"ทำไมป๋าไม่ซื้อเพิ่ม" "ทำไมป๋าไม่ขายทิ้ง"
เหล่านี้คือคำถามที่ผม พยายามหาคำตอบและคำตอบที่พอจะวิเคราะห์ได้ "ทำไมป๋าไม่ซื้อเพิ่ม"
อย่างที่ทุกคนพอรู้ว่า ราคานักเตะที่แมนยูต้องการมักจะแพงขึ้นกว่าเดิมแบบน่าเกลียด แต่กับตัวที่มีใจให้แมนยูอย่าง เรเน่ อาร์ดเลอร์ /สตีเฟ่น เดฟูร์
ซึ่งโอกาสที่จะซื้อมาในราคาที่ไม่สูงจะมีมากแล้ว เหตุใดป๋าจึงยังนิ่งนอนใจไม่คว้ามาร่วมทัพ
ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ป๋าไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงขุนพลระหว่างฤดูกาล เพราะอาจจะหมายถึงการเล่นที่ติดขัด
และสอง สภาพความคล่องของบัญชีงบดุล ซึ่งขวบปีที่ผ่านมา ป๋าใช้เงินไปกับ เอร์นันเดส 7 ล้าน สมอลลิ่ง 10 ล้าน เบเบ้ 7 ล้านและลินเดการ์ดอีก 4 ล้าน รวมทั้งหมด 28 ล้าน (โดยประมาณ)
แต่ทางด้านของการขายตัวนักเตะออกไปเพื่อรักษาความสมดุลของการเงินกลับไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยที่ปล่อยๆไปก็เป็นพวกดาวรุ่งที่แจ้งเกิดไม่ได้ ราคารวมๆแล้วคงได้ไม่กี่ล้าน
ทำให้สภาวะการเงินยังไม่น่าไว้วางใจ แม้เกลเซอร์จะบอกว่ามีงบให้ป๋าซื้อ แต่ป๋าคงรู้อยู่แล้วว่าจะซื้อมาเพิ่มได้ก็ต้องปล่อยของเก่าออกไปบ้าง นั่นคือนโยบายการทำธุรกิจ
และตัวที่ป๋าจะปล่อยตอนสิ้นปีนี้น่าจะเป็นใคร ผมขอนั่งเทียนใช้เหตุผลส่วนตัวละกัน
แนวรับ
คุสแช็ค ถ้าป๋ามองว่า อาร์ดเลอร์คือตัวแทนที่ดีของน้าซาร์มากกว่าคุสแช็ค ป๋าก็คงปล่อยคุสแช็ค (ที่ต้องระบุว่าอาร์ดเลอร์เพราะดูวี่แววจากรายชื่อทั้งหลายที่เป็นข่าว มีแค่คนนี้เท่านั้นที่เป็นไปได้ในราคาที่ไม่แพงเพราะมีเงื่อนไขในสัญญา)
บราวน์ อาจจะถูกปล่อยเพื่อเอาเงินเข้าสโมสร หลังจากที่หลุดจากตัวจริงไปนานแสนนาน เจ้าตัวก็คงอยากย้ายเพื่อไปเป็นตัวจริงทีมอื่นๆ
อีกทั้ง ป๋ามักมอบโอกาสให้สมอลลิ่งก่อนบราวน์เสมอ คิดว่าปีนี้น่าจะเป็นปีสุดท้ายของบราวน์
เอฟร่า แม้จะเป็นแบ็กซ้ายชั้นแนวหน้าที่เติมรุกได้มันส์วิ่งไม่มีหมด แต่กับความมุ่งมั่นและความกระหายคือสิ่งที่เอฟร่าเริ่มหายไป สังเกตุจากเวลาลงเล่น เอฟร่ามักจะไม่ดุดันเหมือนก่อน
บางทีอาจจะมาถึงจุดอิ่มตัวกับสโมสรแล้วก็ได้ ที่ป๋าจะจับต่อสัญญาบางทีจะเป็นการเพิ่มมูลค่าตัวนักเตะเองด้วย
ถ้านักเตะไม่ขอขึ้นบัญชีหรือชุดขาวไม่ทุ่มข้อเสนอในราคาอย่างงาม ป๋าก็คงยังไม่ปล่อยเอฟร่า ย้ายออกไปไหนแน่นอน
แต่เชื่อว่าสิ้นฤดูกาลนี้ เอฟร่าจะย้ายออกไปชุดขาวหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับข้อเสนอในราคาไม่ต่ำกว่า 15 ล้าน (แต่ถ้าต่อสัญญาออกไปอีกอาจจะได้มากกว่า 20 ล้าน)
แดนกลาง
ที่ผมมองว่าน่าจะเป็นคนแรกๆที่ได้ย้ายถ้ามีทีมอื่นยื่นข้อเสนอ
กิ๊บสัน แม้จะมีลูกยิงไกล ที่รุนแรง แต่ความแม่นยำยังเป็นข้อกังขา และคงเอาใช้ไม่ได้บ่อยๆ ถ้ามีทีมไหนกล้ายื่นข้อเสนอเข้ามา 5-7 ล้าน แมนยูก็คงปล่อยอย่างเต็มใจ (เพราะป๋าเคยบอกกิ๊บสันแล้วว่าย้ายได้ แต่กิ๊บสันขออยู่สู้ต่อ)
คาริก ถึงเป็นกองกลางที่จ่ายลูกได้แม่นอ่านทางได้ดี แต่ในความเป็นจริงคือ คาริกฟอร์มตกลงไปมาก ไม่กล้าตัดสินใจแบบเด็ดขาด ลูกเปิดไปข้างหน้ามักไปไม่ถึงจุดหมาย หรือคาริกจะเลยจุดพีคมาแล้ว ตอนนี้เลยได้แต่ทรงๆทรุดๆ อีกทั้งสไตล์คาริกก็ไม่ใช่ประเภท เอาตัวรอดพาบอลออกจากวงล้อม ขึ้นหน้าไปจ่ายได้ เท่าที่เห็นส่วนใหญ่ตอนนี้คาริกจะเคาะบอลกลับหลัง และลงไปรอรับบอลก่อนจ่ายออกด้านข้างเท่านั้น มีทีมไหนกล้าทุ่มเข้ามา ป๋าก็อาจจะปล่อย แต่ถ้าไม่มีข้อเสนอเข้ามาป๋าก็คงเก็บไว้ใช้ต่อ
โอแบร์ตอง อันนี้ตัวนักเตะร่ำๆเองว่าอยากย้ายแล้ว รอโอกาสไม่ไหว (เฮ้อ...) กับ 2 ปีกว่าๆ ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด โอแบร์ตอง กลับไม่มีพัฒนาการอะไรแบบที่เป็นทีเด็ดเลย เมื่อมีโอกาสได้ลง ก็เล่นดีๆแย่ๆ และระดับการเล่นเพียงแค่นี้คงไม่เหมาะที่จะก้าวมาเป็นตัวหลักในอนาคตได้
แนวรุก
ดิยุฟ ชื่อแรกที่เตรียมเก็บของออกไป บางทีอาจจะย้ายไปกุหลาบถาวรก็ได้
มาเคด้ากับเวลเบ็ค ต้องมีใครสักคนที่ได้อยู่ต่อส่วนอีกคนย้ายออกไป เพราะกองหน้าที่มี รูนี่ย์ เบอบาตอฟ เอร์นันเดส คงเหลือที่ว่างให้อีกแค่หนึ่งเท่านั้น
อันนี้คือเหตุผลที่ผมนั่งเทียนวิเคราะห์เอาเอง
กับข่าวที่ว่าบอร์ดแมนยูต้องหาเงินจำนวน 200 ล้านปอนด์เพื่อเอาไปลดหนี้ให้กลับมาอยู่ในสถานะที่ดี
การทุ่มเงินซื้อมา ก่อนขายของเก่าออกไป เป็นแนวทางที่เสี่ยงมากๆ และมองดูแล้วโอกาสปล่อยตัวนักเตะที่กล่าวมาเป็นไปได้สูง
นอกจากเอฟร่ากับคาริกเท่านั้นที่น่าจะดูข้อเสนอว่าดีพอก่อนตัดสินใจปล่อย
และก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ป๋าปล่อยตัวหลักที่อยู่กับทีมมานานออกไป บางทีปล่อยตัวเก่าเอาตัวใหม่เสริม เติมความกระชุ่มกระชวยในการเล่นคือสิ่งที่ป๋าทำมาตลอดและคงถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนอีกครั้ง
*ขอบคุณที่อ่านจนจบคร้าบบบบบบ














