เค้าว่าการได้แชมป์นั้นยากแล้วแต่การรักษาแชมป์นั้นยากกว่า
ผมกำลังจะอธิบายให้แฟนแมนยู(บางคน)เข้าใจในความหมายนั้น
คุณเคยเห็นผู้จัดการที่ในประวัติศาตร์ฟุตบอลคนไหนได้แชมป์ติดต่อ
กันกับสโมสรเดียวติดๆกันมากกว่า3-4ปีไหม จากที่รู้แทบจะไม่มี
เพราะอะไร? เพราะว่ามันต้องใช้เวลาที่จะหล่อหลอมทีมให้เป็นหนึ่งเดียว
และมันก็ยากยิ่งกว่าที่จะยังคงศักยภาพของนักเตะชุดๆนั้นๆให้เก็บเกี่ยว
ความสำเร็จต่อเนื่องไปอีกหลายปี อย่างมากก็ได้แค่2-3ปี เพราะ
เป็นธรรมดาที่นักเตะที่ประสบความสำเร็จจะรู้สึกไม่มีไฟในตัวเท่าเดิม
และมันก็เป็นอย่างนี้กับแมนยูเหมือนกัน ก่อนหน้าที่แมนยูจะไม่ได้แชมป์
ในปีที่แล้ว แต่คุณลองนึกย้อนกลับไปก่อหน้านั้นซักสามฤดูกาล
เราได้แชมป์พรีเมียลีกไปกี่ครั้ง แล้วก็ลองย้อนกลับไปอีกซัก6-7ปีที่ผ่านมา
เราได้แชมป์พรีเมียลีกมาครองกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
เราลืมไปไงว่า..ฟุตบอลมันไม่ใช่อะไรที่คุณจะได้แชมป์มาครองทุกปี
คุณได้รับแชมป์เป็นว่าเล่น ทำให้คุณลืมไปว่าการก้าวถอยหลังซักนิดมันจะ
เป็นไร ผมว่าช่วงรอยต่อระหว่างปีที่แมนยูซื้อรุดมาแรกๆ
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เล่นได้แย่กว่านี้มาก จนแฟนแมนยูหลายคนบอกว่า
เฟอกูสันแก่เกินแกงไปแล้ว แต่แล้วต่อจากนั้นมาเกือบสิบปี ชายแก่คนนั้น
ก็กลับขึ้นไปยืนที่จุดเดิมได้ทุกครั้ง
พอมาณ.ตอนนี้ที่ทีมเล่นได้ไม่ดีเท่าเดิม พวกคุณแฟนแมนยูพันธ์(ไม่แท้)
กับออกมาต่อว่าชายแก่คนนั้นอยากให้คนๆนั้นลาออกไปซะ
แค่เพราะเค้าซื้อตัวไม่ถูกใจคุณ เพราะคิดว่าเค้าเป็นคนที่เป็นสาเหตุให้รูนี่ย์
อยากย้ายทีม เพราะเค้าหัวรั้นเอาแต่ใจ คุณคงคิดว่า"เฟอกี้ไม่เก่งเหมือนเก่า"
ถ้าจะพูดคำนั้น ลองให้เวลาชายแก่คนนี้อีกซักปีสองปีดีกว่ามั้ยแล้วเราค่อยมาสรุปกัน
...คุณ คงลืมไปแล้วว่า ใครกัน ที่รักสโมสรนี้มากกว่าใครๆทุกคน ...คงลืมไปแล้วว่า ใครกัน ที่เคยออกมาโอบอุ้มนักเตะที่คนอังกิดทั้งประเทศประนามเมื่อกลับจาก
บอล โลก ...คงลืมไปแล้วว่า ใครกัน ที่ตื่นตอนดึกเพื่อไปรับนักเตะที่โดนจับเข้าซังเต ...ใครกัน..ที่ปฏิเสธเงินก้อนใหญ่มากมาย เพื่อที่จะอยู่กับสโมสรที่เค้ารัก ...ใครกัน...คือชายแก่คนนั้น?
ปล. ไม่มีเจตนาอะไรนะครับ แต่ผมอยากให้ทุกคนได้อ่านมันดู



















