
1934 คืนแห่งการลุกฮือ ที่เยอรมัน มีการลุกฮือของฝูงชน บุกทำลายล้างยิวในทุกๆที่ ของเยอรมัน

ห้างร้านของยิวถูกทำลาย

คนยิวถูกบังคับให้อยู่อย่างเสียศักดิ์ศรี เช่นต้องทำงานบริการ ขัดพื้นที่สาธารณะ

ต้องติด ดาวดาวิด แสดงสัญลักษณ์ ว่าเป็น คนยิว

เวลาเดินเจอคนเยอรมัน ต้องหลีกทางให้ ไม่ก็ทำความเคารพ กระนั้นก็ยังโดน กลั่นแกล้ง ต่างๆ นาๆ อยู่ดี

พระยิวที่ไว้หนวดเครา ถูกกลั่นแกล้ง โกนหนวดกลางที่สาธารณะ

โดนกวาดต้อนเข้าไปอยู่ เขตเฉพาะชุมชนชาวยิว

สภาพในชุมชน ชาวยิว นั้น บัดซบ หลายคนจนกรอบ และหิวโซ ป่วยหนัก คนที่ทนไม่ไหว ก็ค่อยๆตายไป

คนยิวโดนกวาดลงรถไฟซึ่งแม้แต่ที่ยืนก็ยังไม่มี

แล้วถูกปล่อยลงค่ายกักกันต่างๆทั่วยุโรป

ผ่านการแยกชายหญิง

ผ่านการ ฆ๋าเชื้อ ก่อนเข้าค่ายกัักกัน โกนหัวกันเห็บหมัด และใส่เสื้อฆ่าเชื้อใหม่ทั้งหมด

ส่วนพวกที่ทนความแออัดใน รถไฟไม่ไหว ก็ตายๆ กันไป ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องที่โชคดียิ่งกว่าก็ได้ สำหรับสิ่งที่รอเขาอยู่ข้างหน้า

ชีวิตยิวใน ค่ายกักกัน การถูกใช้แรงงานเป็นเรื่อง รองๆมาจาก การทรมานและสังหารโหด เริ่มต้นการสังใช้การยิงเป้าเป็นหลัก ต่อๆมา ฮิมเลอร์บอกว่ามันเปลืองกระสุนเกินไป ในรูปหลังการยิงเป้าลงหลุมหมู่ พวกนาซีไปตรวจหาผู้รอดชีวิต

แก็ซที่ใช้คือ cyclon-B ซึ่งฮิมเลอร์พอใจผลของมันมาก

คนตายจากก็าซพิษน่าสยดสยอง เนื่องจากก๊าซพิษจะค่อยๆลอยขึ้นข้่างบน ผลคือ คนที่อยู่ในห้องรมก็าซจะตะเกียดตะกายเหยียบกันเอง!! แล้วคนที่อยู่บนสุดของกองศพในห้องรมก๊าซ ก็ตายเหมือนเดิมอยู่ดี

ตอนแรกการจัดการศพก็ใช้การฝัง พอศพชักเยอะฝังไม่ทัน ก็เผามันแทน

เผาบนพื้นชักไม่ทัน ต้องสร้างเตาเผาศพขึ้นมาต่างหากอีก

นักโทษในค่ายกักกัน ส่วนใหญ่หิวโซ อาหารที่เขาได้กินประจำคือ ชุบน้ำข้าว ทีี่่รสชาติห่วยแตกกว่าน้ำล้างจานเสียอีก


ความแออัดยัดเยียดในคุก หลายครั้งที่มีการตบตีกันแย่งที่นอน เพียงเพื่อให้เหยียดขาได้อีก สักคืบแค่นั้นเอง

รูป การทดลองเกี่ยวกับชีวิตคน กับ สภาพแรงกดอากาศ ต่างๆ

การทดลองเกี่ยวกับการติดเชื้อโรคผิวหนังอย่างหนึ่งซึ่ง ในชีวิตจริงๆ หายากสุดๆ ถ้าไม่อยู่ในสภาพที่ โครตโสโครกจริงๆ

สภาพรั้วติดกระแสไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งพวกนักโทษชอบฆ่าตัวตายด้วยการวิ่งไปชนบ่อยๆ

วันที่ จักรวรรดิ์ ไรซ์ ใกล้จะจบสิ้น มีการเคลื่อนย้าย นักโทษ เข้าไปในดินแดนเยอรมันขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการเดินเท้า ใครทนเดินไม่ไหว ขาสั่น หรือ แค่เดินแตกแถว ก็ ตายสถานเดียว!! ยิวที่เห็นภาพพวกนี้ตลอดทางต้องกันฟันเดินมันต่อไปเท่านั้น

และแล้ววันหนึ่ง พวกยิวก็ตื่นขึ้นมาในค่ายกักกัน.... ไม่มีผู้คุม.. ไม่มีเสียงแตรปลุกตอนเช้า.. ไม่มีทหารเยอรมัน.. และแล้ว กองทัพอเมริกัน ก็เข้ามา..

หลายคน ช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไรซืที่ 3 ล่มสลายแล้ว ..พวกเราเป็น อิสระ!!!!

หลายคนโผกอดกัน บ้างก็ร้องไห้ บางคนก็ฆ่าตัวตาย..

พวกนักโทษไปชี้ตัวพวกอดีตผู้คุมได้ ภายได้การดูแลของกองทัพอเมริกัน

พวกอดีตผู้คุมเหล้่านี้ พวกอเมริกันมัก ฆ่าทิ้งทันที่จับได้ เพราะ ในรูปพวกทหาร SS โดนลากออกมาจากฝูงชน ทำให้อับอาย ก่อนเอาไปยิงทิ้ง

แรกๆคนเยอรมันก็เกลียดพวก ไอ้กัน พวกไอ้กันก็ เชิญชาวเมืองใกล้ ค่าย เบลเซ่น ไปดูค่ายกักกัน ตอนแรกหลายคนแต่งชุดทหารเต็มยศ หลายคนก็ใส่เข็มกลัด พรรคนาซี พอเห็นภาพพวกนี้ พวกเขาคว้างพวกสัญลักษณ์นาซีทิ้งหมดเลย

แว่นตาของผู้โชคร้ายที่ถูกรมแก๊ซที่ ค่าย เอาสวิตท์

มีคนถามว่า ทำไม รอดชีวิตแล้วยังเสือกฆ่าตัวตายอีก .. ถ้าวันนึงคุณรอดชีวิตจากเหตุการณ์ื.. ที่คนทีุ่ณรู้จักทุกคนในโลกนี้ตายหมด เหลือแค่คุณคนเดียวไม่เหลืออะไรติดตัวเลย... คุณจะเอาไงกับชีวิต .. ตูว่าต้องมีสักคนแหละที่เลือกฆ่าตัวตาย

คนที่เคยอยู่ค่ายกักกันทุกคนจะถูกสักเลข เหมือนวัวเหมือนควายแบบนี้แหละครับ ยิวทุกคนจะถูกเรียกด้วยแค่ หมายเลขนี้ ไม่มีชื่อ ไม่มีค่าความเป็นคนต่อไป บางคนรอดชีวิตไป แต่งงานดูเหมือนจะมีความสุข อยู่ๆไปก็ฆ่าตัวตายเพราะทนอดีตที่ตามหลอกหลอนไม่ไหวอยู่ดี

จบล่ะ ท้ายสุดขอให้ทุกอย่างที่อยู่รูปนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายในโลก..
โปรดเช็คสิ่งของ ของท่าน ก่อนออกจากโรงภาพยนต์ ขอบคุณครับ 55555

ปล. ขอบคุน ที่เข้ามาชมนะครับ ผมพยายามหาเรื่องดีๆ แปลกๆ ที่เป็นความรู้ มาให้อีกนะครับ