>> แมนฯยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล <<
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 19.30 น.
วัน อาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553
ถ่ายทอดสด ทรู วิชั่นส์ 101, HD111
วันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย. เวลา 19.30 น. - เปิดฤดูกาลไม่กี่นัด(นัดที่ 5) ก็มาถึงบิ๊กแมตช์ที่ทุกคนต่างเฝ้ารอกับพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ เมื่อลิเวอร์พูลต้องไปเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถิ่นของแมนฯยูฯ คู่ปรับตลอดกาล โดยที่ฟอร์มของทั้งสองทีมยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะลิเวอร์พูล
สภาพทีม ;
เจ้าบ้าน...(แมนฯยูไนเต็ด) ต้องยอมรับว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจพักผู้เล่นถึง 10 คนเพื่อเตรียมตัวสำหรับเกมใหญ่นัดนี้โดยเฉพาะ คาดว่านักเตะอย่าง พอล สโกลส์,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, นานี จะกลับมาปักหลักในเกมเหมือนเดิมส่วน เวย์น รูนีย์ ไม่มีปัญหาข้อเท้าแค่แพลง ไม่ได้หนักเหมือน วาเลนเซีย
สภาพทีมผีแดงร้อยเปอร์เซ็นต์ในการรับมือ ลิเวอร์พูล อย่างไม่ต้องสงสัย
ทีมเยือน...(ลิเวอร์พลู) ผ่านเกมยูโรปา ลีกเหมือนกันเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ รอย ฮอดจ์สัน เองก็ โรเตชั่น ไม่ต่างจากแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนโยบายของ รอย ตั้งแต่เริ่มรับงานกับลิเวอร์พูล ทำให้สภาพทีมของลิเวอร์พูลเองก็พร้อมไม่แตกต่างจากแมนฯยูฯ เท่าไหร่
สถิติ ;
ลีกสูงสุด ++ แมนยู ชนะ 59 ++ เสมอ 43 ++ ลิเวอร์พูล ชนะ 52 ++
เอฟเอคัพ ++ แมนยู ชนะ 8 ++ เสมอ 4 ++ ลิเวอร์พูล ชนะ 3 ++
ลีกคัพ ++ แมนยู ชนะ 1 ++ เสมอ 0 ++ ลิเวอร์พูล ชนะ 3 ++
อื่นๆ ++ แมนยู ชนะ 1 ++ เสมอ 3 ++ ลิเวอร์พูล ชนะ 2 ++
รวม ++ แมนยู ชนะ 69 ++ เสมอ 50 ++ ลิเวอร์พูล ชนะ 60 ++
ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 10 นัดล่าสุด ;
2009/2010 (2-1)
2008/2009 (1-4)
2007/2008 (3-0)
2006/2007 (2-0)
2005/2006 (1-0)
2004/2005 (2-1)
2003/2004 (0-1)
2002/2003 (4-0)
2001/2002 (0-1)
2000/2001 (0-1)
11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม ;
แมนฯยูฯ จะเรียกตัวหลักกลับมาเล่นเกมนี้ตามเดิม นำโดย เอดวิน ฟาน เดอ ซาร์ แบกขวาต้องลุ้นว่าจะเป็น แกรี เนวิลล์ หรือ จอห์น โอเช เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ เนมานยา วีดิช กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ แบกซ้าย เอวรา แดนกลาง พอล สโกลส์ กับ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ น่าจะยืนเพราะเหมาะกับเกมแบบนี้ ส่วนริมเส้นเป็น นานี และ ไรอัน กิ๊กส์ โดย รูนีย์ ยืนคู่กับทางด้าน เบอร์บาตอฟ
ลิเวอร์พูล ต้องวัดใจ รอย ฮอดจ์สัน ว่าจะส่ง โจ โคล ในพรีเมียร์ลีกหรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะให้โอกาส และอาจมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของ โจ โคล โดยที่ เจอร์ราร์ด ไม่ต้องถอยต่ำ โดย 11 คนแรกมีดังนี้ โฆเซ เรนา แบกขวา จอห์นสันคู่เซนเตอร์ สเคอร์เทิล กับ คาร์ราเกอร์ แบกซ้าย คอนเชสกี้ กองกลาง ราอูล กับ โพลเซน ตัวรับ โดยกลางรุกนั้น เจอร์ราร์ด มี โคล เล่นด้านกว้างกับ โยวาโนวิช ส่วนกองหน้าก็ ตอร์เรส ตามเดิม
กลยุทธ์...และผลที่คาด ;
แมนฯยูฯ คงบุกตามสไตล์ ต้องการคอนโทรลเกมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ผลักภาระให้กองหลังหงส์แดงกดดันและผิดพลาด เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนลิเวอร์พูลนั้นต้องปรับทีมพอสมควร แม้นักเตะมีแกนนำชุดเก่าแต่เล่นไม่ประสานงานกันเท่าที่ควร โชคดียังได้ 5 แต้มเท่ากับ แมนฯซิตี้ และสเปอร์ส
เกมนี้เชื่อว่า รอย ฮอดจ์สัน คงเน้นการทำลายเกมแดนกลางและปิดริมเส้นไม่ให้แมนฯยูฯ ทำเกมได้ถนัด แต่นั่นแหละ หลังเปิดและลอยเมื่อไหร่ แมนฯยูฯ มีลูกโต้ได้อีก ลูกเซตพีซยังป้องกันได้ไม่ดี มีโอกาสโดนแมนฯยูฯ ลงโทษด้วยเช่นกัน
เชื่อว่าลิเวอร์พูลจะเล่นด้วยความรัดกุมและลดความผิดพลาดให้น้อยที่สุดหากพลาดโดนก่อน เกมนี้น่าจะจบเร็วกว่าที่คิด เพราะโดยมาตรฐานผีแดงยังดีกว่าลิเวอร์พูล มีเพียงศักดิ์ศรีเท่านั้นที่ลิเวอร์พูลจะนำไปสู้กับแมนฯยูฯ ได้ แต่ต้องเนี้ยบทั้งเกม พลาดไม่ได้เลยเช่นกัน
ถ้าว่ากันเฉพาะบอล...แมนฯยูฯ ยังดีมีระบบกว่าลิเวอร์พูลแต่บอลแมตช์นี้ ศักดิ์ศรี ก็ไม่น้อยหน้า หากเด็กหงส์งัดหัวใจออกมาสู้เต็มที่ เพราะไม่ใช่ไม่เคยชนะ สองปีก่อนก็ถล่ม 4-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด จนเป็นประวัติศาสตร์เกือบ 80 ปี แต่...ลิเวอร์พูลต้องเล่นอย่างดีที่สุด ถ้าเล่นได้เหมือน 4 เกมที่ผ่านมาในการออกตัวปีนี้ รับประกันว่า
โอกาสได้แต้มเป็นของแมนฯยูฯ มากกว่า ลิเวอร์พูล จะ 1 หรือว่า 3 เท่านั้นเอง



สู้เว้ย..!!~






