ทำไมต้อง 3 นักเตะนี้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 รูปปั้น Holy Trinity อันโด่งดังของทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ถูกตั้งวางโชว์สู่สายตาประชาชนและแฟน ๆ ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เดอะ ทรินิตี้ โดยรูปปั้นนี้ประกอบไปด้วยนักเตะในตำนานอย่างเดนิส ลอว์, เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และจอร์จ เบสต์ ซึ่งหากให้ท้าหรือไปสอบถามเหล่าแฟน ๆ แมนยูหรือผู้ที่ชอบการพนันออนไลน์ในไทยก็คงประหลาดใจที่ไม่มีรูปปั้นของนักเตะขวัญใจหลาย ๆ คนอย่างบ็อบบี้ ร็อบสัน, เดวิด เบ็คแฮม หรือพอล สโคลส์
ทำไมต้องเป็น 3 นักเตะนี้เท่านั้นที่ได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานจนต้องมีรูปปั้น Holy Trinity เป็นของตัวเอง
คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะนักเตะในตำนานทั้ง 3 นี้ไม่ใช่เพียงแค่ไอคอนในวงการฟุตบอลที่ได้รับรางวัลมากมายทั้งในประเภททีมและรายบุคคลเท่านั้น แต่สำหรับใครหลาย ๆ คนทั้งในและนอกวงการฟุตบอล 3 นักเตะเหล่านี้ถือเป็นตัวแทนประวัติศาสตร์ที่ยืนหยัดถึงความกล้าหาญ และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความปรารถนาที่จะคว้าชัยชนะและความสำเร็จ
3 นักเตะในตำนาน กับการมีรูปปั้นของตัวเองใน Holy Trinity
เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน นักเตะตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคนแรกที่มีรูปปั้นตัวเองใน Holy Trinity
บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ผู้ซึ่งผ่านเหตุการณ์เครื่องบินสโมสรระเบิดที่มิวนิกในปี 1958 ได้กลายมาเป็นหนึ่งนักเตะในตำนานของสโมสร โดยจุดสูงสุดในอาชีพค้าแข้งของชาร์ลตันเกิดขึ้นในปี 1965 เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ และในปีต่อมาเขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปหลังจากยิงได้ 18 ประตูจากการลงสนาม 54 นัด
ความนิยมของชาร์ลตันนั้นเรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักทั้งในฐานะนักฟุตบอลระดับนานาชาติและในฐานะตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่ที่จุดสูงสุดคือการคว้าชัยชนะและได้ครอบครองถ้วยยูโรเปี้ยนคัพในปี 1968 เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ชาร์ลตันรุ่งโรจน์สุด ๆ จนเหล่าแฟนบอลยุคปัจจุบันต่างก็รู้จักกับนักเตะท่านนี้ และต่อมาชาร์ลตันได้ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 1973 คว้าตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุดและลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากที่สุดไปครอง
เดนิส ลอว์ อีกหนึ่งนักเตะที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการเป็นตำนานแห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เดนิส ลอว์ ตำนานคนที่ 2 ของ Holy Trinity ผู้ซึ่งย้ายจากโตริโน่มายังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยค่าตัวสถิติการย้ายทีมของอังกฤษที่ 115,000 ยูโรในปี 1962 ในฤดูกาลที่ 2 ลอว์ได้สร้างสถิติการยิงประตูมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลให้กับสโมสร โดยทำได้ 46 ประตูในทุกรายการ จนถึงทุกวันนี้สถิตินี้ก็ยังไม่มีใครล้มได้
ในฐานะผู้ทำประตู ลอว์นั้นมีฝีเท้าไร้ที่ติโดยสามารถยิงได้ 20 ประตูขึ้นไปใน 6 จาก 11 ฤดูกาลที่เขาอยู่กับสโมสร กองหน้าชาวสก็อตแลนด์รายนี้มีฝีเท้าเข้ากันได้อย่างน่ามหัศจรรย์กับบ็อบบี้ ชาร์ลตัน อีกทั้งยังได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีในปี 1964 ของยุโรปเพียง 2 ปีในอาชีพยูไนเต็ดเท่านั้น และในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล 1973-74 ลอว์ย้ายไปร่วมทีมคู่แข่งข้ามเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งเขาจบอาชีพการเล่นของเขาที่นั่น
จอร์จ เบสต์ นักเตะคนสุดท้ายผู้เติมเต็ม Holy Trinity ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จอร์จ เบสต์ ไม่เพียงแต่เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดใน Holy Trinity เท่านั้น แต่ยังเป็นวีรบุรุษที่มีเสน่ห์และมีสีสันที่สุดของสโมสรอีกด้วย เบสต์เปิดตัวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเดือนกันยายน ค.ศ. 1963 หลังจากผันตัวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพเมื่ออายุเพียง 17 ปี
เบสต์ได้รับการขนานนามว่าเป็น 'อัจฉริยะ' และเป็นซูเปอร์สตาร์คนแรกที่สร้างเสื้อหมายเลข 7 อันโด่งดังให้กับยูไนเต็ด เขาสร้างเวทย์มนตร์ในสนามด้วยทักษะเลี้ยงบอลอันยอดเยี่ยม เบสต์ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปหลังฤดูกาล 1967-68 โดยจบด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดด้วยผลงาน 32 ประตูจาก 53 เกม เบสต์ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างไม่มีพิธีการในปี 1972 และไปที่เมืองมาร์เบลลา ประเทศสเปน จากนั้นกลับมาในปี 1974 ก่อนที่สัญญาจะหมดกลางฤดูกาลนั้น
