เนมานย่า วิดิช กองหลังเซิร์บ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับการคว้า 3 แชมป์เป็นเรื่องยาก เพราะในถ้วยใหญ่อย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก มี เชลซี ขวางทาง ส่วน เอฟเอ คัพ ก็มี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รออยู่ แต่เชื่อไม่ใช่เรื่องยากระดับเป็นไปไม่ได้
เน มานย่า วิดิช กองหลังคนเหล็กทีมชาติเซอร์เบีย ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก ประกาศกร้าวใช่ว่า การคว้าแชมป์ 3 รายการใหญ่ ย้อนรอยปี 1999 จะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้ยอมรับว่าเป็นงานยากก็ตาม หลังจากสถานการณ์ตอนนี้ ทีมนำเป็นจ่าฝูงลีก, เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก รอพบกับ เชลซี และเข้ารอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
วิดิช มองว่า การที่ทีมมีลุ้นคว้า 3 แชมป์เป็นเรื่องดี แต่การที่มีคู่แข่งอย่าง เชลซี กับ ซิตี้ ขวางทางอยู่ หมายความว่า พวกเขาเองก็เจองานยากรออยู่ด้วย "การมีลุ้นคว้าแชมป์ 3 รายการเป็นเรื่องที่สุดยอด แต่มันไม่มีความหมายอะไรเลย ณ เวลานี้ เมื่อคุณมองดูทีมต่างๆ ที่เรารอพบในนัดถัดๆ ไป จะรู้เลยว่ามันเป็นงานยากมาก"
"แต่ มันมีความเป็นไปได้ และผมคิดว่าวิธีจัดการที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ เล่นไปทีละเกมๆ ก็พอ การมองไกลเกินไปเป็นเรื่องอันตราย ความสำเร็จเป็นเรื่องสุดยอด แต่เรารู้ว่าเกมๆ เดียวก็เปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้" วิดิช กล่าว
นอก จากโปรแกรมโหดแล้ว สภาพทีมก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะ ยูไนเต็ด มีปัญหาบาดเจ็บเยอะมากโดยเฉพาะแนวรับ ทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, เวส บราวน์ และ จอห์น โอเช โดย วิดิช บอกว่า เขาฟิตแล้ว และหวังว่าเพื่อนๆ จะทยอยฟิตตามมา "ผมฟิตแล้ว ผมเล่นเกมทีมชาติพบกับ เอสโตเนีย ตลอด 90 นาที และมันเป็นเกมที่เต็มไปด้วยหิมะ ถ้าผมเล่นมาได้ ผมก็พร้อมเจอทุกอย่าง"
"ผมเป็นเพียง 1 ในกองหลังหลายๆ คนที่บาดเจ็บ แต่หวังว่าพอถึงเกมเจอ เชลซี เราจะได้นักเตะบางคนกลับมา และเราจะมีเกมรับที่แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการที่มีเกมหลายนัดรออยู่ในช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์ การได้นักเตะมาจะช่วยได้เยอะ เพราะเรากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของซีซั่นแล้ว"
หมูชี้ผีทำได้แบบเชลซีสมัยน้ามู
เวย์น รูนี่ย์หัวหอกร่างอวบของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้สัมภาษณ์เชื่อว่าทีมของเขาสามารถทำสิ่งที่แชมป์ควรจะทำได้ โดยพลิกกลับมาเอาชนะหลังจากถูกออกนำไปก่อน เหมือนสมัยเชลซีของโจเซ่ มูรินโญ่ที่ทำได้หลายครั้ง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตกเป็นฝ่ายตามหลัง 2-0 ในเกมส์กับแอสตัน วิลล่า, แบล็คพูล และเวสต์แฮมล่าสุดเมื่อวานนี้ แต่พวกเขาพลิกกลับมาเก็บ 7 คะแนนจากคะแนนเต็ม 9 คะแนนได้แบบเหลือเชื่อ ซึ่งเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเรียกสิ่งแบบนี้ว่าฟอร์มของแชมเปี้่ยน
"ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ สมัยที่เชลซีคว้าแชมป์ลีก พวกเขาสามารถทำแบบนี้ได้ตลอดเวลา"
"พวกเขากำลังจะแพ้ หลังจากนั้นตอนพวกเราอบอุ่นร่างกายเสร็จ ข่าวมาอีกทีกลับกลายเป็นพวกเขาที่ชนะ"
"เกมส์ใหญ่ๆกำลังถาโถมใส่พวกเรา แต่พวกเราก็อยู่เพื่อสิ่งนี้"
"ในอีกทางหนึ่ง พวกเราต้องพูดว่าฤดูกาลนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว"
"พวกเรามีการแข่งขันในลีกเหลืออีก 7 เกมส์ โดยมี 4 เกมส์ที่ได้ลงเล่นในบ้าน ซึ่งฟอร์มการเล่นในบ้านของพวกเรามันยอดเยี่ยมมาก"
"มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเรา และเป็นอะไรบางอย่างที่นักเตะของเรากำลังมองหา"
เอฟเอยันเตรียมสอบกรณีรูนสบถใส่กล้องทีวี
เอฟเอ ยันชัดไม่ปล่อยให้กรณีที่ เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สบถคำหยาบใส่กล้องทีวี หลังซัดแฮตทริกในแมตช์ชนะ เวสต์แฮม 4-2 เมื่อวันเสาร์ ผ่านไปอย่างแน่นอน เตรียมมีการสอบสวนและตัดสินว่าจะมีการลงโทษหรือไม่ในวันจันทร์นี้
เวย์ น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่งของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อาจจะโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ลงโทษ จากกรณีที่พูดจากวนประสาทใส่กล้องโทรทัศน์ตอนยิงประตูได้ ในแมตช์ที่พลิกนรกชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-2 ที่สนาม อัพตัน พาร์ค เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา
"รูน" ระเบิดอารมณ์สุดขีดหลังซัดแฮตทริก ด้วยการวิ่งเข้าไปหากล้องทีวี พร้อมกับสบถคำพูดออกมาอย่างสะใจ โดยเจ้าตัวเป็นผู้เล่นสำคัญที่ช่วยให้ "ปีศาจแดง" พลิกสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง เวสต์แฮม 0-2 ในครึ่งแรก ก่อนจะยิง 4 ลูกรวดในครึ่งหลัง คว้า 3 คะแนนไปอย่างสุดยอด แต่ไม่นานก็รู้สึกผิดออกมาขอโทษจากการกระทำของตัวเขาเอง
อย่าง ไรก็ตาม องค์กรลูกหนังเมืองผู้ดี ไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหลังมีสื่อหลายสำนักประโคมข่าวเกี่ยวกับ เรื่องนี้จนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ซึ่ง โฆษกของ เอฟเอ เผยว่า "พวกเราจะต้องเข้าไปพิจารณา แน่นอนว่าพวกเราจะไม่ปล่อยให้มันเลยไปพร้อมกับภาษาที่หยาบคาย"
ด้าน เทรเวอร์ บรู๊คกิ้ง ผู้อำนวยการ เอฟเอ ยืนยันผ่านสถานีวิทยุ บีบีซี 5 เกี่ยวกับกรณีของดาวยิงร่างท้วมว่า "พรุ่งนี้ (วันจันทร์) เราจะมีการตัดสินใจ มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่หลังจากยิงแฮตทริกได้จะมีการแสดงออกเช่นนั้น มันเป็นบางสิ่งที่เราจะต้องดู"
กิ๊กซี่สรรเสริญแข้งผีหัวใจไม่เคยยอมแพ้
ไรอัน กิ๊กส์ ปีกวัยชราของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ้มระรื่น ชมเพื่อนร่วมทีมหัวจิตหัวใจแข็งแกร่งไม่เคยยอมแพ้ ทั้งที่ตามหลัง 2 ประตูในครึ่งแรก แต่สุดท้ายก็พลิกแซงชนะ เวสต์แฮม 4-2 เกมลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ไรอัน กิ๊กส์ ปีกมากประสบการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวสรรเสริญหัวใจนักสู้ของแข้ง "ปีศาจแดง" ในเกมชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ทั้งที่สกอร์ตามหลัง 0-2 ในครึ่งแรก
ชัยชนะของ "เร้ด เดวิลส์" ได้มาจากการซัดคนเดียว 3 ประตูของ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ในนาทีที่ 65, 73 และลูกจุดโทษในนาทีที่ 79 ก่อนที่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ จะมายิงปิดกล่องได้ในนาทีที่ 84 ส่วนทีม "ขุนค้อน" ได้ 2 ประตู จากลูกจุดโทษในครึ่งแรกของ มาร์ค โนเบิล ในนาทีที่ 11 และ 25
กิ๊กส์ ให้ความเห็นหลังจบเกมว่า "มันเป็นการส่งข้อความให้รู้ว่า เราไม่เคยยอมแพ้ ไม่ว่าสกอร์จะตามหลังเท่าไรก็ตาม บางเกมเราไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของเรา แต่วันนี้เราเล่นได้อย่างสุดยอด แต่บางครั้งเราก็ทำไม่ได้อย่างที่ต้องการ"
นอกจากนี้ อดีตดาวเตะทีมชาติเวลส์ เผยว่า แม้ "เร้ด เดวิลส์" สกอร์ตามหลังในครึ่งแรก แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ กระตุ้นให้ลูกทีมเล่นเหมือนเดิม "ครึ่งแรกเราเล่นได้ดีพอสมควร และก็เสียประตูแบบไม่น่าเสีย เฟอร์กูสัน ยังคงใจเย็น (ในช่วงพักครึ่ง) เราเล่นได้ดีพอสมควร คุมพื้นที่ได้ดี แต่ยังพลาดในจังหวะสุดท้าย เรารู้สึกว่า หากทีมไหนยิงประตูต่อไป (ช่วงครึ่งหลัง) คงจะชนะในเกมนี้"
ถูกใจป๋า!เบียร์ฮอฟฟ์แนะนอยเออร์ไปผีเพื่อก้าวเป็นหนึ่ง
โอลิเวอร์ เบียร์ฮอฟฟ์ตำนานนักเตะของทีมชาติเยอรมันได้ออกมาชี้ว่า มันถึงเวลาแล้วที่มานูเอล นอยเออร์กัปตันทีมชาร์ลเก้จะย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ ลีกและมองว่าจะสามารถก้าวเป็นมือหนึ่งของโลกได้เมื่ออยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นอ ยเออร์มีข่าวลือเรื่องย้ายทีมมาตลอด โดยเฉพาะกับ “ปีศาจแดง” ที่กำลังตามหาทายาทของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ซึ่งจะแขวนถุงมือในช่วงปิดฤดูกาลนี้
เบียร์ฮอฟฟ์มองว่าถึงเวลาแล้วที่นอยเออร์จะก้าวไปอีกระดับตามเพื่อนร่วมทีม ชาติอย่างซามีร์ เคดิร่าและเมซุต โอซีลที่ย้ายไปเล่นให้กับยักษ์ใหญ่อย่างเรอัล มาดริดเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
“มันมีการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่รอคอยนอยเออร์อยู่ แต่ผมมั่นใจว่าเขามีความสามารถมากพอที่จะทำได้เหมือนอย่างเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่แมนฯยูไนเต็ด” เขากล่าวกับ News of the World
“ผมยังเป็นดาวรุ่งอยู่ตอนที่ย้ายไปอิตาลีและนั่นมันดีกับตัวผมเอง เหมือนอย่างที่เคดิร่าและโอซีลย้ายไปเรอัล มาดริด”
“เขาต้องได้ลงเล่น นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่แน่นอนเลยว่าเขาจะเหมาะกับเกมในเกาะอังกฤษหากย้ายไปแมนฯยูไนเต็ด เขาเป็นยอดผู้รักษาประตูและจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ ดีที่สุดของโลกได้”
“แน่ล่ะมันก็มีแรงกดดันให้อยากจะให้เขาอยู่ชาลเก้ต่อไป เพราะมันเป็นสโมสรบ้านเกิดของเขาและเขาก็อยู่มาตั้งแต่เด็กแล้ว ฉะนั้นมันคงจะยิ่งมีแรงกดดันสูงมากแน่ หากเขาย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค”
ผีดี๊ด๊า!สิงห์ผงาดยอมขาย'ยัง'ช่วงซัมเมอร์
แอสตัน วิลล่าได้บอกกับแอชลี่ย์ ยังปีกตัวเก่งของทีมว่าจะขายเขาออกไปในช่วงซัมเมอร์โดยมีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นตัวเต็งในการเซ็นสัญญากับนักเตะ
"สิงห์ผงาด"ไม่ต้องการให้อดีตสตาร์วัตฟอร์ดอยู่ค้าแข้งในถิ่นวิลล่า ปาร์กในฤดูกาลสุดท้ายของสัญญาเพราะเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อการเสียนักเตะไป แบบไร้ค่าตัวดังนั้นหลังจบฤดูกาลนี้พวกเขาจึงยินดีขายยังเพื่อเอาเงินโดยมี แนวโน้มว่าดาวเตะวัย 25 ปีจะย้ายไปเล่นที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ด
แทนที่จะปล่อยให้ยังออกจากทีมไปแบบฟรีๆในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 ทางวิลล่าก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาจได้เงินสัก 12 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะที่กลายเป็นขาประจำของทัพ"สิงโตคำราม"ไปแล้ว
คิงพาวเวอร์จัดด่วน!ขุนแผนสวีดิชอยากสอยโอเว่น
สเวน โกรัน อีริคส์สันบอสขุนแผนของเลสเตอร์ ซิตี้ในลีกแชมเปี้ยนชิพสนใจอยากคว้าไมเคิ่ล โอเว่นหัวหอกกระดูกเปราะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปเสริมแกร่งในซีซั่นหน้า
โอเว่นกำลังจะหมดสัญญากับ"ปีศาจแดง"ในช่วงซัมเมอร์และมีแนวโน้มว่าคงไม่ได้ รับการขยายสัญญาออกไปอีกเพราะเขามีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตามด้วยความที่โอเว่นมีประสบการณ์ซึ่งผ่านศึกน้อยใหญ่มานับไม่ถ้วน จึงทำให้อีริคส์สันอยากเกลี้ยกล่อมให้ดาวยิงคู่บุญเมื่อครั้งคุมทีมชาติ อังกฤษมาช่วย"สุนัขจิ้งจอก"เลื่อนชั้นสู่เวทีพรีเมียร์ลีก
สำหรับเลสเตอร์นั้นมีเจ้าของเป็นบริษัทของคนไทยคือคิงพาวเวอร์ซึ่งพวกเขา เตรียมการที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้ขุมกำลังของทีมอยู่แล้วและพร้อมดำเนิน การติดต่อโอเว่นให้กับกุนซือชาวสวีดิชทันที
อดัมกลัวเป็นข่าวงดบุกถิ่นผี-หงส์ดูเกมชั่วคราว
ชาร์ลี อดัม ห้องเครื่องทีมชาติสกอตแลนด์ของแบล็คพูล เผย โทษฐานที่ตัวเองมีข่าวย้ายซบทีมนั้นทีมนี้หนาหู ทำให้ไม่มีทางเลือกนอกจากจำต้องงดเดินทางไปดูทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ลงสนาม เพราะกลัวเป็นข่าว ทั้งที่ปกติแล้วจะชอบไปดูเสมอๆ เพราะมีแต่นักเตะระดับโลกลงเล่น
ชาร์ลี อดัม จอมทัพแบล็คพูล น้องใหม่ไฟแรงแห่งพรีเมียร์ลีก เผยว่าช่วงนี้ต้องยกเลิกกิจวัตรการเดินทางไปดูนักเตะระดับหัวแถวของวงการฟาด แข้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ แอนฟิลด์ อย่างจำใจ เพราะตัวเองดันเป็น 1 ในนักเตะฟอร์มเทพ ที่มีข่าวย้ายทีมหนาหู ทำให้หากเขาโผล่ไปที่สนามของยอดทีมดังกล่าว มีหวังมีหน้าที่ต้องมาตอบคำถาม และปฏิเสธข่าวรายวันแน่นอน
ห้องเครื่องวัย 25 ปี หนึ่งในแข้งที่มีลุ้นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ กล่าวว่า "ผมมักจะเดินทางไปดูเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน เสมอ แต่เดี๋ยวนี้ผมไปไม่ได้แล้ว เพราะทุกคนจะคิดว่าแสดงว่าผมจะย้ายไปเล่นที่นั่นแน่ แทนที่จะทำแบบนั้นผมต้องเรียนรู้ด้วยการดูเกมพวกนั้นทางทีวีแทน ผมชอบดูนักเตะเก่งๆ เล่น และผมโชคดีที่พอที่ได้มีโอกาสประชันแข้งกับพวกเขา"
"สก อตต์ พาร์คเกอร์, สตีเว่น เจอราร์ด, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, พอล สโคลส์ และ แจ็ค วิลเชียร์ ล้วนเป็นนักเตะชั้นยอด ผมดู วิลเชียร์ เล่นให้ อังกฤษ เมื่อกลางสัปดาห์ ในวัยเพียง 19 ปีเขาเป็นพลังขับเคลื่อนทีม มันมหัศจรรย์มาก เขาจะเป็นนักเตะระดับโลก" มิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์ กล่าว
อดัม เป็นนักเตะเนื้อหอมช่วงเดือนมกราคม และเกือบจะย้ายไปเล่นกับ สเปอร์ส แล้ว แต่การเจรจาเกิดขึ้นช้าเกินไป คือตอน 22.20 น. จึงมีเวลาเพียง 40 นาทีในการจัดการ "ท็อตแน่ม เข้ามาในช่วงแทบจะนาทีสุดท้าย พวกเขาชอบทำแบบนี้ตลอด มันเป็นช่วงเวลายากลำบากของผม เพราะตอนผมย้ายออกจาก เรนเจอร์ส ผมคิดว่าผมคงไม่มีวันเล่นให้ทีมชั้นยอดอีกครั้ง"
"แต่ ทั้ง ลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลล่า และ สเปอร์ส ต่างอยากได้ผม ผมภูมิใจ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีข่าวกับพวกเขา ผมหวังว่าผมคงจะปฏิบัติตัวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างเหมาะสม พวกเขาล้วนแต่เป็นทีมใหญ่ และพอตลาดปิด มันก็เท่านั้น" อดัม กล่าว
Credit : www.siamsport.com , www.soccersuck.com












</center>