คณะอนุกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาทดิวิชั่น 2 สั่งลงโทษชัยนาท เอฟซี กรณีมีผู้เข้าไปทำร้าย บุญลือ จ้อยมีผู้ตัดสินในเกมที่เปิดบ้าน พ่ายพิจิตร 0-1 2 ก.ย. ชัยโชค พุ่มพวง สั่งแบนสนามเหย้า 4 นัด ปรับเงินสโมสร 50,000 บาทเข้าสมาคม จ่ายสินไหมทดแทนบำรุงขวัญเปา อีก 10,000 ปธ.ศูนย์เหนืออุบไม่เผยสนามกลางที่ชัยนาทจะต้องใช้ทำการแข่งขัน วิมลยันอุทธรณ์ได้หากต้องการ เสี่ยอึ่ง ผช.ผจก ชัยนาท อุทธรณ์แน่
การประชุมหาบทลงโทษทีม ชัยนาท เอฟซี หลังมีการเข้าไปทำร้ายผู้ตัดสินในเกมดิวิชั่น 2 กลางสัปดาห์เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาทของดิวิชั่น 2 ที่ห้องประชุม วีไอพี สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เวลา 10.30 น. โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมไม่ว่าจะเป็น นายชัยโชค พุ่มพวง ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาวินัยและมรรยาท นายวิมล กาญจนะ ประธานดิวิชั่น 2 นายสุเมต สุวรรณพรหม รองประธานดิวิชั่น 2 นายเกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ ประธานศุนย์พัฒนากีฬาอาชีพโซนภาคเหนือ ซึ่งตลอดการประชุมใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง
โดยวาระในที่ประชุมมีวาระสำคัญอยู่ 2 วาระ กรณีของ สตูล ยูไนเต็ด ที่ได้มีการยื่นหนังสือมาทางดิวิชั่น 2 เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัตินักเตะต่างชาติ ของ เอฟซี ภูเก็ต ว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจุดนี้ทางดิวิชั่น 2 ได้มีการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าถูกต้อง และได้มีการติติงทาง สตูล ยูไนเต็ด ในการยื่นหนังสือเพื่อตรวจสอบนั้นควรทำภายใน 48 ชั่วโมงภายหลังการแข่งขัน ส่วนทางเอฟซีภูเก็ตนั้นก็ต้องส่งเอกสารก่อนวันทำการแข่งขัน 3 วันเพื่อให้เป็นไปตามกฏข้อบังคับข้อ 64 ของดิวิชั่น 2 ว่าด้วยการยื่นเอกสารนักเตะใหม่ก่อนลงทำการแข่งขัน 3 วัน
ขณะที่ประเด็นที่เดือดที่สุดของวันนี้ก็หนีไม่พ้นเรื่องของ ชัยนาท เอฟซี ซึ่งก่อนการลงโทษ "เสี่ยอึ่ง" วันชัย ฮุ้นสกุล ผช.ผจก.ทีม ชัยนาท เอฟซี ได้มีการคาดการณ์ไว้ว่าโทษไม่น่าจะออกมาถึงขันแบนสนามเหย้า แต่เมื่อจบการประชุมทางดิวิชั่น 2 นายชัยโชค พุ่มพวง ประธานที่ประชุมได้มีการแถลงลงโทษ หลังจากร่วมกันวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ทำร้ายผู้ตัดสินแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่ร้ายแรงและไม่เคยเกิดขึ้นในวงการฟุตบอลไทย คือมีชายกลุ่มหนึ่งไม่ทราบฝ่ายจำนวน 4 คน เข้าทำร้ายผู้ตัดสิน จนเลือดออกที่บริเวณใบหน้า เป็นเรื่องที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นถือว่ามาตรการความปลอดภัยต่ำมาก ซึ่งมีแต่ต่างจากกรณีลพบุรีและอยุธยาในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ กล่าวคือกรณีลพบุรีมีแฟนบอลจำนวนมากซึ่งควบคุมได้ยาก แต่กรณีของชัยนาท คือผู้ตัดสินเพียงคนเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรฐานความปลอดภัยต่ำ
และได้มีการสรุปออกมาว่า ให้ปรับเงินสโมสร ชัยนาท เอฟซี 50,000 บาทเป็นเงินสดให้สมาคม แบนสนามเหย้าไม่ให้ใช้ทำการแข่งขัน 4 นัด และมีมติให้สโมสร ชัยนาท เอฟซี บำรุงขวัญผู้ตัดสิน 10,000 บาท ซึ่งการแบนสนามเหย้านั้นจะมีผลจนถึงรอบแชมเปี้ยนสลีกอย่างแน่นอน โดยฝ่ายจัดจะมีการจัดหาสนามเหย้าเพื่อใช้ทำการแข่งขันให้ โดยมอบหมายให้ นายเกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ ประธานพัฒนากีฬาอาชีพศูนย์ภาคเหนือเป็นผู้จัดหา
และนายวิมล กาญจนะ รองประธานดิวิชั่น 2 ได้กล่าวว่า หากสโมสรชัยนาท เอฟซีจะมีการยื่นอุทธรณ์เข้ามาก็ได้หลังได้รับหนังสือจากทางดิวิชั่น 2 ซึ่งทางตนจะทำหนังสือส่งมอบให้แก่พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาทของสมาคมฟุตบอลฯ ต่อไป
หลังจบการประชุมเพื่อหาข้อสรุปบทลงโทษ "เสี่ยอึ่ง" วันชัย ฮุ้นสกุล ผช.ผจก.ทีม ชัยนาท เอฟซีได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบทลงโทษเมื่อรับทราบว่า เป็นเรื่องที่หนักเกินไปเนื่องจากเหตุการณ์ไม่ได้ร้ายแรงเหมือนกรณีลพบุรีและอยุธยา การแบนสนามเหย้าถึง 4 นัดนั้นถือว่าเป็นเรื่องหนักขอสโมสรพอสมควร แม้ว่าแฟนบอลอาจจะรับได้ก็ได้ ตนยืนยันว่าจะอุทธรณ์แน่นอนเมื่อได้รับหนังสือบแจ้งโทษภายใน 7 วัน
ทางด้าน เฮียกิม นายเกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ ประธานศูนย์ฯภาคเหนือได้ให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้ก็มีสนามที่ตนเล็งไว้เพื่อเป็นสนามกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยก่อน เนื่องด้วยต้องหารือกับที่ประชุมเพิ่มเติรวมถึงหารือกับทางสโมสร ชัยนาท เอฟซี แต่ยืนยันว่าสนามที่จะจัดเป็นสนามกลางนั้นต้องมีคุณภาพดีอย่างแน่นอน
เครดิต
http://www.thaileagueonline.com/news.ph ... 776&page=1
ปล.แล้วนักเตพนักเลงคนนั้นทำไม่โดนลงโทษละเนี่ย ชัยวุฒิ วัฒนะ อ่ะ กระทืบนักเตะพิจิตรซะเกือบตาย อย่าบอกนะว่า แบนเท่าใบแดงธรรมดา
บทลงโทษออกจะเบาไปนิดนะเนี่ย แบนสนามแต่ไม่แบนคนดู เดี๋ยวก็ไปก่อเรื่องที่สนามอื่นอีกหรอก ที่โทษเบาเพราะกลัวอำนาจคนใหญ่คนโตของชัยาทปะเนี่ย
เปรียบเทียบกับการแบนคู่ ลพบุรี กับ อยุธยา
1.กองเชียร์ลพบุรี ขว้างขวดใส่ไลน์แมน ปรับ 5000 บาท
2.หมายเลข 15 ลากนักเตะ อยุธยา หลังจากที่เจ็บแล้วนอนหลังเส้นสนาม ตัด 6 แต้ม แบน 2 นัด
3.หมายเลข 10 ไปทำร้ายนักเตะอยุธยา หลังจากเป่าหมดเวลาตัด 12 แต้ม แบน 2 นัด
4.การจัดการการขายบัตร ไม่ตรงไปตามมาตรฐาน มีแอลกอฮอล จัดที่นั่งไม่ตามมาตรฐาน ห้ามแข่งในบ้าน 4 นัด และห้ามกองเชียร์เข้าเชียร์
5.เจ้าหน้าที่ขว้างขวดใส่ผู้เล่นของอยุธยาในสนาม ปรับ 12000 บาท ห้าม จนท คนนั้นยุ่งเกี่ยวกับสโมสรอีกต่อไป
6. กองเชียร์ทั้ง 2 ทีมขว้างขวดเข้าหากัน ปรับทีมละ 20000 บาท
รวม :
อยุธยา ปรับ 20000 บาท
ลพบุรี ปรับ 37000 บาท ตัดแต้ม 18 แต้ม ทำให้ลพบุรี มีแต่มปัจจุบัน -3