
พูดกันตามตรง เกมเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันน่าจะเป็นเกมที่เหล่าลูกกรอกคะนองศึกของป๋าแพนด้าไม่ต้องออกแรงเตะให้ระบมแข้งมากนัก ในเมื่อสถิติที่พบกันก่อนเกม 29 นัดล่าสุด แอสตัน วิลล่ามีปัญญาเอาชนะปีศาจแดงได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็คือในฤดูกาลที่แล้วนั้นเอง
แถมเกมนี้เจ้าบ้านอย่างสิงห์ผยองยังต้องจัดทัพด้วยสภาพตัวผู้เล่นที่พิกลพิกาลเต็มที่เพราะตัวหลักๆโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ไม่ต้องอะไรมาก แค่มิดฟิลด์คู่ในก็ทำเอาใครหลายคนเลิกคิ้วลั้กๆพลางเกาตูดแล้วหันไปถามคนข้างๆว่าไอคนพวกนี้มันเป็นใครว่ะ เพราะทั้ง แบร์รี่ แบนนันและโจนาธาน ฮ็อก ล้วนไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูกันเลย นอกจากนั้น วิลล่ายังต้องเจอกับปัญหากองหน้าที่พวกตัวยักษ์ๆอย่าง ยอห์น คาริวและเอมิล เฮสกีย์ ไม่สามารถลงสนามได้ ดังนั้นจึงเหลือเพียง กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ เท่านั้นที่จะลงมาปั่นป่วนแนวรับป๊ีศาจแดง
ขณะที่พลพรรคอสูรแดงมาแบบสมบูรณ์กว่าเพราะยังมี เอฟร่า ลงสนามได้ ทั้งที่ข่าวตอนแรกบอกว่าเจ็บข้อเท้า นานี่ เองก็ยังลงมาลากเลื้อยริมเส้นได้เช่นเดิม ที่เหลือพร้อมรบหมดหากไม่นับ เวย์น รูนี่ย์และอันโตนิโอ วาเลนเซีย ไม่เพียงเท่านั้น ป๋าเฟอร์กี้ยังได้แสดงออกถึงความต้องการจัดหนักแก่เจ้าบ้าน เมื่อกลับมาเล่นในระบบ 4-4-2 ส่ง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟกับฮาเวีียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ลงสนามพร้อมกัน
แต่พอถึงเวลาอยู่ในสนามทุกอย่างล้วนกลับตาลปัตร แมนฯยูที่ตามชื่อชั้นและสภาพตัวผู้เ่ล่นแล้วเหนือกว่ามาก กลับโดนคู่แข่งเล่นงานด้วยเกมสวนกลับแทบงอมพะรามเลย แดนกลางอย่าง ไมเคิ่ล คาร์ริคและดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ไม่สามารถรับมือกับการซอยเท้ายิ๊กยิ๊กของ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง , แอชลี่ย์ ยัง และ อักบอนลาฮอร์ ได้เลย ขณะที่เกมรุก เบอร์บาก็กลับสู่ร่างเดิมคือเล่นแบบเนือยๆเหมือนคนดมกาว ความฮ็อตตอนช่วงต้นฤดูกาลไม่รู้ว่าไปทำหล่นไว้ที่สนามไหนเป็นแห่งแรก ปาร์ค จี ซองที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักก็ทำอะไรแนวรับวิลล่าไม่ได้เลยเมื่อเจอการเข้าถึงตัวอย่างรวดเร็วเหมือนคนหื่นกามพุ่งเข้าชาร์จตัวสาวน้อยระดับนางงาม
ยิ่งกับเกมในครึ่งหลังด้วยแล้ว ลูกทีมของเชราร์ อูลลิเยร์ ไม่รู้ไปกินดีหมีดีหมาที่ไหนมา เพราะลงมาทำเกมรุกบดกระหน่ำแมนฯยูซ่ะตั้งตัวไม่ขึ้น แบ็กขวาอย่างเวส บราวน์ กลายเป็นบ่อน้ำมันเคลื่อนที่ให้ ดาวนิ่ง และ แอชลี่ย์ ยัง สลับกันเข้าทำตลอด อย่างลูกสวนกลับที่ ดาวนิ่ง ได้ครอสจากฝั่งซ้ายไปให้ มาร์ค อัลไบรห์ตัน โขกหลุดเสานั้นป่ะไร ขณะที่ลูกโขกหลังจากนั้นของ เจมส์ คอลลินส์ ก็พุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียวไส้เพราะเอ๊ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ก็ทำอะไรไม่ทันแล้ว ถัดมาอีกนาที อักบอนลาฮอร์ ก็ได้หลุดไปกดลูกชนเสาอีก วินาทีนั้นผมแทบอยากจะวอนใครก็ได้ไปบอกป๋าแพนด้าให้ช่วยเปลี่ยนตัวอื่นลงมาแก้เกมหน่อยเพราะทนไม่ได้แล้วที่เห็นทีมรักถูกกระทำชำเราอย่างทารุณโหดเหี้ยม
ทว่า ไม่ทันแล้ว ก่อนที่ป๋าเฟอร์กี้จะส่งใครลงมาสักคน แมนฯยูก็โดนเกมสวนกลับเล่นงานเข้าจังเบอร์ เมื่อแก็บบี้ควบบอลมาทางฝั่งขวาก่อนจะผ่านเข้ามาในเขตโทษ และก็เป็นเทพบุตรแห่งหายนะอย่างบราวน์ ที่ไปทำฟาวล์แอชลี่ย์ ยัง ในจังหวะเบียดกันจนเสียจุดโทษและนำมาซึ่งประตูแรกของเกม
พอโดนดอกนี้เข้าไปป๋าแพนด้าผู้ยิ่งใหญ่ก็อยู่ไม่ถูก สุดท้ายก็เปลี่ยนหน้าคู่ออกเลย และเป็น เฟเดริโก้ "กิโก้" มาเคด้ากับกาเบรียล โอแบร์กต็อง ได้ลงสนามมาแทนที่
แต่ลงมาไม่ทันไร ทีมก็ต้องเสียลูกสองจากการเคาท์เตอร์อันเฉียบคมอีกแล้ว และเป็น ดาวนิ่ง ที่ได้เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาให้ อัลไบรห์ตัน พุ่งเข้ามาแปบอลแบบเผาขนน้าซาร์ซ่ะเกรียมตุงตาข่ายเข้าไปเลย
สาบาน! วินาทีนั้นผมและใครหลายคนล้วนเหลือความหวังเพียงน้อยนิดที่จะได้เห็นแมนฯยูกลับมาจากหายนะหลังจากพุ่งเข้าชนไปครึ่งตัวแล้ว
แต่พระเจ้าช่วย กล้วยทอด อะไรก็เป็นไปได้ในเกมลูกหนัง จากที่แทบจะหมดหวังไปแล้ว กลับกลายเป็นตัวสำรองทีเด็ดอย่าง มาเคด้า ที่มายิงประตูดินระเบิดปลุกความหวังให้สาวกเร้ดอาร์มี่ได้มีลุ้น และสุดท้ายก็เป็นกัปตันเซอร์บิเนเตอร์ที่โขกบอลจมตาข่ายนำปีศาจแดงกลับมาจากนรกอีกครั้ง
ต้องบอกว่าการกลับมาแบบนี้แหล่ะที่เป็นเครื่องหมายการค้าของผีแดงอย่างแท้จริง คือไม่ยอมแพ้ง่ายๆจนกว่าจะหมดเวลา คือไม่ต้องอะไรมากเพราะหากเกมจบด้วยสกอร์ 2-0 รับรองว่าพวกนักเตะได้เจอไดร์เป่าผมแบบติดไนตรัสของท่านเซอร์แน่ๆ ฮิฮิ
แต่พูดก็พูดเถอะ แม้ฤดูกาลนี้แมนฯยูจะเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใคร แต่เรื่องความประทับใจแทบจะหาไม่ได้เลย ยิ่งกับนัดหลังๆด้วยแล้วคงต้องบอกว่าเล่นกันปากกัดตีนถีบตลอดกว่าจะได้คะแนนมา การโต้กลับที่เคยสร้างชื่อสมัยที่ยังมี คริสเตียโน่ โรนัลโ้ด้ควงคู่กับรูนี่ย์ หาไม่เจอเลยจากทีมผีแดงในชุดนี้ เพราะในปัจจุบันสปีดบอลของทีมแทบจะอยู่ในระดับขั้นวิกฤติ คือเล่นได้อืดอาดพลอยทำเอาคนเชียร์อึดอัดไปตามๆกัน
ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางวันไหนไม่มีสิงห์เฒ่าพอล สโคลส์ ลงสนาม ก็แทบจะไม่มีมิติในการปั้นเกมเลย ดูจากเกมกับวิลล่าสิ ต้องปะทะกับพวกเด็กหนุ่มหน้าละอ่อนไร้ดีกรีแท้ๆแต่กลับทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย ดีว่ายังเอาตัวรอดกลับมาได้ในช่วงท้ายๆของเกม แต่สังเกตมาหลายครั้งแล้วว่า คาร์ริค เป็นมิดฟิลด์ระดับมันสมองอย่างที่ชาบี้ เอร์นานเดซโครตบอลบาร์ซ่าว่าไว้ก็จริง แต่ระดับการเอาตัวรอดยังทำได้ไม่ค่อยดี เพราะเมื่อเจอการเข้าบีบอย่างรวดเร็วก็มีอาการเป๋ให้เห็นทุกคราไป
ขณะที่การตัดเกมแดนกลาง ผมเคยเขียนไว้เมื่อสองฤดูกาลก่อน (เรื่องจุดอ่อนที่ถูกปกปิด http://www.redarmyfc.com/board/topic-62061.html) มากระทั่งตอนนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข เฟล็ทเชอร์เล่นดีขึ้นมาจากเมื่อก่อนได้อย่างน่ายกย่องก็จริง แต่ต่อให้ฟอร์มพีคแค่ไหนก็ยังตัดเกมแทนที่โอเว่น ฮากรีฟฟ์ไม่ได้ เพราะเมื่อเจอกับคู่แข่งที่มีความเร็วรอบจัดเหมือนพวกแนวรุกวิลล่าในเกมล่าสุด เฟล็ทเชอร์ก็เอาไม่ทันเช่นกัน

ผมเชื่อว่าทันทีที่หมดยุคของ สโคลส์ , ไรอัน กิ๊กส์ , แกรี่ เนวิลล์ และ ฟาน เดอ ซาร์ ป๋าเฟอร์กี้จะกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้งในการทำทีม เพราะทีมต้องได้รับการถ่ายเลือดขนานใหญ่แบบที่พวกมะกันเกลเซอร์ไม่อาจปฏิเสธได้ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเพราะอะไรทำไมที่ผ่านมาป๋าถึงไม่ยอมเสริมทัพแบบโหดๆอย่างในตอนปีก่อนจะคว้าแชมป์เปี้ยนลีกส์ เพราะด้วยเหตุผลว่า ไม่จำเป็น , ต้องการปั้นเด็ก ,ซื้อใจคนเก่า , ราคาแพงไป หรือไม่มีตังค์กันแน่
แต่การที่ได้เห็นป๋าเสริมทัพด้วยพวกดาวรุ่งรวมถึงผลักดันเด็กบางคนขึ้นมา มันก็ชัดเจนแล้วว่าป๋ายังเอานะกับเกมฟุตบอลอยู่ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนก็จริงแต่กับฟอร์มของพวกเด็กรุ่นใหม่หลายคนก็ทำให้เด็กผีมีความหวังได้เช่นกัน
มาเคด้า แสดงถึงความชัดเจนของตัวเองออกมาบ้างแล้ว และที่ผ่านมาหลายทีมก็จ้องจะคว้าตัวเขาไปเล่นไม่เว้นแม้แต่ยักษ์ใหญ่จากอิตาลีอย่างยูเวนตุสหรือลาซิโอ มันทำให้ผมนึกถึงตอนที่แกเร็ธ เบล ยังโชว์ฟอร์มได้กระท่อนกระแท่นกับสเปอร์ส แต่กลับมีข่าวอย่างต่อเนื่องในช่วงนั้นว่ามิลานต้องการได้ตัวไป นั้นแสดงให้เห็นได้ส่วนหนึ่งว่าเด็กบางคนมันมีของ ต่อให้ยังเล่นได้ไม่แจ่มแต่ยังเรียกความสนใจจากทีมบิ๊กๆได้นั้นเอง
เช่นเดียวกับในรายของชิชาริโต้ ที่แม้แต่ฮูโก้ ซานเชซ ดาวดังระดับตำนานในอดีตยังออกมาการันตีีในฝีเท้าว่าเด็กคนนี้มันของจริง
ส่วนดาวรุ่งหน้าปลาไหลอย่างโอแบร์กต็องนั้น ผมเชื่อเสมอว่าเมื่อเขามาอยู่ภายใต้การดูแลของป๋า เขาจะต้องเกิด เกิด เกิดแน่นอน พวกนักเตะที่มีพรสวรรค์มักจะได้เปรียบอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเขาจะอยู่ภายใต้การชี้นำของโค้ชที่ดีและเก่งจริงหรือไม่เท่านั้น ในรายของกาบี้ เขามีทั้งรูปร่างที่สูงใหญ่ มีความเร็ว และทักษะในการครองบอลเลี้ยงบอล ดังนั้นหากป๋าปรับจูนออกมาได้ดี เขาคนนี้จะเป็นกำลังสำคัญของทีมเช่นเดียวกับดาวรุ่งที่เคยผ่านมือป๋าแล้วแจ้งเกิดเป็นสตาร์เต็มขั้นอย่าง โรนัลโด้และนานี่ ได้แน่นอน
ขณะที่คริส สมอลลิ่งก็เล่นได้ดีจนถูกฟาบิโอ คาเปลโล่นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษเรียกไปลองของแล้ว ความเร็วและความสูงใหญ่ที่ติดตัวเมื่อได้รับการถ่ายทอดวิชาจากเซนเตอร์แบ็คระดับโลกอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมันย่า วีดิชทุกวัน เชื่อได้เลยว่านี้เป็นอนาคตตัวหลักของทีมได้เลย ยิ่งมีจอนนี่ อีแวนส์ รอจับคู่เล่นด้วยกันในอนาคตด้วยแล้ว บางทีตำแหน่งนี้อาจจะไม่ต้องเสริมไปอีกนานเลย
ด้านแบ็กสองฝั่งก็ยังมี ราฟาเอล&ฟาบิโอ ดา ซิลวา รอประจำการอยู่แล้ว รายของราฟาเอลเลเวลเยอะหน่อยเพราะเจอตัวดังมาบ่อยแล้ว ตอนนี้ก็ได้ดีจนติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ไปแล้ว ขณะที่คนพี่ตอนมานั้นเก่งกว่า แต่ติดที่ว่าแบ็กซ้ายไม่ใช่ปัญาของผีแดงเพราะมีเอฟร่าประจำการอยู่ เลยยังไม่ได้ปล่อยของออกมามากนัก แต่สรุปได้เลยว่าแมนฯยูมีแบ็กโฟร์ในอนาคตเรียบร้อยแล้วจากการวางแผนระยะยาวของป๋าเฟอร์กี้
ดังนั้นคงอีกไม่นานเกินรอหรอกครับ อยากช้าก็ฤดูกาลหน้าที่ปีศาจแดงในยุคผลัดใบเต็มตัวหลังการเสริมทัพในตำแหน่งของพวกผู้เฒ่าจะกลับมาจากนรกอีกครั้งเพื่ออะลาวาดอย่างเต็มตัวไปอีกหลายฤดูกาล ส่วนซี่ซั่นนี้แฟนๆก็ลุ้นกันเหยี่ยวเหนี่ยวไปพลางๆก่อนล่ะกัน เป็นการสั่งลาให้กับตัวเก๋าๆทั้งหลายในทีมที่จะแขวนสตั้ดด้วย
แล้วเจอกันบนความสำเร็จสูงสุด อิอิ





แต่ก็ปลุกใจ ปลุกกระแสได้ดีครับ








</center>


