อาร์โนลด์ เล่นเป็นคนเหล็ก มีสองภาคมั๊ง สนุกมากๆ ...อาร์โนลด์เล่นหนังกี่เรื่องก็สนุก ตอนหลังมาเล่นหนักแนวตลกๆ ด้วยซ้ำ ก็ยังน่ารัก...แล้วก็ลาออกไปสมัครผู้ว่าฯ ได้รับเลือก จากนั้นก็หายไปจากวงการ ข่าวว่าเขาทำงานได้ดี ท่าทางดี ผู้คนชื่นชอบ .. ตอนนี้มีข่าวว่า ได้รับเลือกอีกสมัยแล้วค่ะ ...เห็นข่าวใน นสพ.ไทยรัฐ บางคนอาจได้อ่านแล้ว หากใครยังไม่ได้อ่าน ก็อ่านนะ น่าสนใจดีค่ะ เก็บมาฝาก....
*****************************************************************
พูดจริงทำจริง [4 ต.ค. 51 - 16:23]
แม้ในอดีตจะสร้างชื่อเสียงจากการเป็นพระเอกหนังแอ็กชั่น และแชมป์เพาะกายระดับโลก แต่เมื่อ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ได้รับความไว้วางใจจากอเมริกันชน โหวตให้เป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ติดต่อกันถึงสองสมัย อดีตคนเหล็กก็ทิ้งทุกบทบาทไว้เบื้องหลัง เพื่อหันมาทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่
นับว่าชาวมะกันใจกว้างไม่น้อย เพราะอันที่จริงแล้ว อาร์โนลด์ เป็นชาวออสเตรียทั้งแท่ง เติบโตมาในครอบครัวเคร่งศาสนา และพ่อแม่เลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวดสุดๆ เขาใฝ่ฝันอยากเป็นนักเพาะกายตั้งแต่วัยรุ่น โดยได้รับอิทธิพลมาจากพ่อ ซึ่งมีอาชีพเป็นตำรวจ
สมัยเป็นทีนเอจ อาร์โนลด์ เล่นกีฬาทุกชนิด และชื่นชอบฟุตบอลเป็นพิเศษ กระนั้น โค้ชฟุตบอลเกิดเห็นแววในตัวเขา และชักชวนให้เข้าโรงยิม เพาะกายแทน ทำให้เขาค้นพบความฝันของตัวเอง ขณะอายุเพียง 14 ปี นับจากนั้นมา ก็ทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อมุ่งสู่การเป็นนักเพาะกายอาชีพ และได้เข้าแข่งขันเพาะกายอย่างเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรก ตอนอายุ 17 ปี
หลังจากสร้างชื่อเสียงไปทั่วยุโรป จนได้รับการโหวตให้เป็นนักเพาะกายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทวีป อาร์โนลด์ ตัดสินใจไปขุดทองเพื่อสร้างความร่ำรวยในอเมริกา โดยเขาย้ายรกรากไปอยู่แดนมะกัน ตอนอายุ 21 ปี ขณะนั้นพูดภาษาอังกฤษได้ไม่กี่คำ เพราะพื้นเพพูดเยอรมันมาตลอด ซึ่งถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในการทำมาหากินในวงการมายา แต่ก็อาศัยเรียนทางลัด ได้เมียคนแรกเป็นครูสอนภาษาอังกฤษช่วยไว้
เมื่อบรรลุความฝันอีกขั้น สามารถกวาดตำแหน่งแชมป์ มร.โอลิมเปีย จากมหกรรมการแข่งขันเพาะกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มาครองได้ถึง 7 สมัย เขาก็ประกาศรีไทร์จากอาชีพนักเพาะกายทันที และหันมามุ่งมั่นกับการเป็นนักแสดงเต็มตัว
ช่วงแรกที่เข้าสู่ วงการบันเทิง ผู้จัดมักหาเรื่องติไปต่างๆนานาบ้างก็ว่ารูปร่างของเขาไม่สมส่วน, สำเนียงของเขาฟังดูตลก หรือแม้แต่ ชื่อนามสกุล ก็ยังถูกค่อน ขอดว่ายาวเกินจะจดจำไหว ไม่ว่าไปแคสติ้งที่ไหนจึงถูกปฏิเสธตลอด หลายแห่งยังบอกให้เขาเปลี่ยนชื่อ แล้วค่อยมาคุยกันใหม่!!
อย่างไรก็ดี หลังจากลุ่มๆดอนๆอยู่พักใหญ่ เล่นหนังกี่เรื่องๆก็ไม่ดัง โชคก็เป็นของเขาบ้าง เมื่อได้มีโอกาสแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง The Terminator ตอนปี 1984 ทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจคอหนังแอ็กชั่น
นอกจากจะร่ำรวยและโด่งดังสมปรารถนาแล้ว เขายังมีความใฝ่ฝันลึกๆที่อยากทำงานทางการเมือง โดย อาร์โนลด์ ไม่ปิดบังว่าตนเองสนับสนุนพรรครีพับลิกัน แม้จะสวนกระแสกับชาวฮอลลีวูดส่วนใหญ่ คนเหล็กของเราได้มีโอกาสทำงานการเมืองตำแหน่งแรก ในฐานะประธานสภาการกีฬาและฟิตเนสกายภาพ ระหว่างปี 1990-1993 โดย จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เป็นผู้แต่งตั้ง ก่อนที่จะขยับมาทำหน้าที่คล้ายคลึงกันให้รัฐแคลิฟอร์เนีย
โอกาสสำคัญทางการเมืองได้มาถึงมือเขา เมื่อเก้าอี้ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียว่างลง และมีการจัดเลือกตั้งซ่อม ในปี 2003 ทั้งๆที่เขาไม่เคยขึ้นปราศรัยแสดงนโยบายทางการเมืองแม้แต่ครั้งเดียว แต่ชาวแคลิฟอร์เนียกลับเทคะแนนเลือก คนเหล็ก เป็นผู้ว่าการรัฐคนใหม่ ด้วยคะแนนโหวตถึง 1.3 ล้านเสียง ต่อมาเมื่อครบวาระในสมัยแรก เขาก็ยังได้รับความไว้วางใจจากประชาชน โหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นสมัยที่สอง โดยขึ้นสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือน ม.ค.2007
ตั้งแต่เข้ามารั้งตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียสมัยแรก อดีตคนเหล็ก ก็ได้ออกแผนปฏิบัติการสำคัญ ที่จะปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทุกด้านในแคลิฟอร์เนีย ไล่ตั้งแต่อากาศ, น้ำ, ทัศนียภาพ, ต้นไม้ และ ทรัพยากรพลังงาน โดยเขาได้ริเริ่มสร้างเขตอนุรักษ์ธรรมชาติครอบคลุมพื้นที่ถึง 10 ล้านเฮกตาร์ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และรักษาทัศนียภาพอันสวยงามของแคลิฟอร์เนียไว้, สร้างโอเชียน พาร์ค ขนาดหลายพันเฮกตาร์ ให้เป็นแหล่งพักผ่อนของประชาชน รวมทั้งจัดสรรงบประมาณหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อฟื้นฟูชุมชนที่อยู่อาศัย, จัดระเบียบการประมง และลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม
เขายังเป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญในการบังคับใช้นโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน อีกทั้งยังสั่งการให้รัฐบาลท้องถิ่นลดการใช้พลังงานลง 20% และให้งบ 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯส่งเสริมโครงการนำร่องการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ โดยติดตั้งโซลาร์ เซลล์ให้ตามบ้าน และออฟฟิศขนาดเล็ก
ในฐานะผู้ว่าฯสมัยที่สอง อาร์โนลด์ ได้ตั้งเป้าไว้อย่างชัดเจนว่า ภายในปี 2020 หนึ่งในสามของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในแคลิฟอร์เนีย จะต้องมาจากแหล่งพลังงานธรรมชาติเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์, ลม หรือพลังน้ำ
ไม่น่าแปลกใจที่ อดีตคนเหล็ก จะได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็นฮีโร่สิ่งแวดล้อมของโลก เพราะทั้งมุ่งมั่น และพูดจริงทำจริง... อยากมีผู้ว่าฯอย่างนี้บ้างจัง!!