"คุณไม่มีวันเห็นเกมส์น่าขยะแขยงแบบนั้นในอังกฤษ"
มันดูเหมือนกับว่าเกมส์ฟุตบอลที่สวยงามได้กลายเป็นเกมส์ที่น่าเกลียดในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเรื่องที่น่าอับอายและน่ารังเกียจที่พวกเราได้เป็นพยานในมาดริด
ผมเฝ้ารอคอยคาดหวังอย่างตื่นเต้นในเกมส์ระหว่างเรอัล มาดริดและบาร์เซโลน่ากับฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีกรอบรองชนะเลิศ มันคงจะเป็นเกมส์ที่น่าเพลิดเพลินอย่างแท้จริง
แต่จากสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเหมือนกับว่าผมได้ประสบการณ์การกินอาหารรสแย่ไว้ในปาก
การเล่นละคร , ไล่ทำฟาล์วกัน , ตบตากรรมการ - ขี้โกง โดยพื้นฐานแล้วนักเตะได้สูญเสียเค้าโครงของตัวเองไป และมันก็ไม่ใช่ค่ำคืนที่ดีที่สุดของโจเซ่ มูรินโญ่หรือว่าเป๊บ กวาดิโอล่าทั้งนั้น
ผู้คนที่รักฟุตบอลอย่างแท้จริงที่ผมรู้จักปิดทีวีของพวกเขาอย่างขยะแขยงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเชื่อมั่นอย่างเต็มร้อยว่าคุณจะไม่มีวันเห็นเกมส์ในอังกฤษเป็นแบบนี้ ฝูงกองเชียร์อังกฤษจะไม่มีทางยอมให้พฤติกรรมเหล่านี้ของฝ่ายตรงข้าม หรือแม้กระทั่งทีมของพวกเขาเองเกิดขึ้น
และกับการที่ผมเป็นผู้จัดการทีม ผมเองก็ไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระแบบนี้แน่นอน
เรอัล และบาร์ซ่าเป็นสองทีมฟุตบอลที่มหัศจรรย์และมีโค้ชที่ยอดเยี่ยม แต่ทั้งคู่ก้าวเข้าไปอยู่ในการล่มสลายเมื่อคืนวันพุธ มันเป็นเรื่องที่น่าเกลียดมาก
พวกเราได้เห็นเหตุการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในสก็อตแลนด์ ไม่นานก่อนหน้านี้ในเกมส์ระหว่างเรนเจอร์สกับเซลติก ผมคิดว่ามันมีการแจกใบเหลืองและไล่ออกเป็นโหลๆ
มันเหมือนกับว่าพวกนักเตะรู้สึกว่าพวกเขาจะต้องถูกใบเหลือง ,โดนไล่ออกหรือโจมตีผู้ตัดสินเพื่อโชว์ต่อแฟนบอลว่าพวกเขาจริงจังและมีส่วนร่วมกับเกมส์ แต่นั่นมันไม่เกี่ยวอะไรกับฟุตบอลเลย
ในตอนที่เราลงแข่งกับเรอัล มาดริดในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลนี้ ปีเต้อร์ เคร้าช์ถูกไล่ออกตั้งแต่ต้นเกมส์โดยการถูก 2 ใบเหลือง
หลังจากนั้น เมื่อนักเตะเรอัล มาดริดโดนทำฟาล์วพวกเขานอนเกลือกกลิ้งไปทั่วและยืนขึ้นมาและตรงปรี่ไปเผชิยหน้ากับผู้ตัดสิน
มันไม่ใช่ฟุตบอล มันเหมือนกับว่ามันเป็นรายการมวยปล้ำ WWE ที่คุณเห็นจากอเมริกาโดยการแกล้งเจ็บ
ผมคงจะผิืดหวังอย่างมากหากนักเตะของผมไปมีส่วนร่วมอะไรกับเรื่องแบบนั้นระหว่างเกมส์การแข่งขัน ผมจะไม่ไปมีส่วนร่วมด้วยและผมคงจะบอกนักเตะของผมให้ใจเย็นลงและเล่นเกมส์ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้
แต่ผมคิดว่ามันมีสิ่งที่เป็นปกติวิสัยในการหน่วงเหนี่ยวเรื่องแบบนี้ไว้ที่นี่ แฟนบอลอังกฤษได้รับการชื่นชมจากทั่วโลกสำหรับบรรยากาศที่พวกเขาสร้างขึ้นในสนาม
แน่นอนว่ามันดุเดือด และไม่ได้ดีเยี่ยมเสมอ แต่ผมไม่เชื่อว่าเหล่าแฟนบอลที่กระตือรือร้นของแต่ละทีมจะแฮปปี้ที่ได้จ่ายเงินเพื่อเข้ามาดูอะไรแบบนี้ที่เกิดขึ้นในสเปนหรอกนะ
พวกเรามีเกมส์ดาร์บี้ แมทช์ยักษ์ใหญ่กับอาร์เซนอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบรรยากาศมันก็ยอดเยี่ยม โดยมีทั้งความดุเดือดและเข้มข้น
แต่ต้องขอบคุณอย่างมากที่มันไม่มีการลดต่ำลงไปเหมือนเรื่องน่าตลกเหมือนที่เกิดขึ้นในหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดในโลกซึ่งมันควรจะเป็นเกมส์ที่เล่นรายการแชมเปี้ยนส์ ลีกรอบรองชนะเลิศ มันบ้ามากๆ
ไฮไลท์หนึ่งเดียวคือประตูที่สองของลีโอเนล เมสซี่ มันเป็นประตูที่ยอดเยี่ยมจากนักเตะที่ดีที่สุดในโลก เราเห็นอะไรมากกว่านั้นไหม ?
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันมันจบลงแล้ว มาดริดไม่มีทางกลับมาได้ และชาลเก้เองก็เช่นกัน
ฉะนั้นแล้วมันจะเป็นรอบชิงชนะเลิศระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและบาร์เซโลน่า และผมพนันได้เลยว่าคุณจะไม่ได้เห็นพวกสเปนทำอะไรเหมือนกับเมื่อวันพุธ ตอนที่พวกเขาไปเล่นที่เวมบลี่ย์ในวันที่ 28 พฤษภาคมหรอก
คุณมั่นใจได้เลยว่า 99 จาก 100 ครั้ง พวกเขาเล่นฟุตบอลแบบกระชากลมหายใจ - แนวทางที่ผมต้องการจะเห็นและแนวทางที่มันควรจะเป็น
เกมส์เมื่อคืนวันพุธ มันเป็นเพียงแค่ 1% เท่านั้น
ตอนที่เปเ้ป้ของเรอัล มาดริดโดนไล่ออก ดาเนี่ยล อัลเวสกลิ้งเหมือนกับเขาโดนขวานจามและกำลังจะตาย หลังจากนั้นเขาก็กระโดดเหยงขึ้นมาและไม่เป็นอะไรเลย ผมรู้สึกเศร้าใจอย่างแท้จริงกับสิ่งที่ได้เห็น
แม้กระทั่งผมนั่งในห้องนั่งเล่นเฝ้าดูพวกเขา การพุ่งบางครั้งทำให้ผมรู้สึกขายขี้หน้าไปด้วย
พวกเรามีเหล่านักเตะที่ต้องการเปหามออกจากสนาม เหมือนกับว่าอาชีพการค้าแข้งของพวกเขาจบลงแล้ว หลังจากนั้นพวกเขาก็กระโดดเหยงขึ้นมาและต้องการกลับไปลงสนามให้ได้รวดเร็วที่สุด
นักเตะวิ่งไปไล่กดดันกรรมการ เพื่อต้องการให้ฝั่งตรงข้ามได้รับการลงโทษ มันเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมากในความคิดของผม
บางทีผมคงคาดหวังมากเกินไป ที่จะได้เห็นฟุตบอลทุกๆเกมสืลงเล่นภายใต้บรรยากาศที่ดีที่สุดโดยทีมที่แข่งขันกันทำสิ่งที่ถูกต้อง บางทีผมคงจะโรแมนติกเกินไป
อังกฤษไม่ใช่สถานที่ที่ยอดเยี่ยมและอบอุ่นสำหรับเหล่านักเตะที่จะจ่ายบอลไปรอบๆ และยิ้มแย้ม ไม่ใช่แน่นอน
พวกเรากำลังจะทำให้โลกนี้ได้เห็นเกมส์ที่น่าดูที่สุดในโลกใบนี้ในเกมสืที่ฟุตบอลจะกลับมายังบ้านเกิดในสนามเวมบลี่ย์เดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม คุณจะไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่พวกเราได้เห็นในสัปดาห์นี้ บางทีจากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว อังกฤษยังคงสามารถสอนอะไรให้โลกนี้ได้เรียนรู้อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเรื่องกับฟุตบอล...
บทความนี้เขียนโดยแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ผู้จัดการทีมท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สเกี่ยวกับมุมมองของเขากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศึกเอล กลาสิโก้ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบรองชนะเลิศเลกแรก
<object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ygmGIFz_EP0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/ygmGIFz_EP0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>
เครดิต ss คร๊าบบบ












