ผู้ชมในสนาม 75,312 คน
รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เวลา 01.45 น. วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2558
ผู้ตัดสิน เดนิซ อายเตคิน
รีพอร์ต
เมมฟิส เดปาย ยิงคนเดียว 2 ลูก พร้อมกับทำแอสซิสต์ให้ มารูยาน เฟลไลนี่ ในเกมที่ทำผลงานโดดเด่น ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าชัยชนะครั้งสำคัญเหนือคลับ บรูจจ์ 3-1 ในเกมเพลย์-ออฟ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แม้ว่า หลุยส์ ฟาน กัล จะผิดหวังเล็กน้อยที่ต้องมาเสียประตูทีมเยือน ซึ่งมาจากความโชคร้ายที่บอลไปโดน ไมเคิล คาร์ริค เปลี่ยนทาง ค่ำคืนนี้ก็ยังตกเป็นของเมมฟิสอยู่ดี และนักเตะใหม่คนนี้ก็สร้างความบันเทิงให้กับเหล่ากองเชียร์ปีศาจแดงด้วยฟอร์มการเล่นอันน่าทึ่ง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดน่าจะขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีแรก หลังจาก ฮวน มาต้า จ่ายบอลให้ แอดนาน ยานูซาย ทั้งฝั่งขวา ทำให้ดาวรุ่งชาวเบลเยียมสลัดหนีตัวประกบ ก่อนที่จะจ่ายต่อเกือบถึง เวย์น รูนี่ย์ ในกรอบเขตโทษของบรูจจ์ จากนั้นเมมฟิสก็มายิงแฉลบเข้ากรอบ ถือเป็นช่วง 5 นาทีที่น่าตื่นเต้นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด
แม้ว่าทีมปีศาจแดงจะเริ่มต้นเกมได้ดี แต่ทีมเยือนก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนแบบสุดช็อคในนาทีที่ 8 และมันก็เกิดขึ้นอย่างโชคร้าย วิคเตอร์ วาซเกซ ซึ่งได้รับคำชมจากฟาน กัลก่อนเกม มาเตะฟรีคิก 25 หลาไปแฉลบยานูซายที่ยืนเป็นกำแพง ก่อนที่คาร์ริคจะแหย่ขาสกัดบอลเปลี่ยนทางผ่านมือ เซร์คิโอ โรเมโร่ เข้าประตูไป นับว่าบรูจจ์ได้ประตูทีมเยือนลูกสำคัญกลับเบลเยียมเป็นที่เรียบร้อย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตอบโต้ทันควัน และสกอร์ก็กลับมาเท่ากันอย่างรวดเร็ว เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมจากเมมฟิส เขาจับบอลจากการวางยาวของคาร์ริคอย่างเชื่องเท้า ก่อนที่จะเคาะบอลข้ามหัวตัวประกบ แล้วลากผ่านแนวรับทีมเยือนเข้าไปยิงเลียดพื้นตุงตาข่ายให้แฟนๆ เจ้าถิ่นเฮลั่น ถือเป็นประตูแรกในระดับแข่งขันจริงกับสโมสรสำหรับนักเตะชาวดัตช์ และมันก็เป็นประตูที่มีความสำคัญด้วย
อดีตตัวรุกพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นมายิงแฉลบออกหลังไปอีกในนาทีที่ 25 ทำเอาแฟนๆ ในสนามต้องปรบมือให้เขาเป็นการใหญ่ จากลูกเตะมุมนั้น รูนี่ย์ได้จังหวะวอลเล่ย์หลุดกรอบไป ยานูซายเองก็ได้โอกาสอีกจากการจ่ายมาให้ของมาต้า แต่ก่อนที่นักเตะหมายเลข 11 จะได้จังหวะยิงก็มาโดนแนวรับบรูชสกัดเอาไว้ได้ก่อน
แฟนๆ ทีมเยือนที่ตามมาเชียร์ต่างก็ส่งเสียงกันไม่หยุด แต่ก็มาเงียบกันถ้วนหน้าในนาทีที่ 42 หลังจากที่เมมฟิสลากตัดเข้าในจากกราบซ้าย และยิงปั่นโค้งเสียบเสาไกลเข้าไป เขาฉลองประตูต่อหน้าแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้ขวัญใจหมายเลข 7 คนใหม่แล้ว
ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นด้วยการเปลี่ยนเอา บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ลงมาเล่นแทนคาร์ริคในแผงมิดฟิลด์ แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่ได้ผ่อนเกมรุกลงไป มาต้ามายิงในกรอบเขตโทษไปเข้ามือผู้รักษาประตู จากนั้นดาวเด่นของเกมอย่างเมมฟิสก็มายิงหลุดกรอบไป ก่อนที่เขาจะมาลองยิงไกลอีกลูก นับว่าเขาสร้างความลำบากใจให้แนวรับของบรูจจ์ไม่หยุดหย่อนจริงๆ
มีเหตุการณ์ให้ถกเถียงเกิดขึ้นในขณะที่เกมผ่านมาครบชั่วโมง อย่างน้อยก็จากมุมมองของทีมจากเบลเยียม เมื่อตัวสำรอง มามาดู ออแลร์ ฉกบอลจากการจ่ายคืนหลังที่เบาเกินไปของ มัตเตโอ ดาร์เมียน ทำให้โรเมโร่ต้องเคลียร์แบบตะกุกตะกัก ซึ่งสุดท้ายบรูจจ์ก็ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ อย่างไรก็ตาม เดนิซ อายเตคิน ผู้ตัดสินชาวเยอรมันก็มองว่าทีมเยือนไปฟาวล์ใส่ผู้รักษาประตูชาวอาร์เจนตินาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก่อน
เมมฟิสน่าจะทำแฮตทริคได้เมื่อเขาซัดจ่อๆ ข้ามคาน ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ถูกส่งลงมาแทนยานูซายในนาทีที่ 71 ถือเป็นการลงสนามครั้งแรกในฤดูกาลของนักเตะชาวเม็กซิกัน และเขาก็ได้รับการต้อนรับที่ดีจากแฟนๆ
บรูจจ์มาเหลือตัวผู้เล่นแค่ 10 คน หลังจากที่ มิเคเล่ ได้รับ 2 ใบเหลืองแบบติดๆ กัน โดยครั้งที่ 2 เป็นการไปทำฟาวล์ใส่ชิชาริโต้ ทีมจากเบลเยียมถอยลงไปตั้งเกมรับลึก ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังมองหาประตูที่ 3 หลังจากที่เปิดเกมบุกอยู่นาน ทีมปีศาจแดงก็มาได้ประตูจนได้ เมื่อตัวสำรองอย่างเฟลไลนี่มาโขกจากลูกครอสของเมมฟิสในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ปิดผนึกชัยชนะครั้งสำคัญ 3-1 ก่อนที่จะเดินทางไปเตะกันต่อในเลกที่ 2 วันพุธหน้า
สถิติ
|
|
ผู้ทำประตู | |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | คลับ บรูจจ์ |
เมมฟิส เดปาย น.13, 43 มารูยาน เฟลไลนี่ น.90 |
ไมเคิล คาร์ริค ทำเข้าประตูตัวเอง น.8 |
สถิติ | |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | คลับ บรูจจ์ |
19(8) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 1(1) |
10 | ฟาวล์ | 11 |
10 | เตะมุม | 1 |
1 | ล้ำหน้า | 2 |
2 | ใบเหลือง | 3 |
0 | ใบแดง | 1 |
66% | การครองบอล | 34% |