การเปิดตัวลงเล่นนัดแรกของเบเบ้นักเตะป้ายแดงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันใช้เงิน 7.4 ล้านปอนด์คว้าตัวชนิดที่ว่าไม่เคยดูฟอร์มกันมาก่อนได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
บรรดาแฟนบอลและเหล่าสื่อมวลชนต่างให้ความสนใจไปยังเบเบ้ ก่อนที่จะมีโอกาสลงประเดิมสวมเสื้อพลพรรคปีศาจแดงอย่างเป็นทางการเมื่อไมค์ ฟีแลนมือขวาของเฟอร์กี้ที่ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขาลงไปแทนปาร์ค จี-ซองในนาทีที่ 74 เกมส์ที่แมนฯ ยูไนเต็ดบุกไปถล่มสคันธอร์ป 5-2 ในเกมส์คาร์ลิ่ง คัพรอบที่ 3
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเบเบ้ได้ออกมาให้สัมภาษณ์บอกว่าเขาจะเป็นนักเตะชั้นยอดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้ได้ โดยเขายังมีเวลาให้พิสูจน์ว่าจะทำแบบนั้นได้จริงรึเปล่าอีกมากโข
หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาแล้ว เขาใช้เวลาไม่ถึงนาทีหลังเกมส์ดำเนินการแข่งขันต่อพลิกบอลหลบผู้เล่นฝั่งเจ้าบ้านก่อนที่จะติดเครื่องความเร็ว และจบด้วยการยิงไกลซึ่งถูกกองหลังเข้ามาบล็อคจนได้ลูกเตะมุม
ด้วยจังหวะนี้ อาจจะทำให้เหล่าแฟนบอลเข้าใจว่าทำไมเฟอร์กูสันถึงได้กล้าจ่ายเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยดึงตัวเข้ามาร่วมทีม ทั้งๆที่เฟอร์กี้ไม่เคยเห็นฟอร์มการเล่นด้วยตาของเขาเองด้วยซ้ำ
ทักษะต่างๆทั้งในการเล่นและแท็คติกส์อาจจะฝึกสอนกันได้ในตัวนักเตะทุกๆคน แต่แน่นอนว่าความเร็วที่เหมือนนักกรีฑาในการแข่งขันโอลิมปิคนั้นไม่สามารถหากันได้ง่ายๆ
เมื่อพูดกันถึงข้อดีของเบเบ้ไปแล้วในเกมส์นี้ แน่นอนว่าข้อเสียของเขาก็มีออกมาให้เห็น จังหวะที่เบเบ้เติมเกมส์จากริมเส้นเข้าสู่กรอบเขตโทษ ตัวนักเตะเองดูจะมึนๆว่าเขาจะต้องทำอะไร นอกจากนี้โอกาสในการครอสบอลจากทางฝั่งซ้ายเข้าในเขตโทษของเขาก็ดันเลยหัวกาเบรียล โอแบร์ตองออกไปเยอะพอสมควร
ประเด็นหลักที่หลายๆฝ่ายเป็นห่วงในตัวเบเบ้ ก็คือเรื่องความฟิตแน่นอนว่าเวลาเกือบๆ 20 นาทีไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าแข้งสูงยาวรายนี้มีดีพอที่จะวิ่งสู้ฟัดแข่งกับนักเตะฝั่งตรงข้ามตลอดทั้งเกมส์ได้หรือไม่
เรื่องสำคัญอีกเรื่องนอกจากการประเดิมสนามของเบเบ้แล้ว คงหนีไม่พ้นทางฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเองดูจะไม่ตกเป็นเหยื่อของทีมที่เล็กกว่าอย่างเชลซี ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้จนกระเด็นตกรอบไปอย่างสุดช็อค
เกมส์ต่อไปของแมนฯ ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ ลีกพวกเขาจะต้องบุกไปเยือนโบลตัน ซึ่งความเป็นไปได้ที่เบเบ้จะได้ลงสนามนั้นมีอยู่น้อยมาก เขาคงจะต้องมองข้ามช็อตไปถึงเกมส์คาร์ลิ่ง คัพรอบ 4 ซึ่งบางทีใครอาจจะไปรู้ว่าเจ้าหนูโปรตุเกสรายนี้อาจจะได้สัมผัสตัวจริงในรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดก็เป็นได้
เชื่อว่าต่อจากนี้ไป 'ผีแดง' คงจะไม่มองว่าคาร์ลิ่ง คัพเป็นแค่ถ้วยน้ำจิ้มแล้ว และด้วยฟอร์มการถล่มประตูของรองแชมป์พรีเมียร์ ลีกเมื่อคืนนี้ บางทีอาจจะ
ทำให้ผู้คนหยุดหัวเราะคิกคักเกี่ยวกับฝีเท้าของเบเบ้ก็เป็นได้
*บทความนี้แปลมาจาก Goal.com สามารถเข้าไปอ่านต้นฉบับได้โดยคลิกที่นี่
