โซลชาเกิดวันที่ 26 ก.ค. 1973
เริ่มค้าแข้งกับทีมเคลาส์เซเนห์เกน ตอนอายุ 17 ปี
ยิงได้ 115 ประตู จาก 109
ย้ายไปอยู่กับโมลเดในปี 1994
ยิงได้ 31 ประตู จาก 41 นัด
ติดทีมชาตินอเวย์ ครั้งแรก ในเกมพบ จาเมกา เดือน พย 1995
เสมอกัน 1-1 โซลชาเป็นคนทำประตูให้นอเวย์
ย้ายจากโมลเดมาอยู่แมนยูฯ เมื่อเดือน กค ปี 1996
ลงสนามนัดแรกกับแบล็คเบิร์น ลงเป็นตัวสำรองแค่6 นาที ก็ทำประตูได้
ก่อนเปิดฤดูกาล 1998-1999ปฏิเสธที่จะย้ายไปเสปอ
นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เพราะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของแมนยูฯ และตัวเขาเอง
ผีแดงกวาด 3 แชมป์ พรีเมียร์,เอฟเอคัพ,แชมเปี้ยนลีก
ในเกมพรีเมียร์ฤดูกาลนั้น นัดที่พบฟอเรส โซลชาเป็นตัวสำรอง
ช่วง19 นาทีสุดท้าย ขณะที่แมนยูฯนำอยู่ 4-1
เขาใช้เวลาเพียง12นาที เหมาคนเดียว 4 ลูก
จบเกม แมนยูฯ ชนะ 8-1
แมตแห่งความทรงจำของโซลชา ที่ทำให้เค้ากลายเป็นตำนาน
ที่ยิ่งใหญ่ของแมนยู
คือ นัดชิงแชมป์เปี้ยนลีกกับบาเยิร์น
90 นาที บาเยิร์น นำ1-0
แมนยูฯ สร้างปาฏิหารย์ เชอริงแฮมตีเสมอช่วงทดเจ็บ1-1
โซลชาที่ลงมาเป็นตัวสำรองของ แอนดี โคล9นาที
จิ้มบอลเผาขนทางเสาสองตุงตาข่าย
เป็นประตูชัยให้แมนยูฯ ชนะ 2-1 อย่างเหลือเชื่อ
ปี2003 โซลชาเจ็บหนักในเกมแชมเปี้ยนลีก
เค้าต้องรับการผ่าตัดเข่าถึง3ครั้ง
จากนั้นพักรักษาตัวร่วม 2 ปีกลับมาอีกครั้ง
แมนยูฯ ตอบแทนความจงรักภักดีของเขาด้วยการต่อสัญญา 2 ปี
เมื่อเดือนกันยายน 2006
ลูกแรกที่เขายิงได้หลังจากกลับมา
คือการพบชาลตัน เดือน สิงหา 2006
ทำให้ทุกคนในทีมรวมทั้ง แฟนบอลดีใจมาก
โซลชายิงได้ 11 ประตู ทั้งที่ไม่ค่อยมีโอกาสลงสนามมากนัก
โซลชาอยู่แมนยูฯ 11 ปี ลงสนาม 365นัด ยิงได้126 ประตู
"เพชฌฆาตหน้าทารก" โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
เค้าอาจไม่ไช่นักเตะระดับซุปเปอสตาร์
แต่เขาเป็นผู้เล่นสำคัญคนหนึ่งของแมนยูฯในยุคของเฟอร์กี้
มีระเบียบวินัย เล่นเพื่อทีม ไม่หวงบอล
นิสัยดีทั้งในและนอกสนาม ไม่เคยปริปากบ่นกับการเป็นตัวสำรอง
เป็นที่รักใคร่ของทุกคน
ถึงแม้ จะไม่ได้เห็นเขาโลดแล่นในสนามอีกแล้ว
แต่ผมเชื่อว่า
ผลงานของโซลชา จะอยู่ความทรงจำของผม
และแฟนๆ ผีแดงทั่วโลกตลอดไป
