ผู้ชมในสนาม 35,711 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 19.00 น. วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2557
ผู้ตัดสิน จอน มอสส์
รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืดสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันออกไปเป็น 9 เกม หลังจากที่ปิดฉากแมตช์สุดท้ายของปี 2014 ด้วยการบุกไปเสมอแบบไร้สกอร์กับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน
เกมนี้ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก โอกาสที่ดีที่สุดเป็นของลูกทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล แต่จังหวะจบสกอร์ก็ยังไม่เฉียบคม โดยผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อูโก้ ยอริส ทำผลงานได้อย่างเหนียวแน่นจนจบเกม
ฟาน กัลไม่ได้เปลี่ยนตัวผู้เล่นใดๆ เลยจากเกมที่ผ่านมาที่เอาชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-1 ในวันบ็อกซิ่ง เดย์ ถือเป็นครั้งแรกที่ทีมปีศาจแดงใช้ผู้เล่นชุดเดิมนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 เลยทีเดียว นั่นหมายความว่า ราดาเมล ฟัลเกา จะได้ยืนล่าตาข่ายติดต่อกันเป็นเกมที่ 2 ขณะที่บนม้านั่งสำรองมีชื่อของ ลุค ชอว์ กลับมาแล้ว หลังเจ็บข้อเท้าไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน
ด้านท็อตแน่มมีการเปลี่ยนตัว 3 ตำแหน่ง เนื่องจาก เมาริซิโอ โปเค็ตติโน่ มีนโยบายหมุนเวียนนักเตะ แฮร์รี่ เคน ที่กำลังเล่นได้เข้าฟอร์มยังคงเป็นตัวจริง หลังจากที่เขาซัดประตูไปแล้ว 15 ลูกรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้
เกมเริ่มต้นมา 20 นาทีก็เริ่มมีจังหวะให้ตื่นเต้น การขึ้นเกมแถวกรอบเขตโทษของ ฮวน มาต้า มาเข้าทางฟัลเกา แต่เขาก็ยังแปรเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ไม่ได้ ขณะที่สเปอร์สก็มาได้ลุ้นจากจังหวะยิงของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ แต่ก็ยังทำอะไร ดาบิด เด เคอา ไม่ได้ จากนั้นไม่นาน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็มาเรียกฟรีคิกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฮวน มาต้า รับหน้าที่ปั่นไปชนเสากระดอนออกมา และ วลาด คิริเคส ก็สกัดออกไปได้ก่อนที่ศูนย์หน้าหมายเลข 20 ของทีมปีศาจแดงจะเข้ามาซ้ำได้ทัน
โอกาสของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ฟัลเกาได้ยิงไปเข้ามือยอริส ถือว่านายทวารชาวฝรั่งเศสคนนี้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้สกอร์ยังคงไม่ขยับไปไหนก่อนพักครึ่ง เขาปฏิเสธลูกยิงจากฟาน เพอร์ซี่ในจังหวะที่ ไมเคิล คาร์ริค จ่ายทะลุช่องมาให้แบบสุดสวย ศูนย์หน้าชาวดัตช์พยายามจับบอลก่อนที่จะยิงดีด แต่น้ำหนักก็ไม่มากพอที่จะผ่านตัวผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นไปได้
ลูกครอสของ แอชลี่ย์ ยัง มาเข้าทาง เวย์น รูนี่ย์ ในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะโขกของเขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรนายด่านสเปอร์สได้อยู่ดี จากนั้นก่อนพักครึ่งก็เป็นยังอีกครั้งที่พยายามจะปั่นโค้งเสียบเสาสอง แต่ก็เป็นยอริสที่บินปัดออกไปได้ โอกาสแรกในครึ่งหลังทำเกมขึ้นมาโดย ราฟาเอล ดา ซิลวา ที่เปลี่ยนตัวลงมาแทน อันโตนิโอ วาเลนเซีย เขาจ่ายตัดหลังให้มาต้าวิ่งเข้ามาซัดโล่งๆ ด้วยเท้าขวา แต่บอลก็ยังลอยโด่งออกไป
โอกาสที่ดีที่สุดในเกมนี้ของสเปอร์สมาถึงในนาทีที่ 82 เมื่อ ไรอัน เมสัน ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่จังหวะซัดด้วยเท้าซ้ายของเขาก็หลุดกรอบออกไป ทำให้เด เคอาไม่ต้องออกแรงเซฟ
ช่วงท้ายเกมเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมเอาไว้ไดหมด แต่ก็ยังสร้างความหนักใจให้กับผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ได้ ฟาซิโอได้โขกข้ามคานจากลูกฟรีคิกของ อีริคเซ่น ไม่มีประตูชัยเกิดขึ้น และเกมก็จบลงไปแบบไร้สกอร์ ซึ่งหากทั้งคู่มีความเฉียบคมกันมากกว่านี้คงจะมีประตูให้ได้เห็นกันมากมายแน่นอน
สถิติ
|
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
| สถิติ | |
| ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
| 9(4) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 9(5) |
| 11 | ฟาวล์ | 19 |
| 3 | เตะมุม | 6 |
| 1 | ล้ำหน้า | 6 |
| 2 | ใบเหลือง | 4 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 48% | การครองบอล | 52% |
