ผู้ชมในสนาม 60,084 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 22.00 น. วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2558
ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์
รีพอร์ต
เป็นวันที่น่าลืมสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่นอร์ธ ลอนดอน เมื่อถูกเจ้าถิ่นรัวยิง 3 ประตูรวดภายใน 20 นาทีแรก และก็เป็นอาร์เซนอลที่ชนะไป 3-0
เจ้าถิ่นออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 2 ลูก จาก อเล็กซิส ซานเชซ และ เมซุต โอซิล ในช่วง 10 นาทีแรก ก่อนที่ซานเชซจะมาบวกเพิ่มได้ในภายหลังอีกลูก
ครึ่งแรกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสู้ไม่ได้ทุกกระบวนท่า แต่ในครึ่งหลังก็เล่นได้ดีขึ้น และก็ทำให้ ปีเตอร์ เช็ค ต้องออกแรงเซฟ 2 ครั้ง แม้สุดท้ายจะไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆ ได้เลยก็ตาม
หลุยส์ ฟาน กัล ปรับทัพ 2 ตำแหน่งจากเกมที่พลิกกลับมาชนะโวล์ฟสบวร์ก เป็น ไมเคิล คาร์ริค และ แอชลี่ย์ ยัง ที่ได้ลงเล่นแทน มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ตามลำดับ ยังต้องลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย แม้ว่าในฤดูกาลนี้เขาจะโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในการเล่นปีกก็ตาม ขณะที่ มัตเตโอ ดาร์เมียน ซึ่งลงเล่นเป็นแบ็คซ้ายตลอด 2 เกมที่ผ่านมาได้กลับมายืนตำแหน่งแบ็คขวาตามถนัดอีกครั้ง
เกมนี้ถือว่าพลิกกลับตาลปัตรจากผลงานในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชนะโวล์ฟสบวร์ก 2-1 ขณะที่อาร์เซนอลแพ้คาบ้านต่อโอลิมเปียกอส 2-3 นั่นทำให้หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยในทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ แต่กลับกลายเป็นว่าในช่วง 10 นาทีแรกของเกม ทีมปืนใหญ่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดเฉียบคม
อาร์เซนอลใช้เวลาแค่ 7 นาทีเท่านั้นในการล่าตาข่ายได้ถึง 2 ลูก โดยที่ทีมปีศาจแดงแทบไม่ได้แตะบอลเลย ลูกแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 6 โอซิลได้บอลทางฝั่งขวา ก่อนที่จะครอสมาให้ซานเชซยิงผ่านมือ ดาบิด เด เคอา จากนั้นอีก 60 วินาทีต่อมา โอซิลก็มาใส่ชื่อตัวเองลงบนสกอร์บอร์ดบ้างด้วยการยิงข้างเท้าเข้าไป จากการจ่ายมาให้ของ ธีโอ วัลค็อตต์
ทีมปีศาจแดงพยายามที่จะกลับคืนสู่เกม แต่สุดท้ายก็เป็นอาร์เซนอลที่มาบวกประตูที่ 3 เพิ่ม วัลคอตต์มีส่วนร่วมกับจังหวะทำประตูอีกครั้ง เขาจ่ายบอลให้ซานเชซที่บริเวณกรอบเขตโทษ ก่อนที่ดาวเตะชาวชิลีจะลากบอลแนวรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้วยิงเข้าสู่มุมประตู ทำเอาทีมเยือนอึ้งกันไปเป็นแถบ
4 นาทีก่อนเกมครบครึ่งชั่วโมง ซานเชซจ่ายบอลให้ อารอน แรมซี่ย์ ยิงถากเสาออกข้างแบบได้ลุ้น จากนั้นก่อนจบครึ่งแรกไม่นาน ทีมปีศาจแดงก็เพิ่งจะมาได้โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของเกม บอลจากดาร์เมียนมาถึง อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล เขาจับบอลก่อนที่จะพลิกตัวยิง แต่เช็คก็ยังใช้ขาบล็อคเอาไว้ได้
ฟาน กัลทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่น 2 ตำแหน่งในครึ่งหลัง อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ มารูยาน เฟลไลนี่ ถูกส่งลงมาแทนดาร์เมียนกับเมมฟิส พร้อมกับถ่าง เวย์น รูนี่ย์ ออกไปยืนทางฝั่งซ้าย โดยเป็นเฟลไลนี่ที่มายืนหลังมาร์กซิอัลแทน
ทีมปีศาจแดงทราบดีว่าต้องโต้ตอบให้ได้โดยเร็วที่สุด ยังเกือบจะทำได้ในนาทีที่ 4 หลังเขี่ยบอลในครึ่งหลัง เมื่อเขาลากตัดเข้าในจากฝั่งซ้าย ก่อนที่จะยิงไปติดเซฟของเช็ค จากนั้นเมื่อเกมผ่านชั่วโมงมาได้ไม่นาน รูนี่ย์ก็มาสับไกยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ผู้รักษาประตูอาร์เซนอลก็ยังปัดออกไปหวุดหวิด
โอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดของทีมปีศาจแดงเกิดขึ้นในนาทีที่ 68 เป็นการทำเกมจาก ไมเคิล คาร์ริค, ฮวน มาต้า และ เวย์น รูนี่ย์ ก่อนที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ จะได้หลุดไปยิง แต่เช็คก็ยังสามารถบล็อคเอาไว้ได้อีก
อาร์เซนอลไม่ได้โหมบุกหนักเหมือนกับในครึ่งแรกแล้ว เมื่อพวกเขาพอใจกับสกอร์นำห่างขนาดนี้ แต่เจ้าถิ่นก็ยังมาได้จังหวะลุ้นประตูที่ 4 อยู่ดีเมื่อโอซิลได้ยิงให้เด เคอาต้องออกแรงเซฟ
ตัวสำรอง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มายิงเช็ดคานออกหลังไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สุดท้ายแฟนๆ อาร์เซน่อลก็ได้ฉลองกันหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาว ขณะที่ทีมปีศาจแดงซึ่งพบกับความผิดหวังจะต้องพยายามลืมเกมนี้ลงไปให้ได้โดยเร็วที่สุด
สถิติ
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| อาร์เซนอล | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
| อเล็กซิส ซานเชซ น.6, 19 เมซุต โอซิล น.7 |
| สถิติ | |
| อาร์เซนอล | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
| 12(5) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 9(5) |
| 8 | ฟาวล์ | 17 |
| 3 | เตะมุม | 6 |
| 2 | ล้ำหน้า | 3 |
| 1 | ใบเหลือง | 3 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 38% | การครองบอล | 62% |
