เป็นคำถามที่ดี แต่ตอบยากเหมือนกัน
ที่ดีใจที่ให้น้ำหนักพอๆกันก็น่าจะมี 3 อย่าง
1.เอ็นท์ติด - ดีใจสุดๆ มันเป็นเทรนสมัยนั้นทำให้เรากดดันตัวเองมากๆ ถ้าใครเอ็นท์ไม่ติดไปเรียนเอกชนเรียนรามงี้เป็นประหลาดไปเลยเพื่อนไม่อยากคบ และเราก็ไม่อยากคบเพื่อนพวกที่เอ็นท์ติดด้วยเหมือนเป็นแกะดำอยู่คนละโลกกับพวกเขา แต่พอเอ็นท์ติดโล่งเลยเหมือนยกภูเขาออกจากอก
2.ได้รับพระราชทานปริญญาบัตร - พอได้เรียนขึ้นปี 4 ปีสุดท้ายแล้วก็เครียด เพราะตัวเองเกรดไม่ค่อยดี 1 กว่าๆ ฉิวเฉียดรีไรท์ เพื่อนร่วมรุ่นจบ 3 ปีครึ่ง 4 ปี แต่ตัวเองต้องเรียนวิชาช่วยเพิ่มเพื่ออัพเกรดให้ถึง 2 เลย เป้อมาเทอมนึง แต่ก็ดีใจมากที่ได้จบ และได้รับปริญญากับรุ่นน้อง เหอๆ ดีใจสุดๆ ทำได้แล้วเว้ย...ใครจะทำได้อย่างตรูว่ะ จบ 2.03 ๕๕๕๕ สะใจโคตรๆ

(ดีไม่เอา 2.00)
3.ได้งานทำ - (มันปนๆกันระหว่างความดีใจกับเสียใจ มันจะมาสลับกัน) พอจบสอบเข้าทำงานก็หลายที่ ทั้งเอกชนและราชการ (ส่วนใหญ่เน้นราชการ) สอบไม่ผ่านก็หลายครั้ง สอบผ่านแต่ขึ้นบัญชีไว้แล้วไม่เรียกก็หลายที่ บางครั้งจนท้อเสียใจร้องไห้ทั้งคืนก็มี ก็อย่างว่าคนจบมันเยอะตำแหน่งงานก็น้อย ต้องแย่งกันทำ แต่สุดท้ายก็มาได้งานราชการอันหนึ่งซึ่งก็ไม่พอถูๆไถๆไปได้เพราะไม่ได้ตรงการที่เราเรียนมา ได้แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว...แต่ก็ยังหาสอบไปเรื่อยๆ และว่าจะทำธุรกิจเล็กๆส่วนตัวไปด้วย ถ้าทางนั้นรุ่งอาจได้เป็นเจ้านายตัวเองเร็วกว่าที่คิด!
ส่วนที่เสียใจก็
1.พ่อแม่ไม่เข้าใจเรา ทะเลาะกับพ่อแม่ (ช่วงที่มีความคิดเป็นของตัวเอง)
2.โดนแฟนทิ้ง (ครั้งแรกมันยังไม่ชินๆ หลังๆสบายชิงทิ้งก่อน ๕๕๕)
3.สอบเข้าทำงานไม่ได้(มันอยู่ในช่วงเดียวกับได้งานทำ)
ส่วนเรื่องคนในครอบครัวตายก็เสียใจ แต่ก็ทำใจไว้นานแล้วยังไงทุกคนก็ต้องตาย
เพียงแต่ให้เขาไปก่อนแล้วเราค่อยตามไป (รอหน่อยนะคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย ไว้ให้ผมผลิตลูกหลานไว้สืบสกุลให้ก่อนแล้วจะตามไป)
