ผู้ชมในสนาม 74,000 คน
รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ
เวลา 01.45 น. วันพุธที่ 18 กันยายน 2556
ผู้ตัดสิน ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)
โพสต์ by ผีแดง แมนยู.
รีพอร์ต
เดวิด มอยส์ นำทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงทำศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเกมแรก โดยส่ง ชินจิ คากาวะ ลงเล่นเป็นตัวจริง พร้อมจับ คริส สมอลลิ่ง ยืนในตำแหน่งแบ็คขวาแทน ฟาบิโอ ดา ซิลวา
ทีมปีศาจแดงมาได้ลุ้นยิงประตูขึ้นนำก่อน แต่โชคร้ายที่ลูกยิงของ เวย์น รูนี่ย์ จากบริเวณกรอบเขตโทษไปติดบล็อคกองหลังเลเวอร์คูเซ่น จากนั้นไม่นาน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็มายิงเลียดหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
ซอน เฮืองมิน ของทีมเยือนมาโดนจดชื่อไปเป็นคนแรกจากการทำฟาวล์ใส่รูนี่ย์ในจังหวะสวนกลับเร็ว ขณะที่ สเตฟาน เรนาร์ตซ ก็มาหงายปุ่มสตั๊ดปะทะใส่ ไมเคิล คาร์ริค เช่นกัน กลายเป็นอีกคนที่ได้รับใบเหลืองไป โชคดีที่มิดฟิลด์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถลุกขึ้นมาเล่นต่อได้โดยไม่มีอาการบาดเจ็บ
นาทีที่ 21 จากการขึ้นเกมกันมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ทีมปีศาจแดงก็ออกนำไปก่อนสำเร็จ ปาทริซ เอฟร่า ครอสบอลเข้ากลางมาให้รูนี่ย์วอลเล่ย์ผ่านมือ เบิร์นด์ เลโน่ เข้าไป ถือเป็นประตูที่ 199 ของเขากับสโมสรแล้ว
เจ้าถิ่นโหมบุกหนักหวังทำประตูที่ 2 และคากาวะกับเฟลไลนี่ก็ทำเกมขึ้นมาให้ ฟาน เพอร์ซี่ ได้โอกาสลุ้น ก่อนที่เขาจะมาโดนใบเหลืองจากการไปโวยใส่ผู้ตัดสินในจังหวะที่เขาถูกกล่าวหาว่าไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นเลเวอร์คูเซ่น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 20 หลาของรูนี่ย์ แต่คราวนี้มันไม่ได้เข้าไปตุงตาข่ายเหมือนอย่างในเกมกับคริสตัล พาเลซ เมื่อวันเสาร์ ทางด้านคากาวะเองก็มาได้โอกาสยิงเช่นกัน โดยวาเลนเซียครอสบอลเข้ากรอบเขตโทษ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นพักอกก่อนที่จะซัดด้วยขวาถากเสาออกไปนิดเดียว และครึ่งแรกก็จบกันลงไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาลงเตะกันได้ไม่นาน ทีมปีศาจแดงพลาดโอกาสทอง เมื่อรูนี่ย์หลุดไปแตะผ่านผู้รักษาประตูทีมเยือน ก่อนที่จะกึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่หน้าปากประตูโล่งๆ แต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็เข้าไม่ถึงจังหวะนี้จนบอลค่อยๆ กลิ้งออกหลังไป
กลายเป็นทางเลเวอร์คูเซ่นที่มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 เมื่อ ไซม่อน รอลเฟส ยิงไกลเสียบเสาประตูเข้าไป แต่ว่าเจ้าถิ่นก็กลับมาขึ้นนำได้ทันควัน เป็นการทำประตูสุดสวยของ ฟาน เพอร์ซี่ ที่ตวัดยิงลูกครอสของวาเลนเซียด้วยขวาเข้าไป
ซามี่ ฮูเปีย ผู้จัดการทีมห้างขายยาเปลี่ยนเอา ลาร์ส เบนเดอร์ ลงไปเล่นแทนเฮืองมิน ก่อนที่รูนี่ย์จะมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกอีกครั้งในระยะ 25 หลา คราวนี้บอลพุ่งไปชนกำแพงกระดอนออกมา ทีมเยือนได้ยิงไปติดเซฟของ ดาบิด เด เคอา และนายทวารชาวสเปนก็ลุกขึ้นมาเตะบอลโด่งไปทางฝั่งเลเวอร์คูเซ่น แนวรับทีมเยือนโขกสกัดกันพลาด ทำให้รูนี่ย์ควบบอลขึ้นหน้าไปซัดผ่านมือเลโน่เป็นประตูทิ้งห่าง 3-1
แอชลี่ย์ ยัง ถูกส่งลงมาเล่นแทนคากาวะ ขณะที่ฮูเปียก็ส่งเอา ร็อบบี้ ครูส และ เอเรน เดร์ดิย็อค ลงมาเล่นแทน ซิดนี่ย์ แซม และ สเตฟาน เค็บลิง เช่นกัน
นาทีที่ 79 ทีมปีศาจแดงมาได้ประตูที่ 4 คราวนี้มาจากฝีเท้าของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ซัดด้วยขวาเข้าไปหลังจากที่ทีมทำเกมขึ้นมาแบบสุดสวย และมอยส์ก็เปลี่ยนเอา มารูยาน เฟลไลนี่ ออกมาพัก โดยส่ง ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ลงไปเล่นแทน
รูนี่ย์ได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องทั่วสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกมาให้ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ลงไปยืนในแดนหน้า แต่แล้วทีมเยือนก็มายิงลูกตีตื้นขึ้นมาจากจังหวะเตะมุม นักเตะเลเวอร์คูเซ่นโขกไปชนคานกระดอนออกมาเข้าทาง โอเมอร์ โทปรัค ที่ยิงซ้ำเข้าไปจากระยะ 6 หลา
ช่วงท้ายเกม ฟาน เพอร์ซี่เกือบมายิงได้อีก จังหวะนี้วาเลนเซียจ่ายมาให้เขาแปโล่งๆ แต่กลับหลุดเสาไกลออกไปแบบไม่น่าเชื่อ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงคว้าชัยเหนือทีมจากเยอรมันไป 4-2 เก็บ 3 คะแนนแรกในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
สถิติ
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น |
| เวย์น รูนี่ย์ น.22, 70 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.59 อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.79 |
ไซม่อน รอลเฟส น.54 โอเมอร์ โทปรัค น.88 |
| สถิติ | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น |
| 16(5) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 12(5) |
| 9 | ฟาวล์ | 10 |
| 6 | เตะมุม | 6 |
| 2 | ล้ำหน้า | 0 |
| 1 | ใบเหลือง | 2 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 57% | การครองบอล | 43% |
ตารางคะแนน
| Pld | W | D | L | F | A | +/- | Pts | |||
 |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 1 | 1 | 0 | 0 | 4 | 2 | 2 | 3 | |
 |
ชักซ์ตาร์ โดเน็ตสค์ | 1 | 1 | 0 | 0 | 2 | 0 | 2 | 3 | |
 |
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น | 1 | 0 | 0 | 1 | 2 | 4 | -2 | 0 | |
 |
เรียล โซเซียดัด | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 2 | -2 | 0 | |
