อทีมโดยแท้จริง ไม่ใช่การแล่นเพื่อตัวเอง"
การไม่เห็นแก่ตัวของพาร์ค จึงได้รับสิ่งตอบแทนเป็นประตูชัยจากการโหม่งของเขาในการเล่นกับลิเวอร์พูล พาร์คกล่าวว่า "การที่ผมทำประตูได้ในเกมส์สำคัญเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกมหัศจรรย์ ยิ่งการทำประตูต่อหน้าฝั่ง Stretford End ยิ่งเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ" และประตูนี้ของพาร์ค ก็ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับสู่อันดับ 1 อีกครั้ง "เหลืออีก 7 เกมส์ในลีคซึ่งถ้าเราชนะทั้งหมดเราก็จะเป็นแชมป์ ดังนั้นเราจะต้องมีสมาธิกับเกมส์ และยึดฟอร์มการเล่นให้ดีอย่างต่อเนื่อง เราไม่จำเป็นต้องกังวล Chelsea หรือ Arsenal เพราะถ้าเราชนะได้ในเกมส์ของเรา เราก็จะเป็นแชมป์" พาร์ค กล่าว
ในอดีตเคยมีการต่อต้าน พาร์ค บ้างเล็กน้อยกับการที่เขาได้เป็นกัปตันทีมชาติ เกาหลีใต้ เนื่องด้วยในอดีต พาร์ค เคยโดนทีมฟุตบอลเยาวชนปฏิเสธที่จะรับเขาเข้าร่วมทีม ก่อนที่เขาจะได้เข้าร่วมทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย Myongi จากนั้นเขาจึงได้เข้าร่วมทีมในลีค 2 ของญี่ปุ่นเพื่อโอกาสในการเล่นฟุตบอลอาชีพในอนาคตกับ Kyoto Purple Sanga
พาร์คเข้าสู่ช่วงเวลาที่ดีช่วงหนึ่งของชีวิต เมื่อเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเกาหลีใต้ เข้าร่วมฟุตบอลโลกเมื่อปี 2002 ซึ่งทีมชาติเกาหลีใต้ ก็สามารถทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้อย่างเหลือเชื่อ
จากนั้น กุส ฮิดดิ้ง ผู้จัดการทีมชาติ เกาหลีใต้ ที่ย้ายไปคุมทีม PSV Eindhoven ก็ดึงตัวพาร์คไปร่วมทีมกับเขาอีกครั้ง
ถึงอย่างนั้นพาร์คกลับไม่ได้รับการต้อนรับที่ดี ที่เขาได้รับในช่วงนั้นคือการเย้ยหยันจากแฟนบอล ซึ่งพาร์คได้ยอมรับในภายหลังว่า เสียงเย้ยหยันเหล่านั้นทำให้เขาเกลียดฟุตบอลไปเลย
แต่ผลงานที่สุดยอดของเขาในรอบรองชนะเลิศกับ AC Milan ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีค ปี 2005 ก็ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจดึงตัวเขามาร่วมทีมด้วยราคา 4 ล้านปอนด์
ที่เมืองแมนเชสเตอร์ นี้ พาร์คสามารถเดินบนถนนได้โดยปราศจากสายตาจับจ้องของผู้คน รูปของเขาก็มีแขวนอยู่เพียงแค่ที่ภัตตาคารอาหารเกาหลีเท่านั้น แต่เมื่อคุณเดินทางไปยังเกาหลีใต้บ้านของ พาร์ค มันจะเป็นเรื่องตรงข้ามคุณจะสามารถคิดได้เลยว่า พาร์ค คือ เดอะ บีทเทิลส์, เดวิด เบคแคม และ โอบาม่า ที่รวมเข้าด้วยกัน
พาร์ค กล่าวว่า "แฟนบอลชาวเอเชีย มักจะตะโกนชื่อผม และไล่ตามผม ดังนั้นผมจึงต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพราะเรื่องแบบนี้มันยากที่จะรับมือด้วย"
"ผมไม่ชอบที่จะมีชื่อเสียง ที่นี่ทำให้ผมมีความสุข เพราะว่าผมสามารถอยู่ได้อย่างสงบกว่า"
"ผมต้องการเล่นฟุตบอลให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และผมต้องการคว้าแชมป์ให้มากที่สุดเช่นกัน"
"การคว้าแชมป์ลีค 4 ปีติดต่อกันเป็นเรื่องที่ยากมาก และมันจะทำให้เราสร้างสถิติใหม่"
"และการที่ทีมสามารถเข้าชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีค ได้ 3 ปีติดต่อกันก็จะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เช่นกัน"
พาร์คพลาดการเล่นพรีเมียร์ ลีค ฤดูกาลนี้ไป 12 นัดเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เข่า แต่เขาก็สามารถกลับมาสร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงการต้อนรับที่สุดยอดของแฟนบอล นอกจากนี้เขายังมีเพลงที่แฟนบอลแต่งให้อีกด้วย ซึ่งมันเกี่ยวกับการกินสุนัข
ในอดีตพ่อของพาร์ค เคยห้ามไม่ให้พาร์ค เล่นฟุตบอลด้วยเนื่องจาก พ่อคิดว่าเขาอ่อนแอเกินไป แต่พาร์คไม่ยอมรับแล้วประท้วงด้วยการอดข้าว...
Seong-Jong พ่อของเขาจึงยื่นข้อแม้ที่ว่า ถ้าเขาเล่นฟุตบอลแล้วต้องพยายามอย่างหนัก และต้องไม่ยอมแพ้ สิ่งที่พาร์คตอบกลับไปก็คือ "ผมไม่เคยเพื่อยอมแพ้" และนั่นคือสิ่งที่เขาแสดงให้เราเห็นแล้วในปัจจุบัน