
มีหนุ่มหน้าจืด ห้องข้าง ๆ มาชวนไปกินข้าว (ไม่อยากไปเลย)
เพื่อนจอมเบี้ยว ยืมเงินอีกแล้ว ครั้งที่แล้วยังไม่คืนเลย (ไม่อยากให้เลย)
แต่จะปฏิเสธยังไงดี เพื่อไม่ให้หักหาญน้ำใจ?!
หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ หรือคล้ายกันนี้มาอย่างแน่นอน โอ้ว! เกิดมาเป็นคนขี้เกรงใจ กลุ้มใจจังเลย ครั้นจะปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย สัมพันธภาพที่ดีก็มีอันขาดสะบั้น แต่ครั้นจะตอบตกลงก็ทำไม่ได้เพราะสุดท้ายแล้ว การเซย์เยส (say yes) ก็อาจทำให้ตัวเองต้องลำบาก หรือยุ่งยากใจ ถึงขนาดมีผลสำรวจออกมาเตือนกันเลยทีเดียว ว่าการฝืนตอบตกลง ในขณะที่ใจตัวเองอยากปฏิเสธนั้น ส่งผลให้เกิดภาวะเครียด ปวดหัว ปวดไหล่ และมีบางรายถึงขั้นนอนไม่หลับด้วย
น่ากลัวมิใช่น้อย!
ไม่รอช้า มาศึกษากันดีกว่า ว่าหลักในการตอบปฏิเสธแบบมีมารยาทเป็นอย่างไร เทคนิคการตอบปฏิเสธให้เนียน แบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น มีอะไรบ้าง เผื่อจะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเองได้ไงล่ะ
หลักการเบื้องต้น ที่จะทำให้ตอบปฏิเสธได้อย่างมีมารยาทนั้น แนะนำให้ท่อง 3 คำนี้ไว้เสมอ จริงใจ ใจเย็น และสุภาพ นั่นคือ ก่อนจะตอบปฏิเสธใครสักคนให้ทำใจเย็น ๆ แล้วตอบปฏิเสธไปอย่างสุภาพ
ส่วนเรื่องของการตอบปฏิเสธให้ดูจริงใจนั้น หลักการสำคัญก็คือ ต้องตอบปฏิเสธในระยะเวลาอันรวดเร็ว อย่าเพิกเฉยเปลี่ยนเรื่องคุยไปเสียดื้อ ๆ หรือทำทีเป็นคิดนาน กว่าจะเปิดปากปฏิเสธได้ ก็ปล่อยให้คนถามรอไปนานโข ทำเยี่ยงนั้นไม่น่ารักสุด ๆ แถมยังทำให้คู่สนทนามองว่า เราไม่จริงใจกับเขาเอาเสียเลยดังนั้นหากจะปฏิเสธให้พูดออกไปตรง ๆ อย่ารอช้า อย่าคิดนาน จะดูจริงใจที่สุด
6 เทคนิคการปฏิเสธขั้นเทพ
1.ตอบปฏิเสธออกไปตรง ๆ โดยพูดเน้นคำว่า ไม่ สัก 2 ครั้ง เพื่อให้คู่สนทนารู้ว่า เราไม่ต้องการ หรือทำในสิ่งที่เขาขอร้องไม่ได้จริง ๆ ก่อนปิดท้ายด้วยคำว่า ขอบคุณ ให้ดูดีมีมารยาท
ตัวอย่าง เหตุการณ์ที่ หลายคนต้องพบเจออยู่เป็นประจำ เช่น หากมีใครมาชวนไปทานข้าวกลางวัน แต่เราไม่อยากไป หรือไปไม่ได้ให้ตอบว่า ไม่ค่ะ ไปไม่ได้จริง ๆ ขอบคุณค่ะที่ชวน
2.การสะท้อนถึงคำว่า ไม่ สำหรับเทคนิคนี้มีหลักการคือ ก่อนจะปฏิเสธนั้น ให้ขึ้นต้นด้วยประโยคที่สื่อได้ว่า เรารู้ในสิ่งที่คนชวนต้องการ แต่ก็ไปด้วยไม่ได้จริง ๆ (สะท้อนให้เขารู้ ว่าเราเข้าใจความต้องการหรือเจตนาเขา ก่อนจะตอบปฏิเสธ)
ตัวอย่าง เรารู้ว่าเธออยากคุยกับเรา แต่เราไปด้วยไม่ได้จริง ๆ เพราะเรานัดเพื่อนเราไว้แล้ว
3.บอกเหตุผลในการปฏิเสธ สำหรับเทคนิคนี้ ต้องเน้นนะคะว่า ให้บอกเหตุผลในการปฏิเสธเพียงสั้น ๆ เท่านั้น เอาแบบ สั้น ง่าย ได้ใจความ อย่าเยิ่นเย้อ หรือชักแม่น้ำทั้ง 5 มาสาธยาย เพราะนั่นจะยิ่งทำให้ดูน่ารำคาญ และไม่จริงใจ เหมือนพยายามหาข้ออ้างมาปฏิเสธมากกว่า
ตัวอย่าง เราคงไปกินข้าวกับเธอไม่ได้ เพราะมีการบ้านมากมายที่ต้องทำให้เสร็จภายในคืนนี้
4.ปฏิเสธแบบต่อรอง อันนี้เป็นมุมมองการปฏิเสธแบบนักธุรกิจสักหน่อย หลักการอยู่ที่ว่า หากทำในสิ่งที่เขาขอร้อง หรือชักชวนในครั้งนี้ไม่ได้ ก็ให้ยื่นข้อเสนอไปว่า เอาไว้คราวหน้าได้ไหม?
ตัวอย่าง เราไปกินข้าวกับเธอวันนี้ไม่ได้จริง ๆ เอาไว้เป็นโอกาสหน้าก็ได้ไหม
5.การปฏิเสธแล้วถามกลับ เทคนิคข้อนี้มีหลักการคือ เมื่อพูดปฏิเสธไปแล้ว ให้ยิงคำถามกลับไปทันที
ตัวอย่าง (ขอยกตัวอย่างประโยคการปฏิเสธที่แอบหยอดคนชวนไว้เล็ก ๆ) เราคงไปทานข้าวมือกลางวันในวันนี้ไม่ได้จริง ๆ แต่ถ้าเป็นคราวหน้าล่ะก็ไม่แน่
6.ทวนคำปฎิเสธ เทคนิคสุดท้ายนี้ ถือว่าได้รับความนิยมที่สุด เพราะเป็นเทคนิคการพูดที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่า เราใส่ใจเขา และในความจริงแล้ว เราเองก็ไม่ปฏิเสธเขาแต่มันจำเป็นต้องปฏิเสธจริง ๆ นั่นคือ เทคนิคการทวนคำปฏิเสธหลาย ๆ รอบ ด้วยประโยคต่อ ๆ กัน
ตัวอย่าง เราคงไปทานข้าวกับเธอไม่ได้จริง ๆ อยากไปด้วยนะ แต่ไปไม่ได้ จริง ๆ นะ ถ้าไปได้วันนี้คิดว่าจะเลี้ยงเธอเลย แต่มันไปไม่ได้จริง ๆ (แอบขำทำเป็นเนียนว่าจะเลี้ยงเขาซะด้วย)
หวังว่าเทคนิคการปฏิเสธแบบเนียน ๆ ทั้ง 6 แบบนี้ จะเป็นประโยชน์กับคน ขี้เกรงใจทั้งหลายบ้างนะคับ เพราะในบางสิ่งที่เราไม่ยินดีจะทำ ก็ต้องลดความเหนียมกล้าปฏิเสธเสียบ้าง ไม่อย่างนั้นก็ต้องมาลำบากใจทีหลังจนเครียดกันอีกจริงไหมคับ ฮ่าๆๆ
<center>ชื่อภาพ : อย่าปฏิเสธฉันนะ ฮึ่ม!!!!

จบแล้วคร๊าบบ ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้า บ๊าย บาย


