ถึงตรงนี้ทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแฟนๆ ของทีมต่างก็แอบมองกันไปถึงช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมกันบ้างแล้ว
ในช่วงเดดไลน์ที่ผ่าน แฟนๆ ต่างก็พลาดหวังกับนักเตะหลายคนที่มีข่าวว่าจะย้ายมาเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เวลากำลังนับถอยหลังลงเรื่อยๆ และก็ยังไม่มีทีท่าว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะคว้าใครเข้ามาได้ ยังดีที่ว่าทีมปีศาจแดงยังปิดดีลคว้าตัว มารูยาน เฟลไลนี่ จากเอฟเวอร์ตันเข้ามาเสริมทัพได้ทันเวลาพอดี ถือเป็นช่วงเวลาที่ดราม่าพอสมควรสำหรับทีมแชมป์ของอังกฤษ
จริงอยู่ที่ว่านักเตะชาวเบลเยียมรายนี้ก็มีฝีเท้าไม่เป็นรองใคร แต่สำหรับบางคนอาจจะจินตนาการไปถึงนักเตะชื่อดังกว่านี้ บางคนอย่างเช่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งตกเป็นข่าวย้ายกลับแมนเชสเตอร์ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
แหล่งข่าวบางแห่งรายงานว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมทุ่มเงิน 80 ล้านปอนด์คว้าตัวเขากลับมาสวมเสื้อหมายเลข 7 ด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับนักเตะเป้าหมายรายอื่นๆ แต่บางทีเรื่องราวในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมมันอาจจะแตกต่างออกไปก็ได้ และนี่ก็คือ 5 เหตุผลที่ว่าทำไมทีมปีศาจแดงจึงควรคว้าตัวโรนัลโด้กลับมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด...
5. เป็นการกอบกู้ชื่อเสียงของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด และ เดวิด มอยส์
เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือจากวงการฟุตบอลเมื่อช่วงท้ายฤดูกาลก่อน มันจึงถึงช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ใครกันที่เหมาะสมในการมารับช่วงต่อจากกุนซือระดับตำนานชาวสก็อต?
สถานการณ์มันยิ่งยากลำบากขึ้นไปอีก เมื่อประธานบริหารของสโมสรอย่าง เดวิด กิลล์ ก็ได้ก้าวลงจากตำแหน่งด้วย ที่ผ่านมาทั้งกิลล์ และเซอร์ อเล็กซ์ ได้นำความสำเร็จมายังสโมสรนับไม่ถ้วน และเมื่อทั้งคู่อำลาทีมไปก็เป็น เอ็ด วู้ดเวิร์ด และ เดวิด มอยส์ ที่เข้ามารับหน้าที่แทนตามลำดับ ซึ่งทั้ง 2 คนก็ต้องเจอกับความกดดันมากมายที่ถาโถมเข้ามา
ผลงานที่ย่ำแย่ในช่วงพรีซีซั่นยิ่งทำให้มีกระแสกดดันมอยส์ในการเร่งซื้อตัวผู้เล่นเข้ามาสู่ทีม ขณะที่บางคนถึงกับเรียกร้องให้ปลดวู้ดเวิร์ดออกจากตำแหน่งเลยด้วยซ้ำ
สถานการณ์ตอนนี้มันชัดเจนมากว่าทีมต้องการใครสักคนที่จะมายกระดับการเล่น และแฟนๆ ก็เชื่อว่าไม่มีใครที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกแล้ว
แต่ดาวเตะชาวโปรตุเกสจะย้ายคืนถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมนี้เลยหรือไม่ก็ต้องมารอดูกัน แฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องลืมการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพในด้านนี้ของทั้งมอยส์ และวู้ดเวิร์ดในช่วงซัมเมอร์ไปให้ได้เสียก่อน
4. นี่คือสิ่งจำเป็นที่จะทำให้ก้าวทันคู่แข่ง
ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดแล้วพลาดอีกในการเสริมทัพ คู่แข่งของพวกเขาก็ได้ตัวนักเตะดีๆ เข้ามาร่วมทีมมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ใช้เงินไม่แพ้ทีมจอมทุ่มอย่างเชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เลย พวกเขาลงทุนไปกว่า 100 ล้านปอนด์ในการเสริมทีม โดยได้นักเตะอย่าง โรเบร์โต้ โซลดาโด้ และ คริสเตียน อีริกเซ่น เข้ามา ขณะที่อีก 2 ทีมดังกล่าวก็ได้ตัวอื่นเข้ามาทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้วของพวกเขา
ขนาดอาร์เซนอลเองยังถือว่าประสบความสำเร็จมากกว่าทีมปีศาจแดงในช่วงเปิดตลาดเลย เมื่อพวกเขาทุบสถิติค่าตัวของสโมสรในการคว้าตัว เมซุต โอซิล เข้ามายกระดับการเล่น
ดูเหมือนว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะถูกทีมเหล่านี้ทิ้งห่างไปไกลพอสมควรเลย ขณะที่ทีมอื่นๆ เสริมทัพกันเป็นว่าเล่น แต่ทีมปีศาจแดงก็ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่ล้มเหลวในถ้วยยุโรป และบอลถ้วยในประเทศเมื่อฤดูกาลก่อน
จริงที่ว่าพวกเขาคว้าแชมป์ลีกได้โดยทิ้งห่าง 11 แต้ม แต่นั่นก็คือรายการเดียวเท่านั้นที่พูดได้เต็มปากว่าทำผลงานได้ดี ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แน่ว่าเฟลไลนี่คนเดียวจะช่วยให้ทีมดีขึ้นได้มากแค่ไหน
หนึ่งในนักเตะที่จะทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมสำหรับการไล่ล่าแชมป์ทุกรายการก็คือโรนัลโด้ และหากว่าได้ตัวเขามาในเดือนมกราคมก็จะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นสำหรับการลงเตะบอลถ้วยที่เขาไม่ติดคัพไท
3. เวย์น รูนี่ย์ อาจจะเริ่มฟอร์มตกแล้วก็เป็นได้
ดาวเด่นประจำโอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่าง เวย์น รูนี่ย์ อาจจะกำลังเข้าถึงช่วงฟอร์มถดถอยแล้วก็เป็นได้ หลังดาวเตะวัย 27 ปีเริ่มมีบทบาทกับทีมน้อยลงนับตั้งแต่ที่พวกเขาได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เข้ามาล่าตาข่าย
ก่อนเซอร์ อเล็กซ์ รีไทร์ เขาตัดสินใจส่งอาร์วีพีเป็นตัวหลักในแดนหน้ามาโดยตลอด โดยอดีตศูนย์หน้าของเอฟเวอร์ตันถูกถอยลงไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ หรือบางทีก็ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองไปเสียเฉยๆ เลย
ด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาเมื่อไม่นานมานี้ บางทีนั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นฟอร์มสุดยอดจากรูนี่ย์แล้วก็เป็นได้ และหากว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่พร้อมใช้งานเขาเป็นศูนย์หน้าอีกต่อไป พวกเขาก็ควรจะเซ็นโรนัลโด้กลับมาผลิตสกอร์ให้กับทีมอีกครั้ง
บางคนอาจจะชมเชย ฟาน เพอร์ซี่ ที่ทำหน้าที่ในแดนหน้าได้เป็นอย่างดี แต่บางทีเขาคนเดียวก็ไม่สามารถรับภาระแบกทีมได้ตลอดเวลา และคนที่ดีที่สุดที่จะมาช่วยเขาได้ก็คือโรนัลโด้นั่นเอง
2. พรสวรรค์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
จากเป้าหมายที่พลาดไปในช่วงซัมเมอร์อย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า และ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ไม่ใช่นักเตะที่ดี แต่ว่าพวกเขายังไม่เคยพิสูจน์ตัวเองในเวทีพรีเมียร์ ลีก มาก่อนเลย ผิดกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำผลงานกระหึ่มในลีกอังกฤษมาแล้ว
ทั้ง 2 คนแรกสามารถยกระดับการเล่นในแดนกลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ แต่คงไม่มากไปกว่าโรนัลโด้ที่คอยผลิตสกอร์ให้กับทีมแชมป์อยู่ตลอดเวลา
ทีมปีศาจแดงควรเลิกให้ความสนใจกับนักเตะคนอื่นๆ และหันมาคว้าตัวดาวเตะชาวโปรตุเกสคนนี้กลับมาเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้ได้ในเดือนมกราคม
ตลอดทั้ง 6 ฤดูกาลที่เขาค้าแข้งในโรงละครแห่งความฝัน โรนัลโด้ยิงไปถึง 118 ประตู จากการลงเล่น 292 เกม นี่ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นเป็นอย่างดีว่าเขาเข้ากับระบบฟุตบอลอังกฤษได้
สำหรับบางคนอาจจะยังบอกอะไรไม่ได้ว่าถ้าเขามาเล่นในพรีเมียร์ ลีก แล้วจะเป็นอย่างไร อย่างเช่น ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ อันเดร์ เอร์เรร่า
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทราบดีว่าจะใช้งานโรนัลโด้อย่างไร เขาจะไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวเข้ากับทีมเลย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ทีมควรคว้าตัวเข้ามาอย่างยิ่งในเดือนมกราคม
1. อาจเกิดเหตุการณ์แตกหักขึ้นในถิ่นเบร์นาเบว
บางคนอาจจะมองว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในการคว้าตัวโรนัลโด้กลับมาในเดือนมกราคม ด้วยค่าตัวอันมโหฬารของเขา รวมถึงการที่เรอัล มาดริด เตรียมจะต่อสัญญาเขาออกไปอีก ตามรายงานข่าวจากประเทศสเปน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เพิ่งคว้าตัว แกเร็ธ เบล จากท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เข้ามาด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติโลก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งเดียวกับที่พวกเขาทำกับโรนัลโด้ในปี 2009 บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องยากที่ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของทีมจะทำให้ทั้งเบล และโรนัลโด้มีความสุขด้วยกันทั้งคู่จากตอนนี้ไปจนถึงเดือนมกราคม เมื่อพิจารณาว่าทั้ง 2 คนจะต้องแข่งขันแย่งตำแหน่งกันในถิ่นเบร์นาเบว
หากถึงตอนนั้นโรนัลโด้ไม่ได้เล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ และก็ยังไม่ได้ต่อสัญญาใหม่กับทีมออกไป เดือนมกราคมก็จะเป็นโอกาสดีที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะคว้าอดีตดาวเตะของพวกเขากลับมา
