
ชลบุรี เอฟซี เก่งบวกเฮง เบียดเอาชนะท่าเรือไทย เอฟซี 2-1 ได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาเจ็บ ในศึกไทย พรีเมียร์ลีก 2010 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่สนามวพ.ชลบุรี
ที่สนามสถาบันการพลศึกษา ชลบุรี ทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ ไทย เอฟซี เจ้าบ้านมี 22 แต้ม จาก 9 นัด นำเป็นจ่าฝูงอยู่ ส่วนทีมเยือนมี 14 แต้มจาก 10 นัด อยู่ในอันดับ 7 โดยมีแฟนบอลเข้าชมในนัดนี้ 9,531 คน เก็บเงินค่าผ่านประตูได้ 716,730 บาท ขายสินค้าที่ระลึกได้ 3.5 แสนบาท
นัดนี้เจ้าบ้านไม่มีพิภพ อ่อนโม้ และ ไมเคิล เบิร์น ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ในแผงหน้าใช้ จูลส์ บาก้า ที่พ้นโทษแบนกลับมายืนคู่กับ ฌอง มาร์ก บีนี และยังมี ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ช่วยเกมรุกอีกหลาย ในแผงกลางได้ ภูริทัต จาริกานนท์ พ้นโทษแบนกลับมาลงเล่นอีกราย ส่วนทีมเยือนมี ศรายุทธ ชัยคำดี และ สมปอง สอเหลบ เป็นตัวอันตรายในแดนหน้า
แค่นาทีแรก ทีมเยือนก็ช็อกกองเชียร์เจ้าถิ่น ในจังหวะขึ้ยนบุกครั้งแรก "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ได้โอกาสซัดง่ายๆ ตรงกรอบเขตโทษ บอลพุ่งหนีมือ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เข้าไปอย่างไม่น่าเชื่อ ท่าเรือไทย เอฟซี ขึ้นนำ 1-0 ประตู
นาทีที่ 11 เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ "น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาไปหน้าประตู "เชอรี่" เอกพันธ์ อินทเสน ได้บอลในกรอบเขตโทษ ตวัดยิงทันที แต่บอลหลุดกรอบออกไปน่าเสียดาย
ชลบุรี เอฟซี บุกกดดันต่อเนื่องหวังทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ทีมเยือนก็ช่วยกันต้านไว้ได้ดี และยังโต้กลับได้วูบวาบพอตัว เกมยังสูสี คู่คี่ ผลัดกันรุก-รับตลอดเวลา
นาทีที่ 23 "ฉลามชล" ทำเกมรุกขึ้นไปดี เทิดศักดิ์ แตะบอลให้ เอกพันธ์ ตรงแดนกลางก่อนไหลออกขวาให้ สุรีย์ สุขะที่ขึ้นมาเติมได้ดี แต่จังหวะเปิดบอลหลุดออกหลังไป
เกมท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่นบุกมากกว่าและมีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 37 จากจังหวะที่ เอกพันธ์ ได้บอลวางยาวขึ้นทางขวาก่อนกระชากถึงเส้นหลังตวัดมาหน้าประตู แต่ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ นายทวาร "สิงห์เจ้าท่า" ล้มตัวรับไว้ได้
แต่อีก 2 นาทีต่อมา กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮสนั่น เมื่อ ฌอง มาร์ก-บีนี ทะลุแผงดักล้ำหน้าขึ้นทางซ้าย ก่อนจะตวัดยิงด้วยน้ำหนักเฉียบคม บอลพุ่งเสียบประตูอย่างงดงาม หมดครึ่งแรก เสมอกัน 1-1
ครึ่งหลัง เกมเปิดแลกกันมากขึ้น ทีมเยือนพยายามเปิดเกมบุกกดดันแนวรับเจ้าถิ่นมากขึ้นกว่าเดิม และมีโอกาสลุ้นในนาทีที่ 52 จากศรายุทธ ที่พลิกตัวยิงครานโครมเบ้อเร่อ
นาทีที่ 61 เจ้าบ้านมีลุ้นบ้างเมื่อได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา เทิดศักดิ์ ปั่นอ้อมกำแพง แต่ ภัทรกร โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้
เกมของ "สิงห์เจ้าท่า" เริ่มตื้อ ต้องเปลี่ยนเอา ใหญ่ นิลวงศ์ และ จาค็อบ อั๊กฮิออนบาเร่ ลงมาล่นแทน ในขณะที่ "ฉลามชล" เน้นการครองบอลที่เหนียวแน่นไว้ก่อน
นาทีที่ 63 เจ้าบ้านน่าได้ประตูขึ้นนำที่สุด เมื่อจูลส์ บาก้า ทะลุหลุดแผงล้ำหน้าก่อนจ่ายให้ ฌอง มาร์ก-บีนี ยิงเน้นๆ แต่ไปชนเสาเหลือเชื่อก่อนกระดอนออกมา บาก้า ยิงซ้ำไปตรงตัวภัทรกร
"ฉลามชล" เร่งเกมอย่างหนัก ในขณะที่ผู้มาเยือนก็รอจังหวะโต้กลับ ทำให้เกมได้ลุ้นสนุก เจ้าบ้านบุกมากกว่า แต่ก็ยิงเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ถึงนาที่ 80 เจ้าบ้านเปลี่ยนเอา ศุภเสกข์ ออกแล้วเอา อาทิตย์ สุนทรพิธ ลงแทน ตามมาด้วยการเอา บาก้า ออก แล้วเอา สุกรี อีแต ลงเล่นแทน เป็นแการเล่นนัดแรกของสุกรี นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อต้นฤดูกาล
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกหมัดกันแบบใครดีใครอยู่ แต่ในช่วงทดเจ็บก็เกิดปาฎิหารย์ เมื่อ ฌอง มาร์ก-บีนี ได้ลูกหลุดเดี่ยวก่อนจะเปิดบอลออกขวาให้ สุกรี เข้าชาร์จเข้าประตูไป จบเกม ชลบุรี เอฟซี เอาชนะ ท่าเรือ ไทย เอฟซี หวุดหวิด 2-1 ประตู
หลังเกม สะสม พบประเสริฐ กุนซือ "สิงห์เจ้าท่า" ยอมรับว่า เป็นเกมที่สนุกมาก ท่าเรือ มาเล่นนัดนี้ไม่ได้หวังแค่เสมอ จึงเปิดเกมรุกสู้ ไม่มีอะไรต้องตำหนิ เพราะนักเตะทำหน้าที่กันได้ดี และทีมแพ้กับทีมอย่างชลบุรี ไม่ถือว่าน่าผิดหวัง ท่าเรือ ยังขอสู้ต่อและยังหวังลุ้นแชมป์
ทางด้าน จเด็จ มีลาภ กุนซือ "ฉลามชล" ที่เพิ่งได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนพ.ค. เผยว่า เป็นเกมที่น่าตื่นเต้นมาก ลูกทีมของตนตอนซ้อมทำไว้ได้ดีมาก แต่พอลงสนามดูเหมือนจะไม่กล้าเล่น กล้าให้บอลแบบเท้าถึงเท้า แต่คิดว่าถ้าทีมได้ พิภพ อ่อนโม้ กลับมาเกมรุกน่าจะดีขึ้น


[/<object width="500" height="405"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/kTUdgztwKMM&hl=en_US&fs=1&color1=0x006699&color2=0x54abd6&border=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/kTUdgztwKMM&hl=en_US&fs=1&color1=0x006699&color2=0x54abd6&border=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="500" height="405"></embed></object>
Credit - www.ChonburiFC.net