ผีทุ่ม15ล.ปอนด์ล่าเดเคอา!สืบทายาทน้าซาร์
ดาบิด เด เคอา มือกาวดาวรุ่ง แอตเลติโก มาดริด กลายเป็นคำตอบสุดท้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังเดินหน้ามองหาทายาทของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ มาทำหน้าที่ในฤดูกาลหน้า คาดข้อเสนอ 15 ล้าน ปอนด์ อาจทำให้ "ตราหมี" ตัดสินใจปล่อยเพชรเม็ดงามออกจากอ้อมอกได้ในที่สุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวตัดสินใจได้แล้วว่า อยากได้ ดาบิด เด เคอา นายด่าน แอตเลติโก มาดริด มาเฝ้าเสาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ มือกาวประสบการณ์สูง ที่ตัดสินใจอำลาวงการลูกหนังหลังจบฤดูกาลนี้ จากรายงานของหนังสือพิมพ์ เดลี่ เมล์ เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา
การย้ายสังกัดของนายด่านวัย 20 ปี ดูเหมือนว่าจะเป็นการเสี่ยงมหาศาล อย่างไรก็ดี บรรดาแมวมอง และสตาฟฟ์โค้ชของ "ปีศาจแดง" เชื่อมั่นว่า ผู้รักษาประตูอนาคตไกล จะเข้ามาสืบสานตำนานของยอดนายด่านชาวดัตช์ได้อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ติดตามดูฟอร์มของ เด เคอา มาตลอดปีที่ผ่านมา และหวังว่า ข้อเสนอ 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 720 ล้านบาท) จะสามารถทำให้ข้อตกลงบรรลุได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นแล้ว เอริก สตีล โค้ชผู้รักษาประตู ก็เตรียมพร้อมรับการมาของนายทวารเลือดกระทิง ด้วยการเรียนภาษาสเปนแล้วเช่นกัน
ด้าน "น้าซาร์" วัย 40 ปีนั้น ได้ออกมาเน้นย้ำถึงการแขวนถุงมืออีกครั้งหลังจบฤดูกาลนี้ หลังโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบในเกมพา "เร้ด เดวิลส์" ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 ศึก เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา กระนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังหวังให้เจ้าตัวยอมรับหน้าที่โค้ชเพื่อช่วยปลุกปั้น อันเดอร์ส ลินเดการ์ด มือ 2 ของทีม ก้าวเข้ามาเป็นตัวแทนได้ต่อไป
ก่อนหน้านี้ ยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตกเป็นข่าวกับนายด่านมากมาย ทั้ง มานูเอล นอยเออร์, ชูลิโอ เซซาร์, มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก อย่างไรก็ดี เชื่อว่า เด เคอา นั้น มีความคล้ายคลึงกับอดีตมือกาว ยูเวนตุส มากที่สุด แถมยังเป็นอนาคตนายด่านทีมชาติสเปนของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ผู้เป็นโค้ช ซึ่งกำลังใช้บริการของ อีเคร์ กาซียาส และ โฆเซ่ เรน่า อยู่ในเวลานี้อีกด้วย
เฟอร์กี้คอมเฟิร์ม!นานี่มีชื่อซดโอแอมชัวร์
สาวก "ปีศาจแดง" ยิ้มกริ่ม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โคตรกุนซือเลือดสกอตต์ ยัน นานี่ ปีกพรสวรรค์ กลับมามีชื่อดวลเกือก โอลิมปิก มาร์กเซย วันอังคารนี้ชัวร์ เผยอาการดีขึ้นกว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนเยอะ แก้มปริมีโอกาสใช้งาน อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกจอมแกร่ง อีกครั้งหลังหายหน้าไปนานกว่า 6 เดือน
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังลีกเมืองผู้ดี ยืนยันว่า นานี่ ปีกโปรตุกีส จะกลับมามีชื่ออยู่ในทีมดวลแข้ง โอลิมปิก มาร์กเซย ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2 วันอังคารที่ 15 มีนาคมนี้ หลังหายจากอาการบาดเจ็บหน้าแข้งซ้ายมีแผลเหวอะหวะลึกถึงกระดูกจากเกมลีกนัดบุกพ่าย ลิเวอร์พูล 1-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ราวปาฏิหาริย์
ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสลงฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว ทำให้โอกาสที่เจ้าตัวจะกลับมาอยู่ในทีมวันอังคารนี้มีสูงขึ้น ซึ่ง "เฟอร์กี้" กล่าวว่า "เขาฝึกซ้อมกับทีมเมื่อวันอาทิตย์ เขาแล้วก็ ไมเคิ่ล คาร์ริค ด้วย ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ ดีกว่าที่ผมได้รับทราบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ทั้งสองคนจะมีส่วนร่วมในวันพรุ่งนี้ (วันอังคาร)"
นอกจากนั้น กุนซือชาววิสกี้ ยังกล่าวถึง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ซึ่งเดี้ยงนานกว่า 6 เดือน ก่อนกลับมาลงสนามได้ในเกมชนะ อาร์เซน่อล 2-0 ศึก เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยระบุว่า "มันเป็นโบนัสชั้นยอดสำหรับเราที่ อันโตนิโอ ได้ลงสนามนาน 45 นาทีเมื่อวันเสาร์ คำถามคือพวกเราจะสามารถส่งเขาลงสนามตั้งแต่เริ่มเกมได้หรือเปล่า หรือต้องทำแบบที่เราทำเมื่อวันเสาร์คือส่งเขาลงเป็นตัวสำรองต่อไป แต่มันก็เป็นปัญหาที่เป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับผม"
สุดท้าย นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พูดถึงเกมดวลสโมสรแกร่งจาก ลีก เอิง ว่ า"พวกเราต้องตระหนักเอาไว้ว่า พวกเขามีประสบการณ์ และมีพลังเหลือเฟือ มันจะเป็นเกมยาก พวกเขาเป็นทีมชั้นดี ผมคิดว่า เกมเหล่านี้ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั้น มันย่อมมีบรรยากาศสุดยอดเสมอ ซึ่งนั่นจะช่วยพวกเราได้"
เซอร์มั่นใจผีแกร่ง-เก๋าพอล่า3แชมป์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อเขามีทีมที่แข็งแกร่ง และเก๋ามากพอรับมือศึกหนักช่วงโค้งสุดท้ายซีซั่น ที่พวกเขายังมีลุ้เนคว้าแชมป์ถึง 3 รายการ โดยเฉพาะข่าวดีที่นักเตะบางคนฟิตกลับมาพอดี ทั้ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ฟิตแล้ว ไปจนถึง พาร์ค ชี-ซอง กับ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ที่ลงซ้อมได้แล้ว
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ทีมของเขามีศักยภาพแข็งแกร่งพอรับมือกับความกดดัน และโปรแกรมลงสนามมากมาย เพื่อทำศึกลุ้นคว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน ชี้นอกจากทีมจะมีประสบการณ์มากพอแล้ว นักเตะหลักๆ บางคนที่บาดเจ็บไปก็กำลังทยอยหายกลับมา ทั้ง พาร์ค ชี ซอง และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์
หลังจากโค่น อาร์เซน่อล ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกเอฟเอ คัพ ทำให้ ยูไนเต็ด มีโอกาสทำประวัติศาสตร์แบบปี 1999 โดยอันดับแรกต้องเอาชนะ มาร์กเซย ให้ได้ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัดที่สอง วันอังคารที่ 15 มีนาคมนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) โดย เซอร์ อเล็กซ์ กล่าวว่า "นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญ เรายังมีลุ้นทั้ง 3 รายการ แต่เรามีประสบการณ์พอที่จะทำสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ คือเล่นไปทีละนัด เราเจอสถานการณ์แบบนี้มาเป็นล้านครั้งแล้ว คุณต้องก้าวไปกับมัน ทีมจำเป็นต้องฮึด และเล่นให้ดี เรารู้เรื่องนี้ดี"
ยูไนเต็ด ได้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกเอกวาดอร์ ที่ข้อเท้าหัก ฟิตกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีลุ้นได้ พาร์ค กับ ฮาร์กรีฟส์ ฟิตกลับมาในเร็วๆ นี้ "การได้ อันโตนิโอ ฟิตกลับมาเป็นโบนัสของเรา มันเป็นย่างก้าวที่ดีหากมองถึงการที่เขาหายไปนานมาก เขาทำให้เรามีทางเลือกในการจัดทีมมากขึ้น ปีที่แล้วเราเสียเขาไปในช่วงสำคัญ ดังนั้นนี่จึงเป็นข่าวดีมากๆ ของเรา"
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่านี่จะมีส่วนช่วยเรา การได้นักเตะทุกคนฟิตกลับมาพร้อมเล่น แต่เรากำลังจะได้นักเตะกลับมา พาร์ค ชี-ซอง ฟื้นตัวได้ดีมากๆ ส่วน โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ก็กลับมาซ้อมได้แล้ว การมีนักเตะบาดเจ็บไปกี่คนในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องสำคัญ ประเด็นคือเราได้พวกเขากลับมาในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ซึ่งถ้าหากมันเป็นแบบนั้นจริงๆ มันจะทำให้เรามีโอกาสมากขึ้น" เฟอร์กี้ กล่าว
น้าซาร์กระสันชูถ้วยเอฟเอคัพสั่งลาเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ มือกาวจอมเก๋า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งเป้าขอคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาประดับบารมีให้ได้ในปีส่งท้ายอาชีพพ่อค้าแข้ง รับคงไร้ความหมายหากผ่านเข้าถึงรอบชิงดำแต่ชวดชูถ้วยแชมป์ ยันไม่คิดกลืนน้ำลายกลับมาเฝ้าเสาต่อในซีซั่นหน้าชัวร์
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคตรทีมลูกหนังอังกฤษ ยอมรับว่า หากสามารถผ่านด่าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อริร่วมเมือง ศึก เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ไปได้ แต่ไม่อาจคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จในบั้นปลาย ก็คงไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น
"ปีศาจแดง" ไม่อาจคว้าแชมป์รายการนี้มานานกว่า 7 ปีแล้ว อย่างไรก็ดี การชนะ อาร์เซน่อล 2-0 เกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น ทำให้เหลือเพียงการแข่งขันอีก 2 นัดเท่านั้น ก็จะสามารถกระชากแชมป์ฟุตบอลถ้วยรายการเก่าแก่ที่สุดในโลกมาครองเป็นสมัยที่ 12 ได้สำเร็จ
มือกาวชาวดัตช์ กล่าวว่า "เหรียญแชมป์ เอฟเอ คัพ คงมีความหมายมาก แม้ว่าผมจะเคยคว้าแชมป์มาแล้วมากมายในอาชีพของผม มันอยู่ตรงนั้น อยู่ในเป้าหมายของผม แต่ผมคงไม่มองย้อนกลับมาเสียใจ หากผมไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ผมคงทำอะไรไม่ได้มากนักหากแพ้ในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลเป็นเรื่องของการคว้าโทรฟี่ แม้ว่าเราจะอยู่ที่ เวมบลีย์ แล้ว เราก็ยังเหลืออีก 1 เกมก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศ"
พร้อมกันนี้ อดีตนายทวารทีมชาติฮอลแลนด์ยังยืนยันว่า จะไม่เปลี่ยนใจการบอกลาสังเวียนลูกหนังในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน โดยระบุว่า "ผมไม่ได้เกลียดความคิดเรื่องการเลิกเล่น ผมกำลังรอคอยมัน ผมอยู่บนจุดสูงสุด และมันจะเป็นเรื่องดีที่จบอาชีพบนจุดสูงสุด มันอาจจะเป็นการปลดเปลื้องภาระลงจากบ่าก็เป็นได้ มันเป็นเรื่องสวยงามที่ได้รับการจดจำจากบรรดาแฟนๆ และผมจะคิดถึงเกมฟุตบอล และเสียงอึกทึกเหล่านั้น มันผ่านมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ผมยังมีสิ่งดีๆ อื่นๆ อีกหลายอย่าง รวมถึงภรรยาอันเป็นที่รัก และลูกๆ ที่น่ารักทุกคน"
อัลดริดจ์ผิดหวังแดงเดือดชุดเล็กระอุเกินงาม
จอห์น อัลดริดจ์ อดีตหัวหอกชาวไอริชของ ลิเวอร์พูล ถึงกับส่ายหน้าเมื่อได้เห็นแข้งเยาวชน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ "หงส์แดง" เล่นกันแบบเดือดระอุจนเกินงาม ส่งผลให้มีนักเตะโดนใบแดงถึง 4 คน อีกทั้งยังรู้สึกผิดหวังที่สาวก "ผีแดง" เอาเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ ฮิลล์สโบโร่ เมื่อปี 1989 มาร้องเป็นเพลงล้อเลียนกันแบบสนุกปากอีกด้วย
จอห์น อัลดริดจ์ อดีตตำนานนักเตะ ลิเวอร์พูล แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับรู้สึกผิดหวังอย่างมากที่ได้เห็นบรรดาแข้งเยาวชนของทีม "หงส์แดง" และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่านเกินเหตุ ในเกม เอฟเอ ยูธ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา จนทำให้มีนักเตะโดนไล่ออกจากเกมนี้ถึง 4 คนด้วยกัน อีกทั้งยังสลดใจเป็นอย่างมากที่ได้ยินแฟนของ ยูไนเต็ด ต่างร้องเพลงล้อเลียนเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ ฮิลล์สโบโร่ ในปี 1989 อย่างสนุกปาก
ปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นเกม "แดงเดือด" ครั้งใด ก็จะมีการเข้าปะทะกันอย่างหนักอยู่เสมอ ล่าสุดเด็กปั้นของทั้ง 2 ทีมก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน ซึ่งทั้ง "ผีแดง" และ "เร้ด แมชีน" มีนักเตะโดนไล่ออกฝ่ายละ 2 คน โดย สตีเฟ่น ซาม่า ของ ลิเวอร์พูล และ พอล ป็อกบา ของ ยูไนเต็ด โดนไล่ออกไปอย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง จากนั้น คอเนอร์ คัวดี้ กัปตันทีม "หงส์แดง" และ ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ ปราการหลังของ "เร้ด เดวิลส์" ก็มาโดนใบแดงให้ออกจากสนามในเวลาต่อมา
อัลดริดจ์ กล่าวหลังเกมจบลงด้วยชัยชนะของ "เร้ด เดวิลส์" ที่บุกมาเอาชนะ 3-2 ว่า "ผมยังไม่เคยเห็นอะไรเหมือนเช่นนี้มาก่อนกับเกมในระดับเยาวชน และผมก็ไม่ต้องการเห็นมันอีกครั้งด้วย มันน่าขยะแขยงจริงๆ คุณคงเคยชินกับการล้อเลียนของบรรดาแฟนของ ยูไนเต็ด ที่เมื่อพวกเขามายัง แอนฟิลด์"
"แต่การได้ยินเพลงเกี่ยวกับ เฮย์เซล และ ฮิลล์สโบโร่ มันเป็นเรื่องที่แย่มาก ระดับของความรุนแรงต้องถือว่าแย่มาก มีหลายเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดปัญหา และผมรู้สึกเสียใจสำหรับครอบครัวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แค่ต้องการจะดูเกมฟุตบอล" อดีตกองหน้าทีมชาติไอร์แลนด์ กล่าวในที่สุด





</center>







