"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเชื่อมั่น เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงร่างตันจะระเบิดฟอร์มล่าตาข่าย ทีมเยือน "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่เตรียมจัด เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า เป็นคู่หน้าหวังช่วยกันซัดประตูฝังผีแดงคาถิ่นเพื่อผ่านเข้าสู่รอบรองชนะ เลิศต่อไป
ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/11
รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
วันอังคารที่ 12 เมษายน 2554
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) - เชลซี (อังกฤษ)
(ผลนัดแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 1-0)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถบุกไปเอาชนะ เชลซี มาได้ในเกมแรก ทำให้นัดนี้ขอเพียงผลเสมอจะผ่านเข้ารอบ ไปพบกับผู้ชนะระหว่าง ชาลเก้ 04 กับ อินเตอร์ มิลาน และเท่ากับสถานการณ์บังคับให้ เชลซี ต้องเอาชนะคืนสถานเดียว ในทุกสกอร์
ล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นเกมลีก กำชัยเหนือ ฟูแล่ม 2-0 ทั้งที่ใช้ทีมชุดผสม เท่ากับเข้าเบรคเก็บชัยมารวดเดียว 6 นัดทุกรายการแล้ว หลังจากออกทะเลแพ้ 2 เกมติดตอนต้นเดือน มี.ค.
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะลงคุมทีมข้างสนามได้ตามปกติอีกครั้ง ขณะที่ยังคงเหลือโทษแบนในพรีเมียร์ลีกอีก 2 นัด และ เฟอร์กี้ ยังได้ข่าวดีในเรื่องของสภาพทีมอีกด้วย
เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงคนสำคัญ ยังเหลือโทษแบนเกมในประเทศอีก 1 นัด แต่ไม่เกี่ยวกับเวทียุโรป สามารถลงล่าตาข่าย เชลซี ได้ หลังจากเป็นฮีโร่ซัลโวตาข่ายมาในเกมแรก
รูนี่ย์ จะปักหลักหัวหอกตัวจริงแน่นอน ส่วนคู่ขาก็จะเป็น ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ที่ยืนค้ำตัวสูงอย่างในเกมแรก โดย "ชิชาริโต้" ได้พักมาเต็มที่ด้วยเมื่อวันเสาร์ ในการนั่งสำรองและไม่ถูกเปลี่ยนลงเล่น เท่ากับว่า ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่กระหน่ำไปแล้วเป็นลูกที่ 22 ในซีซั่นนี้ ต้องหลีกทางให้ตามระเบียบ
เฟอร์กี้ เหลือปัญหาที่ต้องสะสางแค่เล็กน้อย อย่างอาการบาดเจ็บของ ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวาแซมบ้า และอาการป่วยไข้ของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางสกอตติช
แม้กุนซือสกอตติชจะเผยก่อนนี้ว่า ราฟาเอล จะพร้อมเตะกับ เชลซี แต่จากการซ้อมมื้อวันจันทร์ ราฟาเอล ทำได้แค่วิ่งวอร์มเบาๆ ไม่ได้ร่วมซักซ้อมแท็กติกกับเพื่อนแต่อย่างใด
มีโอกาสมากกว่าที่ ราฟาเอล จะนั่งสำรองหากว่าฟิตทัน และใช้แบ็กขวาเป็น จอห์น โอเช ที่หายเจ็บกลับมาแล้ว ในฐานะตัวเลือกก่อน เวส บราวน์ ที่ก็หายเจ็บมาพร้อมๆ กัน
การจัดทัพเมื่อวันเสาร์ เฟอร์กี้ ใช้ชุดผสมด้วยนักเตะอย่าง โทมัส คุสแซ็ค, คริส สมอลลิ่ง, อันแดร์สัน, ดาร์รอน กิ๊บสัน, พอล สโคลส์ และ เบอร์บาตอฟ แต่เกมสำคัญกับ เชลซี ทั้งหมดจะถูกสั่งพัก เพื่อเปิดทางให้ขุมกำลังตัวหลักอย่าง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิ่ล แคร์ริค, พาร์ค ชี-ซอง, ไรอัน กิ๊กส์ และ ชิชาริโต้ กลับลงตัวจริง
เฟอร์ดินานด์ แม้จะไม่มีชื่อเมื่อสุดสัปดาห์ แต่ก็เป็นการเก็บตัว สภาพร่างกายไม่เป็นปัญหาแล้ว จะลงยืนเซนเตอร์คู่ วิดิช ตามเดิม
อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่เล่นตัวจริงเมื่อวันเสาร์ ก็มีโอกาสจะหลุดไปเช่นกัน เนื่องจาก เฟอร์กี้ น่าจะปรับระบบมาใช้ 4-4-2 และ 4 แผงกลางประกอบด้วย แคร์ริค, พาร์ค, กิ๊กส์ และ นานี่ ยกเว้นแต่ว่าท่านเซอร์จะมีการเน้นเกมรับมากเป็นพิเศษ วาเลนเซีย ก็อาจได้เล่นตัวจริงก่อน นานี่ เพื่อช่วยแบ่งเบางานแบ็กขวา
ด้าน เชลซี ต้องชนะคืนเท่านั้นเพื่อเข้ารอบ ซึ่งผลงานระยะหลังค่อนข้างลุ่มๆ ดอนๆ 5 นัดหลังชนะแค่ 2 ล่าสุดคือเฉือน วีแกน แอธเลติก 1-0 ในบ้าน
คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่มีปัญหาสภาพทีมให้ต้องเป็นกังวลอีกเช่นเคย เกมนี้จะขาดไปก็แค่ ดาวิด ลุยซ์ เซนเตอร์แบ็กบราซิเลี่ยน ที่ติดคัพ-ไทเกมยุโรป หมดสิทธิ์เล่นจนกว่าจะขึ้นซีซั่นหน้า
หน้าที่ดูแลเกมรับ จะตกไปเป็นของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังเซิร์บ ที่จะลงยืนเซนเตอร์คู่กับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม ที่เมื่อวันเสาร์ได้พักมาเต็มๆ ไม่ได้เล่นกับ วีแกน
ทว่า อิวาโนวิช ก็อาจหลุดไปได้เหมือนกัน ถ้า อันเชล็อตติ เลือกใช้งาน อเล็กซ์ กองหลังแซมบ้าอีกคน ที่หายเจ็บกลับมาเล่นได้แล้ว
การจัดทัพจะไม่เปลี่ยนจากเดิมนัก เนื่องจาก อันเชล็อตติ จัดทัพชุดเกือบเต็มร้อยลงเล่นเกมลีกเมื่อวันเสาร์ ตัวหลักอย่าง ปีเตอร์ เช็ก, แอชลี่ย์ โคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า จะลงสนามต่อเนื่อง
ข้างหน้า แม้ เฟร์นานโด ตอร์เรส เจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์ จะยังคงปืนฝืดสนิทจนมีกระแสลือว่า อาจถูกขายตอนสิ้นซีซั่น แต่ก็น่าจะถูกจัดลงตัวจริง เนื่องจากสภาพร่างกายเต็มถังจากการได้พักเป็นสำรองมาเกมล่าสุด
มีโอกาสสูงที่ ตอร์เรส จะลงตัวจริง ทว่าคู่ขาต้องเลือกระหว่าง นิโกล่าส์ อเนลก้า กับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เมื่อรายแรกสภาพร่างกายฟิตเต็มที่ แต่ยิงไม่ได้มาตั้งแต่เดือน ก.พ. หรือ 6 เกมติดแล้ว ส่วนรายหลังเพิ่งยิงได้เมื่อต้นเดือนนี้ แต่ก็เป็นเพียงประตูเดียวจาก 13 เกมหลังสุดทีเดียว
ข้างหลัง โชเซ่ โบซิงวา จะทวงตำแหน่งกลับมาจาก เปาโล แฟร์เรยร่า ส่วนตรงกลาง ไมเคิ่ล เอสเซียง จะกลับมาสมทบกับ แลมพาร์ด, รามิเรส และ มาลูด้า โดยที่มี ยูริ ชีร์คอฟ รวมถึง ยอสซี่ เบนายูน เป็นอีกทางเลือก
เชลซี มีนักเตะติดคาดโทษอยู่ถึง 4 คน คือ จอห์น โอบี มิเกล, ชีร์คอฟ, รามิเรส และ ตอร์เรส ถ้าโดนเหลืองเพิ่มจะอดเล่นเกมถัดไป
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - นานี่ (อันโตนิโอ วาเลนเซีย), ไมเคิ่ล แคร์ริค, พาร์ค ชี-ซอง, ไรอัน กิ๊กส์ - เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (อเล็กซ์), จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส, นิโกล่าส์ อเนลก้า (ดิดิเยร์ ดร็อกบา)
ผู้ตัดสิน : โอเลการิโอ เบนเกเรนซ่า (โปรตุเกส)
พาร์คหวังปิดจ๊อบ-ยันครองบอลน้อยไม่สำคัญ
พาร์ค ชี-ซอง กองกลางเกาหลีใต้ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด คาดหวังถึงการสยบ เชลซี ให้ได้ในเกมนัดสอง แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย วันอังคารนี้ และมั่นใจว่า เปอร์เซ็นต์การครองบอลที่น้อยกว่าคู่แข่ง ไม่ใช่ปัญหาน่าหนักใจแต่ประการใด
ในเกมแรกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้แค่ 46 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังบุกชนะ 1-0 ได้ ทำให้สามารถยันเสมอในรังตัวเองเพื่อผ่านเข้ารอบตัดเชือก
"เปอร์เซ็นต์ครองบอลไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือคุณสร้างโอาสได้เท่าไหร่ คุณยิงตรงกรอบได้กี่ครั้ง" อดีตกัปตันทีมโสมขาว กล่าว
"หลายทีมมาเล่นครองบอลต่อหน้าเรา แต่มันไม่ใช่ปัญหา เราแค่ดู รอโอกาส ถ้าเราเข้ากดดัน เราได้บอล เราก็สามารถเล่นโต้กลับเร็วได้"
อินเตอร์ มิลาน ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็เคยเล่นมในลักษณะนี้เช่นกัน กับการพบ บาร์เซโลน่า ในรอบตัดเชือกซีซั่นที่แล้ว ซึ่งบอลอยู่ในการครอบครองของ บาร์ซ่า แทบจะทั้งเกม แต่สุดท้าย อินเตอร์ ก็เอาชนะ ก่อนเข้าไปคว้าแชมป์ในท้ายที่สุด
ปัดเน้นเฉพาะเกมใหญ่
พาร์ค ถูกตั้งข้อสังเกตว่า มักเล่นได้ดีเฉพาะในเกมใหญ่ๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับถึงข้อนี้ แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่ว่าตนจะมุ่งสมาธิเฉพาะเกมแบบนี้แต่อย่างใด
"ผมพยายามเล่นให้ดีในทุกเกม ไม่เฉพาะแต่เกมกับ เชลซี หรือ อาร์เซน่อล แต่เกมใหญ่เป็นความรู้สึกที่ต่างออกไป และผมชอบความรู้สึกแบบนั้น"
"ผมรู้สึกแข็งแกร่งกว่า มีพลังมากกว่า บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงโชว์ฟอร์มในเกมเหล่านั้นได้ดีกว่าเกมอื่นๆ"
มั่นใจผีเปิดรังกำราบสิงห์
นอกนั้น มิดฟิลด์วัย 30 มั่นใจว่า ฟอร์มการเล่นใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของทีมตนซีซั่นนี้ ที่เป็นไปได้ด้วยดีเสมอมา จะยังคงอยู่ต่อในการพบกับ "สิงห์บลูส์" เพื่อที่จะผ่านเข้ารอบตัดเชือกต่อไป
"เชลซี ผ่านเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มามาก และพวกเขาก็บุกมาชนะที่นี่ในลีกซีซั่นก่อน ดังนั้นนั่นอาจหมายความว่า พวกเขามีดีกว่าทุกทีม"
"แต่เราก็รู้จัก เชลซี ดี เราไม่อาจคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ เกมนัดสองเป็นเรื่องที่ต่างออกไป และอาจปรากฏผลที่ต่างไปเช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องโฟกัสกับงานตรงหน้า"
"ถ้าเราเล่นได้ดีอย่างควรจะเป็น เราก็จะชนะได้ ฟอร์มของเราในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซีซั่นนี้มหัศจรรย์มาก หวังว่าเราจะรักษามันไว้ได้ต่อเนื่อง" พาร์ค ทิ้งท้าย
อันเช่เร้าลูกทีมต้องเชื่อมั่น
อ่านต่อ : http://www.coreball.com/2010/newsupdate/4261-preview-manu-chelseafc-ucl.html


</center>




