เท่าที่สังเกตุมา การซื้อขายตัวของเฟอร์กี้ ระยะหลังๆ คือการทำทีมระยะยาวทั้งสิ้น เรียกได้ว่าการทุ่มซื้อสตาร์ตามเทรน ช่วงต้นซีซัน นั้นไม่ค่อยมีให้เห็นเลย คนสุดท้ายคือเบอร์บาตอฟ ซึ่งผลที่ออกมาไม่ค่อยเป็นอย่างที่หวังนัก
ทำให้ผมเชื่อว่า จากเวรอน สู่เบอร์บาตอฟ ทำให้เป็นฟางเส้นสุดท้ายกับการซื้อตัวแบบเอาใจแฟนๆ...หรือทุ่มเงินเพื่อเป้าหมายระยะสั้น ซึ่งผลที่ออกมา ความสม่ำเสมอของเราเอง หรือลูกทีมเจ๊เวน เป็นตัวอย่าง ที่มักจะทำผลงานได้ดีขึ้น หลังจากเล่นร่วมกันมาสองสามฤดูกาล และผลงานที่ไม่ดีอย่างที่หวังของมาดริด น่าจะการันตีหลักการณ์นี้ได้ดีเลยทีเดียว
ดังนั้นย่อมแสดงให้เห็นว่าเฟอร์กี้ที่บอกว่ามั่นใจกับขุมกำลังที่มีอยู่นั้น ไม่ได้พูดเพื่อกลบกระแสเรียกร้องให้ทุ่มหาตัวแทนโรนัลโด้ หรือซื้อซูเปอร์สตาร์ระดับเดียวกันมาประดับสโมสรแต่อย่างใด เพราะงานนั้นจบไปแล้วตั้งแต่ได้วาเลนเซีย และโอแบร์ตอง รวมทั้งนานี่ที่คืนฟอร์ม
การทำทีมต่อจากนี้ เชื่อได้ว่า จะมีแต่นักเตะแบบโรนัลโด้เท่านั้น ที่จะเป็นเป้าหมายสูงสุดในการซื้อนักเตะในตลาดของทีมเรา... และผมเชื่อว่า ชิชาริโต้นั้นดูเป็นนักเตะที่มีแววแบบนั้นมากที่สุดในตอนนี้
ข้อดีของการซื้อนักเตะแบบนี้ ก็คือ เป้าหมายของการซื้อ นั้นมุ่งเน้นผลิตผลระยะยาวจริงๆ นั่นย่อมหมายถึง เราสามารถลงทุนได้ทันทีเมื่อไหร่ก็ได้ ที่คิดว่านักเตะคนนั้นเหมาะสม และมีแวว ต่อไปคงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอีก ถ้าจะเห็นทีมเราทำสัญญากับนักเตะโนเนม กลางฤดูกาล!
แต่นั่นก็ย่อมเป็นไปตามกลไกตลาด ที่บางครั้งอาจต้องยอมเสี่ยง วัดดวงกับนักเตะที่ยังไม่ชัวร์ว่ามีแววแค่ไหน เืมื่อสโมสรคู่แข่งกระโดดเข้ามาร่วมวงด้วย กรณีอย่างเบเบ้ และ สมอลลิ่ง เป็นต้น... ถ้านักเตะไม่ดีจริง ก็คงต้องลงเอยแบบมานูโช่... แต่ถ้าดี ก็ลองติดตามผลงานของ ชิชาริโต้ต่อไป...
















