ผู้ชมในสนาม 27,203 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 19.45 น. วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม 2558
ผู้ตัดสิน ไมเคิล โอลิเวอร์
รีพอร์ต
ราดาเมล ฟัลเกา ยิงประตูช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกแบ่งแต้มจากสโต๊ค ซิตี้ ได้ที่สนามบริตันเนีย สเตเดี้ยม
ดาวยิงชาวโคลอมเบียยิงเข้าไปจากระยะใกล้ในนาทีที่ 26 ช่วยให้ทีมปีศาจแดงตามตีเสมอจากประตูขึ้นนำของเจ้าถิ่นจากอดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่าง ไรอัน ชอว์ครอสส์ ได้
ขณะที่อดีตนักเตะปีศาจแดงอีกคนคือ มาเม่ บิราม ดิยุฟ พลาดโอกาสทองที่จะช่วยให้เจ้าถิ่นทิ้งห่างออกไปอีก เมื่อเขายิงออกข้างไป ก่อนที่ฟัลเกาจะมาทำประตูที่ 3 ของเขาในฤดูกาลนี้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เองก็เกือบจะยิงให้ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล พลิกขึ้นนำได้ด้วยเช่นกัน และ ปีเตอร์ เคร้าช์ ของสโต๊ค ซิตี้ ก็มาโขกไปชนเสาด้วยในครึ่งหลัง
โอกาสทำประตูในเกมนี้มีเกิดขึ้นน้อยมาก และสุดท้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็สามารถยืดสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันเป็นเกมที่ 10 ได้สำเร็จ
หลุยส์ ฟาน กัล ทำการปรับแผงหลัง โดยส่งเอาทั้ง ลุค ชอว์ และ คริส สมอลลิ่ง ลงเป็น 11 ตัวจริงแทน อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ แพ็ดดี้ แม็คแนร์ แต่แนวรับของทีมปีศาจแดงก็มาเจอทีเด็ดเจ้าถิ่นเล่นงานตั้งแต่นาทีที่ 2 เคร้าช์ที่ไม่มีตัวประกบโขกบอลต่อไปให้ชอว์ครอสแปผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปจากระยะใกล้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพยายามที่จะทวงประตูคืน โดยเป็นฝ่ายได้ครองบอลอยู่เกือบตลอด โจนาธาน วอลเตอร์ส ไปทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินก็ยังนิ่งเฉย จนกระทั่งดิยุฟมาได้โอกาสทองที่จะช่วยให้เจ้าถิ่นหนีห่างออกไป กองหน้าชาวเซเนกัลเอาชนะ จอนนี่ อีแวนส์ ในลูกกลางอากาศ ก่อนที่เขาจะปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
สุดท้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็มาทำประตูตีเสมอได้ในจังหวะเตะมุมของ เวย์น รูนี่ย์ เป็น ไมเคิล คาร์ริค ที่โขกต่อผ่านแนวรับสโต๊ค ซิตี้ ไปถึงฟัลเกาที่จัดการแปโล่งๆ เข้าสู่ก้นตาข่ายด้วยสัญชาตญาณ
ก่อนจบครึ่งแรกเป็นสโต๊ค ซิตี้ที่อาศัยความได้เปรียบจากแรงลมทำผลงานได้ดีกว่า ลูกครอสจาก มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช โค้งเข้าสู่กรอบเขตโทษ แต่ชอว์ก็ยังสามารถเตะสกัดข้ามคานพ้นอันตรายไปได้
ก่อนจบครึ่งแรกมีจังหวะปะทะกันเล็กน้อยระหว่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ อัสเมียร์ เบโกวิช ผู้รักษาประตูสโต๊ค ซิตี้ จากนั้นในครึ่งหลังก็เป็นทีมช่างปั้นหม้อที่มาร้องเอาลูกจุดโทษบ้างจากการทำแฮนด์บอลของสมอลลิ่ง แต่ก็ถือว่าโชคร้ายที่จังหวะนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทีมปีศาจแดงเกือบที่จะทำประตูพลิกขึ้นนำได้จากลูกดีดข้างเท้าสุดสวยของฟาน เพอร์ซี่ในนาทีที่ 67 แต่สโต๊ค ซิตี้เองก็เกือบจะได้ประตูเช่นกันถึง 2 ครั้ง ลูกโขกของเคร้าช์ผ่านมือเด เคอาไปชนเสาไกล จากนั้นสมอลลิ่งก็มาบล็อคลูกยิงจากดิยุฟให้พุ่งออกหลังไปอีก
แอชลี่ย์ ยัง เดินกระเผลกออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บในขณะที่เหลือเวลาอีก 15 นาที ก่อนที่แนวรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะต้องรับมือกับลูกเตะมุมอย่างต่อเนื่องของสโต๊ค ซิตี้ ซึ่งลูกทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส พยายามที่จะใช้ความได้เปรียบจากส่วนสูงเข้าเล่นงาน
แอดนาน ยานูซาย ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทนชอว์ในตำแหน่งวิงแบ็คด้านซ้ายสร้างโอกาสให้ฟาน เพอร์ซี่ได้ยิง แต่บอลก็ยังออกข้าง นั่นถือเป็นโอกาสลุ้นครั้งสุดท้ายของเกม และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็กลับออกมาจากถิ่นบริตันเนียด้วยการคว้า 1 คะแนน ยังคงอยู่อันดับที่ 3 ของตารางต่อไปก่อนที่คู่อื่นๆ จะทำการแข่งขัน
สถิติ
|
|
ผู้ทำประตู | |
สโต๊ค ซิตี้ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
ไรอัน ชอว์ครอสส์ น.2 | ราดาเมล ฟัลเกา น.26 |
สถิติ | |
สโต๊ค ซิตี้ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
11(2) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 6(2) |
8 | ฟาวล์ | 12 |
11 | เตะมุม | 7 |
2 | ล้ำหน้า | 2 |
0 | ใบเหลือง | 0 |
0 | ใบแดง | 0 |
34% | การครองบอล | 66% |