แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้โลกกำลังประสบปัญหาขาดแคลนทรัพยากรที่นอกเหนือจากน้ำมัน และของที่กำลังขาดแคลนนั้นก็มีความสำคัญและประโยชน์
พอๆกับน้ำมัน และนี่คือ 5 อันดับ รายการทรัพยากรที่กำลังจะหมดไปจากโลกใบนี้ที่เราควรรู้และอนุรักษ์มันไว้เพื่อรับมือไว้ในอนาคตวันข้างหน้า
5.Helium(ฮีเลียม)

ฮีเลียมเป็นก๊าซไม่มีสำ ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส และไม่มีอันตราย มีคุณสมบัติเบากว่าอากาศมักนิยมบรรจุในบอลลูนและเรือเหาะ ลูกโป่ง นอกจากนี้ยังมีการนำ
ก๊าซฮีเลียมไปผสมในอากาศสำหรับนักดำน้ำ เพื่อความปลอดภัย การหายใจ ฮีเลียมเหลวใช้หลอมโลหะ ขับเคลื่อนจรวด เตาปฏิกรณ์ อุปกรณ์ถ่ายภาพใน
ร่างกาย เป็นต้น
ก็เป็นเรื่องแปลกที่ในอนาคตเราอาจไม่ได้เห็นลูกโป่งลอยฟ้า หลายคนไม่คิดว่าฮีเลียมจะหมดไปจากโลกเนื่องจาก ฮีเลียมนั้นมีอยู่ในเอกภพ มีมากเป็น
อันดับสองรองจากไฮโดรเจน แต่นั้นเป็นจริงแล้วจนถึงปัจจุบันเราไม่สามารถสกัดฮีเลียมในอากาศได้เลย อักทั้งมนุษย์ของเรานั้นใช้ก๊าซที่ว่านี้ฟุ่มเฟือยเกิน
ไปและไม่ระมัดระวัง จนมีการคาดว่าอีกไม่นานฮีเลียมจะหมดไปจากโลก และลูกโป่งลูกหนึ่งจะมีราคา 100 ดอลล่าร์ (จากเดิมราคา 3 ดอลล่าร์) เพราะเมื่อ
เร็วๆนี้สมาคม American Physical Society ได้ออกมาแถลงการณ์เตือนรัฐบาลสหรัฐว่า วิกฤติการณ์ฮีเลียมกำลังจะเกิดขึ้น โดยที่ผ่านมาสหรัฐขายก๊าซ
ฮีเลียมราคาถูกมากเกินไปในขณะที่อุปทานความต้องการของโลกมีมากขึ้น ในหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมานาน ปริมาณการใช้ฮีเลียมได้มีมากขึ้นถึง 10-15 เปอร์
เซนต์ เมื่อปีกลายโลกใช้ ฮีเลียม 100 ลูกบาศก์เมตร และทุกประเทศบริษัทน้ำมันจะเก็บสะสม ฮีเลียม ได้ประมาณ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร อีกทั้งต้น
กำเนิดของฮีเลียมที่ใช้กันได้แก่สารกัมมันตังสี จึงเป็นที่ชีชัดว่าประมาณปี 2017 ฮีเลียมจะหมดไปจากโลกนี้ !!!
4.Chocalate(ช็อกโกแลต)

เชื่อหรือไม่ว่าช็อกโกแลตกำลังจะหมดไปจากโลก !! แน่นอนหลายคนคงไม่เชื่อ เพราะว่ามันเป็นส่วนประกอบของขนมที่เราพบเห็นมากที่สุดในชีวิต
ประจำวัน ผลิตภัณฑ์ขนมส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบไปด้วยช็อกโกแลต เช่น ไอศครีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก นี่คือมุมมองของคนทั่วไป แต่นักวิเคราะห์ได้คาด
การณ์ไว้ว่า ใน20 ปีข้างหน้าราคาช็อกโกแลตจะพุ่งสูงขึ้นจนคนธรรมดาอย่างเราๆไม่อาจจะเอื้อมถึงได้อีกต่อไป เพราะราคาช็อกโกแลตในอนาคตนั้นจะพุ่ง
ราคาไปถึง 300 บาทเลยทีเดียว
คำพยากรณ์นี้กำลังเป็นจริง เห็นได้จากราคาของช็อกโกแลตนั้นเริ่มสูงขึ้นในตลาดเป็นเท่าตัวในหลายปีที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุง่ายๆ คือ อุปสงค์-อุป
ทาน ไม่เท่ากัน เมื่ออุปสงค์ความต้องการของช็อกโกแลตในตลาดนับวันจะมากขึ้น โดยเฉพาะจีนและอินเดียที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกเริ่มนิยม
บริโภค ช็อกโกแลตมาก แต่ในขณะเดียวกันอุปทานจำรวนช็อกโกแลตที่ป้อนเข้าสู่ตลาดนั้นกำลังน้อยลง สาเหตุนั้นมาจากเกษตกรผูเปลูกต้นโกโก้ (เมล็ด
โกโก้ใช้ทำช็อกโกแลต) ในประเทศโลกที่สามต่างพากันทยอยเลิกปลูกต้นโกโก้ไปแล้วต่อหลายราย เนื่องด้วยสาเหตุมากมายไม่ว่าจะเป็นแรงงานไร่โกโก้
เริ่มลดลง เพราะว่าค่าจ้างแรงงานนั้นต่ำมาก โดยจากสำรวจนั้น ประเทศไอเวอร์รี่โคสต์ ผู้ส่งออกเมล็ดโกโก้ได้ค่าจ้างเพียง 80 เซ็นต์ หรือประมาณ 24
บาท ต่อ วัน (มิน่าละ พวก ดร็อกบ้า , พีน้องตูเร่ , เอบูเอ้ ถึงมาเตะบอล 555555+) และยังไม่นีบการดูแลรักษาต้นโกโก้ที่ดูแลยากเหมือนนั่งดูแล หมี
แพนด้า เพราะมีทั้ง แมลง ศัตรูพืช สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป และภัยพิบัติกำลังจะเริ่มขึ้น และปัญหาสำคัญอย่างนึงคือ ต้นโกโก้เริ่มลดจำนวนลง เพราะ
ไม่มีใครอยากปลูก เนื่องจากต้นโกโก้เป็นพืชที่ชอบดูดสารอาหารจากดินไปใช้จนเกลี้ยง หลังจาก แปลงปลูกเดิมหมดสารอาหารแล้ว เกษตกรต้องถางป่า
ใหม่ ย้ายที่ปลูก แล้วรอไปอีก 5 ปีเป็นอย่างต่ำกว่าจะเก็บผลผลิตได้ ด้วยปัญหาต่างๆเหล่านี้เอง ทำให้แรงงานภาคเกษตรของประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ๆ
ของโลก เช่น ประเทศไอวอรี่โคสต์ ประเทศอินโดนีเซีย เปลี่ยนเป้าหมายไปปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นๆแทน ที่มีอนาคตมากกว่าเช่น ปาล์มน้ำมัน ยางพารา
เป็นต้น
3.Tequila (เตกีล่า)

เตกีล่า เป็นเครื่องดิ่มแอลกอฮอล์ ที่ใช้รากสะสมของต้น อากาเว่สายพันธุ์ Agave tequilana (บ้านเราเป็นไม้ประดับ)เป็นวัตถุดิบในการหมักและกลั่น
เป็นเครื่องดิ่มแอลกอฮอลล์ที่รู้จักกันทั่วโลก นิยมดิ่มใส่แก้วใสขนาดเล็ก มีมะหนาวฝาน และเกลือ และต้องดื่มให้หมดในรวดเดียว
เครื่องดื่มดังกล่าวกำลังจะหมดไปจากโลกอักไม่กีปีข้างหน้า เนื่องจากอุปสงค์-อุปทาน ตลาดต้องการมากขึ้น แต่จำนวนเตกีล่านั้นไม่พอที่จะป้อน
ตลาด เนื่องจากขั้นตอนการผลิต เตกีล่านั้นยากทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นขึ้นปลูกเลยทีเดียว โดยเริ่มต้นตั้งแต่พื้นที่ปลูกต้องอยู่ในสภาพภูมิประเทศที่มีความ
เฉพาะเจาะจงมากต้องเป็นพิ้นที่ราบสูงที่แห้งแล้งตอนกลางของประเทศเม็กซิโก ต้นอากาเว่ นั้นจะต้องใช้เวลาปลูกอย่างน้อย 8-12 ปี จึงจะสามารถเก็บ
เกี่ยวในการหมักได้ เมื่อเก็บเกี่ยวเอารากสะสมแล้วจะต้องทำให้สุกอย่างช้าๆ ด้วยไอร้อนอุณหภูมิประมาณ 140-185องศา กระบวนการดังกล่าวใช้เวลาถึง
30-72ชั่วโมงก่อนที่จะมาบดคั้นเอาน้ำแล้วเอามาหมักและกลั่นต่อไป และเชื่อหรือไม่ว่ากฏหมายเม็กซิโกนั้นเขียวไว้ว่าเม็กซิโกเป็นประเทศเดียวเท่านั้นที่มี
สิทธิผลิต เตกีล่าแต่เพียงผู้เดียวและนั่งเองที่ทำให้เตกีล่าออกมาในตลาดน้อยมาก
อีกทั้งปัจจุบันเกษตรกรเม็กซิโกไม่นิยมปลุกต้นอากาเว่ แล้ว พวกเขาหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจที่ได้กำไรมากกว่า ในปี 2006 รัฐบาล จอร์จ บุช ได้วาง
กฏระเบียบใหม่ในการใช้พลังชีวภาพทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยใช้ข้าวโพดมาทำเอนาทอล ด้วยนโยบายนี้ทำให้เกษตรกรเม็กซิโกเริ่มจะละทิ้งพืชพื้นเมือง
ของพวกเขาแล้วหันมาปลูกข้าวโพดแทน ส่วนอากาเว่นั้นพวกเขาทำลายด้วยการใช้ไฟเผา และด้วยเหตุนี้เองทำให้ปัจจุบันเตกีล่าเริ่มกลายเป็นของหายาก
2.Phosphorus (ฟอสฟอรัส)

ฟอสฟอรัสเป็นธาตุหนึ่งที่หลายๆคน คงรู้กันว่ามันจะหมดไปจากโลก เป็นธาตุที่จำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะกับพืช การใช้งานทางพาณิชย์ที่สำคัญ
ที่สุดของฟอสฟอรัส คือ การผลิตปุ๋ย นอกจากนี้ยังใช้ในการผลิตวัตถุระเบิด ไม้ขีดไฟ ดอกไม้ไฟ ยาฆ่าแมลง ยาสีฟัน ผงซักฟอก เป็นต้น
ฟอสฟอรัสนั้นมีความจำเป็นต่อโลก ชีวิตมนุษย์ทุกคนขึ้นอยู่กับมัน แต่ความจริงก็คือธาตุดังกล่าวกำลังจะหมดไปจากโลก นักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์
ว่า ฟอสฟอรัสจะหมดไปจากโลกในอีก 30 ปี !! โลกกำลังเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารในอนาคตโดยนักวิจัยจาก ประเทศออสเตรเลีย , ยุโรป , และ
สหรัฐ ยอมรับว่าสาเหตุที่ฟอสฟอรัสกำลังจะหมดไปเนื่องจากทั่วโลกได้ใช้ธาตุดังกล่าวผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ และความต้องการธาตุฟอสฟอรัสมากขึ้นในแต่
ละประเทศ ที่นำมาใช้ทางการเกษตรเร่งผลผลิดเพื่อเพียงพอต่อการเลี้ยงประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ฟอสฟอรัสเป็นธาตุที่มีอยู่ในธรรมชาติน้อยมาก และ
เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา เช่น แผ่นดินไหว , ภูเขาไฟระเบิด , ด้วยเหตุนี้ฟอสฟอรัสจึงถูกใช้หมุนเวียนอยู่ระหว่างสิ่งมีชิวิตและสิ่งไม่มีชีวิต
ในปริมาณที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น บราซิล อินเดีย ประเทศที่ส่งออกฟอสฟอรัสอย่างรัสเซีย และแอฟริกา เริ่มสงวนฟอสฟอรัสในอนาคตวันข้างหน้า ที่สวีเดนหา
ทางออกแนวใหม่โดยการสร้างห้องน้ำเพื่อแยกและเก็บปัสสาวะคนที่ใช้บริการเพื่อผลิตฟอสฟอรัสเลยทีเดียว ในหลายเดือนที่ผ่านมาราคาของวัตถุดิบหิน
ฟอสเฟตได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 700 และความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ต่อปี เห็นได้ชัดว่า อนาคตฟอสฟอรัสจะขาดแคลนและโลกอาจอยู่สภาวะขาด
แคลนอาหาร ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะสกัดฟอสฟอรัสซึ้งถือว่าเป็นเรื่องท้าทายในด้านเทคโนโลยีและใช้เงินทุนมหาศาลเป็นอย่างมาก
1.Water(น้ำ)

สมัยก่อนเคยมีนิยายวิทยาศาสตร์หลายเรื่องที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับโลกในอนาคตที่หลายคนทำสงครามเพื่อแย่งชิงน้ำ สมัยก่อนหลายคนคงคิดว่า
เป็นเรื่องตลกที่มนุษย์จะฆ่ากันด้วยเรื่อง แค่แย่งชิงน้ำ แต่ในปัจจุบันสถาณการณ์น้ำนั้นวิกฤตทั่วโลก ในประเทศโลกที่สามนั้น น้ำสะอาดเป็นของมีค่ายิ่งกว่า
ทองคำ ในแต่ละปีจะมีประชากรโลกราว 2 ล้านคนเสียชีวิตด้วยโรคที่เกิดจากการขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาด และประชากรโลกอีกไม่น้อยกว่า 2,400 ล้านคน
ทั่วโลก ขาดการสุขาภิบาลน้ำที่ดี หรือขาดแคลนน้ำเพื่อบริโภคอุปโภคที่เพียงพอแก่ความจำเป็น
บนโลกเรานั้นมีน้ำจืดที่กินได้เพียง 0.6 เปอร์เซนต์เท่านั้นที่กินได้ (นอกนั้นเป็นน้ำเค็มและน้ำแข็งทั่วโลก) ซึ่งถือว่ามีปริมาณจำกัดมาก ปัจจุบันทั่ว
โลกได้ใช้น้ำอย่างไม่รู้คุณค่า ในหลายปีที่ผ่านมาเนื่องด้วยประชากรเพิ่มมากขึ้นความต้องการก็มากขึ้น ในขณะที่ระบบการจัดการน้ำมีอยู่จำกัด ทำให้แหล่ง
น้ำสำคัญของโลกครึ่งหนึ่งลดลง ในประเทศจีนทะเลสาบกว่า 500 แห่ง ได้หายไปเพราะการเพาะปลูกของจีน เนื่องจากจีนใช้น้ำในการเพาะปลูกมาก เช่น
ผลผลิตข้าวสาลี 1 ตันต้องใช้น้ำถึง 1 พันตัน อีกทั้งปัจจุบันแหล่งน้ำสำคัญของโลกยังถูกเปือปนด้วยมลพิษเข้าไปอีกไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำส์ ,แม่น้ำใน
อียิปต์,แม่น้ำโรนในฝรั่งเศส ทำให้สหประชาชาติเริ่มเตือนว่าตอนนี้โลกเรากำลังอยู่สถานการณ์ขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับดื่มกิน หลายประเทศเริ่มมี
สถานการณ์ตึงเครียด เกิดสงครามแย่งชิงน้ำ(แหล่งน้ำ) เช่น ประเทศปากีสถาน-อินเดีย ,อินเดีย-จีน ,อิสราเอลและตะวันออกกกลาง ซึ่งในอนาคตหากเรา
ยังใช้น้ำและไม่ดูแลรักษาแหล่งน้ำ นั้น แค่น้ำ 1 ขาด อาจมีราคาสูงพอๆกับทองคำก็เป็นได้
Credit : www.dek-d.com (ความจริงเค้าตั้งไว้ไม่ให้ก็อปมาได้อะครับ เลยนั่งพิมพ์ในwordมาให้อ่านกันเล่นๆดูว่างไม่มีไรทำ อิอิ)
ปล.ถ้าข้อมูลผิดจากอะไรไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ อยากเอาเรื่่องพวกนี้ มาให้รู้กัน ใครมีความคิดเห็นอย่างไรก็มาร่วมแชร์กันได้ครับ
ถ้าน้ำกับอาหาร หมดไปจากโลกจริงๆ นี่ คงจะ โหดร้ายโคตรๆ