ผู้ชมในสนาม 23,821 คน
รายการ เอฟเอ คัพ
เวลา 03.05 น. วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2550
ผู้ตัดสิน โฮเวิร์ด เวบบ์
ด้วยจำนวน 3 ประตูใน 6 นาทีแรกก็เพียงพอที่จะช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะเรดดิ้ง ได้ 2 - 3 ในศึกเอฟเอ คัพรอบที่ 5 นัดรีเพลย์
โดยแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูแรกจากกาเบรียล ไฮน์เซ่ หลังจากเล่นไปได้เพียง 2 นาทีด้วยลูกยิงจากระยะ 25 หลา ตามด้วยลูกวอลเล่ย์ของหลุยส์ ซาฮา ในนาทีที่ 4 และลูกยิงโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ในนาทีที่ 6 ก่อนที่เรดดิ้งจะยิงตามมาได้ 2 ประตูจากลูกโหม่งของเดฟ คิตสัน ในนาทีที่ 23 และลูกโหม่งของเลรอย ลิต้า ในนาทีที่ 84
แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเกมได้อย่างรวดเร็ว เพียง 2 นาทีก็ได้ประตูขึ้นนำ จากลูกเปิดของโอเชีย ให้กับไฮน์เซ่ ที่หน้ากรอบเขตโทษ แบ็กทีมชาติอาร์เจนติน่า ได้ยิงเต็มข้อบอลผ่านตัวเฟเดริชี่ ผู้รักษาประตูของเรดดิ้ง เข้าประตูไป ทีมเยือนขึ้นนำ 0 - 1
หลังจากนำลูกมาเขี่ยได้ไม่นาน เรดดิ้งก็เสียประตูที่ 2 อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 4 ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็ได้เปิดบอลยาวไปถึงซาฮา และศูนย์หน้าทีมชาติฝรั่งเศสก็ได้วอลเล่ย์บอล ผ่านมือผู้รักษาประตูชาวออสเตรเลียเข้าประตูไปสบายๆ แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 0 - 2
จากนั้นอีกเพียง 2 นาทีโซลชาร์ ก็ทำประตูที่ 3 ให้กับทีม จากลูกเปิดของคีแรน ริชาร์ดสัน และโซลชาร์ ก็หลุดกับดักล้ำหน้า และบรรจงแปบอลเข้าประตูไปจากระยะ 8 หลา แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำไปแล้ว 0 - 3 ด้วยเวลาเพียง 6 นาที
หลังจากถูกยิงนำไปถึง 3 ประตู สตีฟ ค็อปเปลล์ ผู้จัดการทีมเรดดิ้งก็เริ่มปรับแผนการเล่นในนาทีที่ 15 โดยเปลี่ยนจากการวางกองหลัง 3 คนเป็นระบบ 4 - 4 - 2 ซึ่งก็ถือว่าได้ผลทีเดียว เพราะทำให้เกมรับและเกมรุกของทีมดีขึ้น และสามารถต่อกลอนกับแมนฯ ยูไนเต็ด ได้มากขึ้น
และผลจากการปรับแผนการเล่นก็ปรากฏเมื่อเรดดิ้งสามารถตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 23 จากลูกเตะมุมของจอห์น ออสเตอร์ ไปให้กับคิตสัน ได้โหม่งเข้าประตูไปจากระยะ 2 หลา ทีมเจ้าบ้านตีตื้นมาได้เป็น 1 - 3
หลังจากนั้นเรดดิ้งก็ได้บุกมากขึ้นและออสเตอร์ ซึ่งเล่นได้ดีในนัดนี้ ก็ทำให้แนวรับแมนฯ ยูไนเต็ดต้องทำงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อช่วยทีมไม่ให้เสียประตู และเขาก็ทำได้ดีมากด้วย
อย่างไรก็ดีแผงมิดด์ฟิลด์ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เริ่มที่จะเล่นแบบเนือยๆ ไม่กระตือรือร้น เริ่มครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ และไม่มีเกมที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้น จนกระทั่งนาทีที่ 69 ริชาร์ดสัน ได้ยิงด้วยเท้าขวาแต่เฟเดริชี่ ก็ป้องกันไว้ได้
ในช่วงครึ่งหลังทีมเจ้าบ้านมีโอกาสบุกมากขึ้นแต่ก็ยังทำอะไรแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ จนเหลือเวลาอีก 6 นาทีจะหมดเวลา การบุกของเรดดิ้งก็เป็นผลเมื่ออูลิเซส เดอ ลา ครูซ เปิดบอลให้ลิต้า ได้โหม่งจากระยะ 12 หลาเข้าประตูไป เรดดิ้งตามมาเป็น 2 - 3
หลังจากนั้นเรดดิ้งก็ยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้แฟนทีมปีศาจแดงต้องใจเต้นไปตามๆ กันเพราะเกรงว่าเกมจะยืดเยื้อไปถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ เมื่อในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไบร์นยาร์ กุนนาร์สสัน ได้ยิงจากระยะ 20 หลา บอลผ่านฟาน เดอร์ ซาร์ ไปได้แต่กลับชนคานอย่างน่าเสียดาย
จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะเรดดิ้ง ได้ 3 - 2 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ ไปได้ และยังคงมีลุ้น 3 แชมป์ต่อไป (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เรดดิ้ง
อดัม เฟเดริชี่ 32
อูลิเซส เดอ ลา ครูซ 23 (

อังเดร ไบคี่ย์ 22 (

อิวาร์ อินกิมาร์สสัน 16
นิคกี้ โชเรย์ 3
ไบร์นยาร์ กุนนาร์สสัน 6
โซล กี ยอน 19
สตีฟ ซิดเวลล์ 4
จอห์น ออสเตอร์ 11
เดฟ คิทสัน 12 (

เควิน ดอยล์ 9
สำรอง
มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ 1
แซม ซอดเย่ 18
เกล็น ลิตเติ้ล 7


สตีเฟ่น ฮันท์ 10
เลรอย ลิต้า 8


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
เวส บราวน์ 6
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4 (

จอห์น โอเชีย 22
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
พาร์ค จีซุง 13
หลุยส์ ซาฮา 9 (

โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20 (

สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7


พอล สโคลส์ 18
เวย์น รูนี่ย์ 8


อลัน สมิธ 14
สถิติของเกม
เรดดิ้ง ประตู 2, ยิงตรงกรอบ 2, ยิงหลุดกรอบ 7, โดนบล็อค 3, เตะมุม 5, ฟาวล์ 14, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 2, การครองบอล 47.8%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 3, ยิงตรงกรอบ 6, ยิงหลุดกรอบ 7, โดนบล็อค 5, เตะมุม 3, ฟาวล์ 11, ล้ำหน้า 4, การครองบอล 52.2%
คะแนนความสามารถ
เรดดิ้ง อดัม เฟเดริชี่ 4, อูลิเซส เดอ ลา ครูซ 6, อังเดร ไบคี่ย์ 5, อิวาร์ อินกิมาร์สสัน 5, นิคกี้ โชเรย์ 5, ไบร์นยาร์ กุนนาร์สสัน 6, โซล กี ยอน 5, สตีฟ ซิดเวลล์ 6, จอห์น ออสเตอร์ 5, เดฟ คิทสัน 7, เควิน ดอยล์ 6, เกล็น ลิตเติ้ล (สำรอง) 5, เลรอย ลิต้า (สำรอง) 7
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7, มิเกล ซิลแวสตร์ 6, เวส บราวน์ 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 7, จอห์น โอเชีย 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 7, คีแรน ริชาร์ดสัน 7, พาร์ค จีซุง 6, หลุยส์ ซาฮา 8, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (สำรอง) 5, เวย์น รูนี่ย์ (สำรอง) 5