
สวัสดีชาวเรดอาร์มี่แฟนคลับทุกท่าน
ห่างหายไปนานกะว่าจะหยิบมาเล่นให้ฟังกันตอนหนังเข้าใหม่ๆ แต่เพิ่งมีโอกาสได้เข้าไปดู หนังก็เข้าโรงไป 5 วันแล้ว (แต่คงไม่สายเกินไปอิอิอิ)
ภาคนี้หลังจากที่ได้มีเวลาเข้าไปดูด้วยตัวเอง (ฟังคนอื่นมาซะนาน) บอกได้คำเดียวว่ามันส์และสนุกในระดับดี
เริ่มเรื่องหนังก็ทำให้คนดูลุ้นกันตั้งแต่ต้น หลังจากพระเอก ดอมินิก (ดีเซล) โดนจับตัวกำลังส่งเข้าคุก
ด้านน้องสาว มีอากับแฟนอดีตตำรวจ โอคอนอร์ (พาร์คเกอร์) ตามเข้าไปช่วยชิงตัวออกมา อย่างวินาศสันตะโร
หลังจากช่วยพระเอกออกมาทั้งสามคนร่วมกันทำงานภาระกิจชิงรถบนขบวนรถไฟ (ที่ทำเพราะกลัวอดตายกันหลังน้องสาวพระเอกท้องกับโอคอนอร์)
แต่ด้วยบังเอิญที่ภาระกิจนี้ล้มเหลว ชิงรถได้เพียงคันเดียวโดยน้องสาวพระเอกเป็นคนขับไป แต่พระเอกกับแฟนหนุ่มต้องถูกจับตัวไป สุดท้ายก็หนีได้ตามระเบียบ
แต่แม้ภาระกิจจะไม่สำเร็จเท่าที่ควรแต่ภายในรถที่ขโมยมา กลับมีสิ่งล้ำค่าคือข้อมูลแหล่งการโจรกรรมรถของนักธุรกิจชาวบราซิล เรอีส
เมกกะโปรเจคยักษ์จึงอุบัติขึ้น พร้อมกับบรรดาขาโจ๋วัยจ๊าบจากภาคก่อนๆที่พระเอกกับโอคอนอร์รู้จักมักจี่กัน ดึงมาร่วมวงภารกิจบ้าระห่ำครั้งนี้
แต่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิด กว่าจะได้เริ่มแผนการปล้น ทั้งโอคอนอร์ ดอมินิกและมีอา ต้องหนีการไล่ล่า
จากทั้งกลุ่มลูกน้องของรเอีสและกลุ่มตำรวจนักปราบนำขบวนโดยฮอบส์ (เดอะร็อค)
กว่าจะผ่านขั้นตอนก่อนโจรกรรมตู้เซฟของเรอีส ที่ฝากไว้ในกรมตำรวจ ก็หนักหนาสาหัสพอตัว
ที่ต้องหารถที่วิ่งได้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้กล้องวงจรปิดสุดล้ำยุคทั้งสามตัวจับภาพได้
ซึ่งพอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเตรียมตัวออกไปทำภารกิจอยู่แล้วนั่น ฮอบส์นำทีมบุกไล่ล่าดอมินิก โอคอนอร์และมีอาถึงในรังเลยทีเดียว
และสุดท้ายทั้งสี่คน (ตอนนี้มีวินซ์คนในกลุ่มเดิมภาคก่อนของดอมินิกกลับมาร่วมอีกคน) ก็ถูกจับโดยละม่อม
ระหว่างทางที่จะพาตัวนักโทษย้ายข้ามดินแดน ทีมตำรวจนักปราบดันต้องไปจ๊ะเอ๋กับลูกน้องของเรอีสพ่อค้าผู้โหดเหี้ยม
ช่วงนี้หนังเลิกจับพวงมาลัยรถหันมาจับปืนสาดกระสุนใส่กันไม่ยั้ง ตายกันเป็นเบือ
ลูกน้องฮอบส์ (เดอะร็อค) ตายเกือบหมดเหลือรอดเพียงตำรวจสาวมือใหม่ และฮอบส์ได้รับการช่วยเหลือจากดอมินิก
จนเหตุการณ์กลับตาลปัตร ฮอบส์ได้ช่วยเหลือดอมินิกในการขโมยเซฟ
เพียงแต่จุดหมายต่างกันฮอบส์เพียงต้องการแก้แค้นแทนลูกน้องที่ต้องตายด้วยฝีมือเรอีส
ตอนนี้แผนการทุกอย่างที่เคยวางแผน ไม่จำเป็นอีกแล้ว บุกซึ่งๆหน้าโดยรถหุ้มเกราะของฮอบส์พุ่งเข้าชนกำแพงพังทลาย
คราวนี้ก็ถึงทีของสองพระเอกหนุ่ม ดอมินิกกับโอคอนอร์ในการโชว์ซิ่ง เร็ว แรง แซงนรก
ตอนสุดท้ายแม้จะจัดการกับเรอีสและเหล่าลูกน้องได้ แต่ภารกิจในตอนนั้นล้มเหลว
ดอมินิกกับโอคอนอร์จำต้องทิ้งตู้เซฟใบนั้นเอาไว้ให้กับตำรวจมือปราบฮอบส์ ที่ตอบแทนครั้งได้ดอมินิกช่วยไว้เมื่อคราวโดนลูกน้องเรอีสถล่ม
โดยฮอบส์ ให้เวลาพวกดอมินิกหนีเป็นเวลา 24 ชม. ก่อนจะตามไล่ล่าในวันถัดไป
หนังเหมือนจะหลอกคนดูว่าดอมินิกถอยกลับโดยยอมทิ้งตู้เซฟเงินร้อยล้านเอาไว้ง่ายๆ
แต่หากใครสังเกตุและจำได้ถึงตอนซักซ้อมแผนการก่อนการโจรกรรมนั้น มีตู้เซฟอีกอันที่สั่งทำมาเหมือนกันอย่างกับแกะ
และเมื่อถึงตอนนี้และใครจำตู้เปล่าใบนั้นได้ จะเริ่มจับสังเกตุได้ทันที่
เมื่อฮอบส์ชักสงสัยตู้เซฟใบนั้นที่ดอมินิกยอมทิ้งไปง่ายๆทั้งๆที่ เสี่ยงแทบตายเพื่อให้ได้มันมา
ถูกต้องตู้ใบนั้นที่ดอมินิกลากมาสักพักใหญ่ๆนั้น คือตู้ปลอมเลียนแบบ ส่วนตู้จริงหนังจะพาไปเฉลยถึงช่วงสับเปลี่ยนตู้
ทั้งๆที่ผมก็คิดไม่ออกว่าจะเปลี่ยนกันตอนไหน พอมาเฉลยก็ถึงบางอ้อเลย (แหมทำกันได้นะ)
*โดยส่วนตัวของผม แม้จะติดในภาพเดิมๆ ของเดอะฟาสต์ภาคก่อนๆ ที่เน้นแข่งรถและก็เน้นรถสวยๆ
แต่ภาคนี้คาดว่าผู้กำกับหนังคงอยากให้ตัวหนังแตกต่างออกไปจากเดิมบ้างนิดหน่อย
ที่เน้นการไล่ล่าระหว่างผู้ร้ายกับตำรวจบนท้องถนน ที่น่าจะสะใจกว่าวิ่งทางแคบๆ (ได้อารมณ์เหมือนกำลังเล่น need for speed most wanted เลย)
แต่หนังยังคงคอนเซ็ปเดอะฟาสต์เอาไว้บ้าง ยังมีช่วงพาไปสัมผัสกับสนามแข่งรถ ตามแผนการในภารกิจโจรกรรมตู้เซฟ
และอีกช่วงตอนบรรดากลุ่มพระเอกท้าปะลองความเร็วหลังจากไปโฉบรถตำรวจสุดแรงมาได้ 4 คัน เพื่อภารกิจ
แต่โดยรวมหนังทำออกมาได้ดี อารมณ์คงเดอะฟาสต์อาจจะจางลงไปบ้างแต่ความมันส์และลุ้นระทึกยังคงเต็มเปี่ยมเช่นเคย
ไม่เสียดายเงินแน่นอนถ้าเลือกเข้าไปดูในโรงหนัง
แต่ผมเสียดายอยู่อย่างเดียว คือช่วงท้ายตอนจบ ที่ขึ้นบอกว่าบทสรุปมันส์ยังรออยู่ จนกว่าจะจบเครดิต
แต่ไปกับแฟนแล้วแฟนไม่อยากรอ ไอ้เราก็อยากดู เออ! กลับก็ได้ฟร่ะ555+ (ไม่กล้าหือ) ไม่เป็นไรรอแผ่นดีวีดีแท้ออกค่อยไปซื้อมาดูใหม่อีกรอบ555+
โปรเจคต่อไป คือ ไพรเรท 4 ที่คราวนี้ยังไงต้องหาเวลาไปดูช่วงแรกๆที่หนังเข้าให้ได้ แม้จะต่อแถวกันนานแค่ไหน