ผลงาน วูล์ฟแฮมป์ตัน 10 นัดหลังสุด
วันที่ 03 ก.พ. 2554 แพ้ โบลตัน (เยือน) (พรีเมียร์ลีก) 0 - 1
วันที่ 30 ม.ค. 2554 แพ้ สโต๊ค ซิตี้ (เหย้า) (เอฟเอคัพ อังกฤษ) 0 - 1
วันที่ 22 ม.ค. 2554 แพ้ ลิเวอร์พูล (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก) 0 - 3
วันที่ 19 ม.ค. 2554 ชนะ ดอนคาสเตอร์ (เหย้า) (เอฟเอคัพ อังกฤษ) 5 - 0
วันที่ 15 ม.ค. 2554 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) (พรีเมียร์ลีก) 3 - 4
วันที่ 08 ม.ค. 2554 เสมอ ดอนคาสเตอร์ (เยือน) (เอฟเอคัพ อังกฤษ) 2 - 2
วันที่ 06 ม.ค. 2554 ชนะ เชลซี (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก) 1 - 0
วันที่ 01 ม.ค. 2554 แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน) (พรีเมียร์ลีก) 0 - 2
วันที่ 30 ธ.ค. 2553 ชนะ ลิเวอร์พูล (เยือน) (พรีเมียร์ลีก) 1 - 0
วันที่ 26 ธ.ค. 2553 แพ้ วีแกน (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก) 1 - 2
ผลงาน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 10 นัดหลังสุด
วันที่ 02 ก.พ. 2554 ชนะ แอสตัน วิลล่า (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก) 3 - 1
วันที่ 30 ม.ค. 2554 ชนะ เซาแธมป์ตัน (เยือน) (เอฟเอคัพ อังกฤษ) 2 - 1
วันที่ 26 ม.ค. 2554 ชนะ แบล็คพูล (เยือน) (พรีเมียร์ลีก) 3 - 2
วันที่ 22 ม.ค. 2554 ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก) 5 - 0
วันที่ 16 ม.ค. 2554 เสมอ สเปอร์ (เยือน) (พรีเมียร์ลีก) 0 - 0
วันที่ 09 ม.ค. 2554 ชนะ ลิเวอร์พูล (เหย้า) (เอฟเอคัพ อังกฤษ) 1 - 0
วันที่ 05 ม.ค. 2554 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก) 2 - 1
วันที่ 01 ม.ค. 2554 ชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (เยือน) (พรีเมียร์ลีก) 2 - 1
วันที่ 29 ธ.ค. 2553 เสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี (เยือน) (พรีเมียร์ลีก) 1 - 1
วันที่ 26 ธ.ค. 2553 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก) 2 - 0
สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
เจ้าถิ่นเกมนี้เตรียมส่ง เจมี่ โอฮาร่า กองกลางที่ยืมมาจาก สเปอร์ส ลงเป็นตัวจริง หลังเกมที่แล้วประเดิมเป็นตัวสำรองมาแล้ว แต่ในรายของ สตีเฟ่น ฮันท์ ยังคงต้องพลาดอีกประมาณ 2 สัปดาห์ โดยเจ้าถิ่น เตรียมจัดชุดที่ดีที่สุด ลงสนามทันที นำโดย เควิน ดอยล์ จะยืนเป็นหน้าเป้า แล้วให้ เจมี่ โอฮาร่า ทำหน้าที่เดินเกมรุก ฝั่งทีมเยือน จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว ขาดเพียง โอเว่น ฮาร์ฟกรีฟฟ์ กับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เท่านั้น ที่ยังบาดเจ็บเช่นเดิม ส่วน แกรี่ เนวิลล์ ก็ประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้ว ทางด้าน ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ที่มีอาการมองภาพไม่ชัดในเกมที่แล้ว หายดีแล้วพร้อมลงเป็นตัวจริงทันที โดยแนวรุกจะยังคงเป็น เวยน์ รูนีย์ ยืนคู่กับ ดิมิท่าร์ เบอร์บาตอฟ เช่นเคย ขณะที่ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ กับ ไมเคิ่ล โอเว่น ยังคงต้องนั่งสำรองต่อไป
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
วูล์ฟแฮมป์ตัน (4-4-1-1) : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ - โรนัลด์ ซูบาร์, ริชาร์ด สเตียร์แมน, คริสโตฟ เบอร์ร่า, จอร์จ เอโลโกบี้ - สกอตต์ มาโลน, เดวิด โจนส์, คาร์ล เฮนรี่, แม็ตต์ จาร์วิส - เจมี่ โอฮาร่า - เควิน ดอยล์
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - ราฟาเอล ดา ซิลวา, เนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า - หลุยส์ นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์ - เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ต่างกันลิบลับ สำหรับทั้งสองทีม เมื่อเจ้าถิ่น รั้งบ๊วยของลีก ส่วนทีมเยือน กำลังเป็นจ่าฝูงในขณะนี้ ผลงานนัดล่าสุดของเจ้าถิ่น เพิ่งออกไปโดน โบลตัน เฉือนมา 1-0 ชนิดที่โดนยิงนาทีสุดท้าย ส่วนทีมเยือน เปิดบ้านอัด แอสตัน วิลล่า 3-1 โดย เวย์น รูนีย์ ซัด 2 ประตู เจอกันนัดล่าสุดเป็นเกมในลีกที่ แมนฯ ยู เปิดบ้านเฉือนชนะมา 2-1 อีกเกมที่เจอกันในฤดูกาลนี้ ก็เป็น แมนฯ ยู เปิดบ้านเฉือนชนะ 3-2 ในเกม คาร์ลิ่ง คัพ แม้ว่าเจ้าถิ่นหล่นมาอยู่บ๊วย แต่กับเกมใหญ่ๆ พวกเขาก็ทำได้ดี เชลซี ก็เคยมาเสร็จที่นี่แล้ว น่าพอสู้กันได้ในช่วงแรก เวย์น รูนีย์ น่าจะคืนฟอร์มกลับมาแล้ว ก่อนช่วยให้ทีมจ่าฝูง บุกมาเอาชนะได้ในที่สุดครับ แต่จะยิงได้ตามเป้าหรือป่าว ก็ต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อยครับ สกอร์ที่คาด : 1-2, 1-3






