โดย akillis » เสาร์ มิ.ย. 04, 2011 13:59
นายทวาร
โทมัส คุสแช็ค - ตลอดระยะเวลาที่ได้เฝ้าเสาอาจจะมีช่วงที่เล่นดีติดต่อกันบ้าง และช่วงหลุดเหวอๆ บ้าง ซึ่งความสม่ำเสมอในการเล่นสำคัญมากกับการตัดสินใจของป๋า แม้ช่วงที่น้าซาร์บาดเจ็บไปพักใหญ่ๆ คุสแช็คสามารถทำผลงานได้ดี แต่อย่างที่เห็นว่าเมื่อน้าซาร์กลับมาก็ยากจะสอดแทรกขึ้นไปได้
ฟอร์มระยะหลังๆ ของคุสแช็คจึงทรงๆ ทรุดๆ เรื่อยมา บางกระแสข่าวก็ว่าคุสแช็คจะอยู่สู้ต่อ บางแหล่งก็ว่าคุสแช็คจะย้าย โดยมีเวสบอร์มจะเซ้งกลับไปใช้งานต่อ ในสนนราคา 4 ล้าน
อันเดอร์ส ลินเดการ์ด - หลังจากมาร่วมทีม แต่ยังไม่มีโอกาสลงเล่นโชว์ฟอร์มสักเท่าไหร่ แม้จะไม่ก่อความผิดพลาดตอนได้โอกาสแต่ก็ยังไม่สร้างความประทับใจสักเท่าไหร่ คงต้องรอดูกันต่อไปสำหรับฟอร์มนายทวารจากแดนโคนมผู้นี้
เบน เอมอส - นายทวารดาวรุ่งจากรั้วอะคาเดมี่ เต็มที่คงได้เป็นเพียงมือที่สามและมือหนึ่งในทีมสำรองเท่านั้น โอกาสถูกปล่อยไปฝึกฝีมือกับทีมอื่นก็มีเยอะ
กองหลัง
เนมันยา วิดิช - กัปตันภูผาเหล็กคงไม่ต้องอธิบายใดใดอีกแล้ว แม้วัยจะร่วง 30 แล้ว แต่คงเป็นกำลังหลักอีกหลายปีอาจจะอยู่จนแขวนเกือกที่นี่หรือย้ายไปแขวนเกือกที่บ้านเกิด
ริโอ เฟอร์ดินาน - คู่หูพาร์ตเนอร์กับวิดิชที่เข้ากันอย่างหยินและหยาง แม้จะเป็นตัวหลักที่ขาดไม่ได้ แต่อายุที่ย่าง 33 ปีแล้ว ร่างกายไม่สามารถรับแรงกระแทกจากบอลอังกฤษได้ดีกว่าสมัยวัยรุ่น อาการเจ็บหลังเรื้อหลังอาจจะฉุดให้ฟอร์มของปากเป็ดดร็อปลง เหมือนที่เคยเกิดกับ แกรี่ พัลลิสเตอร์ คู่หูของสตีฟ บรู๊ซ
ราฟาเอล,ฟาบิโอ ดาซิลวา - ดูโอกาแฟคู่นี้มีโอกาสจะแย่งตำแหน่งที่แบ็กขวามีสูง หรือป๋าอาจจะเลือกฟาบิโอลงเล่นด้านซ้ายแทนเอฟร่าในอนาคตได้เช่นกัน แม้ทั้งคู่จะแข็งแกร่งและดุดันขึ้นกว่าตอนสมัยมาใหม่ๆ แต่ด้วยความเขี้ยวลากดินของกองหน้าและปีกระดับโลก บางครั้งความมุ่งมั่นจนเกินเหตุของดูโอกาแฟมักแลกด้วยใบเหลืองอย่างไม่จำเป็น แต่ต่อไปทั้งคู่คือกำลังหลักของสโมสรในระยะยาวแน่นอน
พาทริซ เอฟร่า - อายุที่ย่างเข้าสู่เลขสาม มักเป็นธรรมดาที่ความคล่องตัวและเรี่ยวแรงอาจจะเทียบกันตอนหนุ่มๆ กว่านี้ไม่ได้ แม้การลากเลื้อยเติมเกมส์รุกจะยังมีให้เห็นเสมอ แต่พักหลังๆ เริ่มไม่ดุดันเท่าเก่าอีกแล้ว แต่การต่อสัญญาออกไปย่อมรับประกันได้ว่าเอฟร่าจะช่วยเกมส์ทางฝั่งซ้ายต่อไปอีกอย่างน้อยๆ 2-3 ปี ก่อนกลับบ้านฝรั่งเศสเกิดช่วงโค้งสุดท้ายก่อนแขวนเกือก
โจนาธาน อีแวนซ์/ คริสโตเฟอร์ สมอลิ่ง - ทั้งคู่คือกำลังหลักของแมนยุในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัยและสไตล์การเล่นของทั้งคู่เหมือนๆ จะลอกต้นฉบับของ คู่ริโอกับวิดิชไม่ผิดเพี้ยน เพียงแต่เรื่องความเก๋าและการชิงจังหวะสำคัญๆ ก่อนกองหน้าคู่แข่ง ต้องเรียนรู้กันอีกเยอะก็ตาม โดยโอกาสขึ้นชุดใหญ่ของสมอลลิ่งอาจจะมีมากกว่าอีแวนซ์เนื่องด้วย ริโออาจจะลงเล่นได้ไม่สม่ำเสมอในอนาคต
จอห์น โอเช - นี่คือกองหลังที่ป๋ามักเก็บไว้ในทีมเสมอเพราะเล่นได้หมดทั้งขวา ซ้าย เซ็นเตอร์ กลางรับ หรือแม้แต่นายทวารจำเป็นก็เคยลองมาแล้ว
และความสารพัดประโยชน์ตรงนี้นี่เองที่ป๋าต้องเลือกเก็บไว้ และอายุยัง 29 พออยู่ช่วยทีมได้อีกนานหลายปี ถ้าป๋าส่งลงเล่นบ่อยๆ โอเชก็คงไม่อยากย้ายและอยากแขวนเกือกกับแมนยูทีมที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1998 (13ปีแล้วหรือเนี่ยไม่น่าเชื่อ)
เวสลี่ย์ บราวน์ - แม้บางช่วงที่เจ้าน้ำตาลจะเล่นได้ดีในตำแหน่งแบ็กขวาแต่ยังไม่ดีพอจะยึดตำแหน่งนี้ถาวร ยิ่งพอเจ็บไปนานกลับมาก็โดนแม้แต่โอเชแย่งพื้นที่ตรงนั้นไปครอง ที่สำคัญพักหลังๆ บราวนืมักโต้เถียงกับป๋าเสมอๆ และแม้สัญญาของบราวน์จะหมดในปี2012ก็ตาม แต่ถ้าเก็บไว้โดยไม่ใช้งานกับค่าเหนื่อย 46,000 /สัปดาห์ คงเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองพอสมควร และทีมซันเดอร์แลนด์พร้อมมารับช่วงที่ 6 ล้าน
ดาวรุ่งอย่าง ริทชี่ เดอลาเอ้ท์ / คอรรี่ อีแวนซ์ / โอลิเวอร์ กิลล์ /สก็อต วูดตั้น คงเป็นได้เพียงตัวหลักในทีมชุดสำรองเท่านั้น (โดย เดอลาเอ้ท์ ปอร์ทสมัธติดใจอยากได้ไปใช้ถาวร)
แดนกลาง
ดาเร็น เฟล็ทเชอร์ - คือตัวหลักแน่นอนหนึ่งตำแหน่งในฐานะผึ้งงานช่วยเกมส์รับ แม้จะไม่เสียบดุดันหรือคุมจังหวะเกมส์ได้เฉียบขาดเท่าฮาร์กรีฟ แต่บ่อยครั้งที่มีเฟล็ทในสนามเพื่อนๆ คนอื่นๆ มักวางใจและเล่นเกมส์รุกได้แบบสบายใจ และป๋ามักชื่นชอบสไตล์แบบเฟล็ทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คาดว่าเฟล็ทคงอยู่ยันแขวนเกือกแน่นอน (ถ้าไม่ไปหาเรื่องป๋าซะก่อน)
ไมเคิล คาริก - แม้ความโดดเด่นของคาริกจะมีไม่มาก แต่บ่อยครั้งที่แดนกลางแมนยูมักได้ประโยชน์จากการเล่นของคาริก และในทีมแมนยูไม่มีตัวโฮลด์บอลได้ดีกว่าคาริก การวางบอลยาวแม้จะขาดความเฉียบขาดลงไปบ้าง แต่บ่อยครั้งที่สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้
กับการเล่นที่ปลอดภัยแน่นอน ไม่ยอมเสี่ยงโยนยาวพร่ำเพรื่อ อาจจะทำให้กองเชียร์แมนยูดูอึดอัดกับเกมส์รุกที่ไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่
แต่คาริกยังมีประโยชน์กับแมนยูมากเสมอในการลุยบอลพรีเมียร์
โอเว่น ฮาร์กรีฟ - สัญญาจะหมดลงซัมเมอร์นี้และไม่มีวี่แววจะต่อสัญญา เพราะสภาพร่างกายที่เปราะและเจ็บง่ายเกินไปของฮาร์กรีฟ แม้ปีแรกจะเล่นดีช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ แต่การลงเล่นโดยฝืนอาการบาดเจ็บรวมไปถึงฉีดยาแก้ปวดเสมอๆ จนร่างกายรับไม่ไหวในปีต่อมา
อีกทั้งพักยาวไปนาน ร่างกายคงไม่ทนกับเกมส์ปะทะแรงๆอย่างพรีเมียร์อีกแล้ว ถ้ายังฝืนลงเล่นต่ออาจจะบาดเจ็บยาวและพิการได้ในอนาคต
(แม้ยังคาดหวังจะเห็นฮาร์กรีฟหายเจ็บเป็นปลิดทิ้งลงเล่นต่อได้ก็ตาม แต่คงยากมากๆ)
ริชาร์ด แอนเดอสัน - แม้จะเล่นเป็นตัวรุกได้ดี แต่ระบบแมนยูมักให้กลางสองคนมีส่วนกับเกมส์ทั้งรุกและรับ แม้แอนจะทำได้ดีในระดับที่น่าพึงพอใจ ด้วยการจ่ายบอลเรียดแบบกล้าได้กล้าเสีย รวมไปถึงความขยันทุ่มเท ไม่เกรงกลัวถ้าต้องเข้าปะทะหรือแย่งบอล
แต่ทีเด็ดการยิงไกลยังคาดหวังไม่ได้ ต้องปรับกันอีกเยอะ แต่นี่คือตัวหลักในอนาคตแน่นอน
ดารอน กิ๊บสัน - กองกลางจอมยิงไกลหลายปีก่อนป๋าบอกกับกิ๊บสันว่า ถ้าอยากย้ายทีมก็อนุญาติให้ย้ายได้เพราะโอกาสลงเล่นแทบไม่มี แต่กิ๊บสันลั่นวาจาขอสู้ต่อ และเมื่อมีโอกาส (สามปีที่แล้ว) กลับทำได้ดีและได้ต่อสัญญาจนถึงปี 2012 แต่พักหลังๆ ฟอร์มการเล่นเริ่มดาวน์ลงไปมาก ทีเด็ดการยิงไกลเริ่มห่างไกลขึ้นเมื่อคู่แข่งจับทางได้ บวกกับสไตล์ที่ไม่ดุดันหรือดูเอื่อยๆเวลาลงเล่น โอกาสที่ป๋าจะพิจารณาปล่อยตัวก็มีสูง (เพราะเคยจะปล่อยอยู่แล้ว) ทีมซันเดอร์แลนด์พร้อมคว้าไปเสริมทีมที่ 6 ล้าน
กาเบรียล โอแบร์ตอง - หลังจากมาร่วมทีมสร้างความมึนงงพอสมควร แต่โอกาสแจ้งเกิดยังไม่มี เพราะโอกาสลงเล่นไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่โอแบร์ตองยังทำได้ไม่ดีพอจะเป็นกำลังหลักของทีมได้เลย บ่อยครั้งที่ทำจังหวะหรือฝืนเล่นเองจนพลาด
แต่แววปีกจอมลากเลื้อยยังพอมีให้เห็น ถ้ากล้าลาก กล้าลุยและตามจังหวะเกมส์ของเพื่อนให้ทัน น่าจะสร้างประโยชน์ได้มาก แต่ต้องอยู่ที่ป๋าว่าจะทนปั้นต่ออีกไหมหลังจากปั้นมาเข้าสู่ปีที่สามแล้ว (ถ้าเกินสามปีป๋ามักปล่อยตัวเสมอ) ยังไม่มีทีมไหนแสดงความจำนงอยากได้ไปเสริมทีมเพราะยังไม่เห็นฟอร์มการเล่นเท่าไหร่ แต่สามน้องใหม่อาจจะขอยืมไปปั้นต่อก็ได้
พาร์ค จีซอง - คาแรกเตอร์ที่ไม่ยอมแพ้และทุ่มเทเสมอ แม้อายุจะ 30 แล้วสัญญาปัจจุบันจะหมดลงปี 2012 แต่ข่าวแว่วๆ มาว่าแมนยูเตรียมต่อสัญญาเพิ่ม อาจจะปีหรือสองปี แต่คาดว่าพาร์คอาจจะกลับไปแขวนเกือกที่เกาหลีใต้มากกว่าที่แมนยู เพราะงั้นโอกาสที่พาร์คจะเล่นให้แมนยูยังมีอีกสองถึงสามปี
ไรอัน กิ๊กส์ - แทบไม่ต้องอธิบายกับตำนานคนนี้ และปีหน้าจะเป็นปีสุดท้ายแน่นอน โอกาสลงเล่นคงมีแค่เกมส์สำคัญๆ และกดดันเท่านั้น ส่วนนัดอื่นๆ คงเป็นนักเตะรุ่นหลานลงเล่นแทน
อันโตนิโอ วาเลนเซีย - แม้จะถูกค่อนขอดว่าเป็นปีกสไตล์โบราณ ที่วิ่งและเปิดอย่างเดียว แต่แมนยูกลับได้ประโยชน์ตรงนี้มากเสมอเพราะการเล่นที่ไม่ยุ่งยากซ้ำซ้อน ทำให้เพื่อนร่วมทีมรู้ว่าวาเลนเซียจะเปิดให้เมื่อไหร่ แต่ถ้าคู่แข่งจับทางและปิดพื้นที่ได้ ความน่ากลัวจะลดลงไปเยอะมาก แต่วาเลนเซียยังมีทีเด็ดที่ร่างกายแข็งแกร่งสามารถเบียดแบ็กเข้าไปเปิดได้ หรือจะลูกยิงไกลที่รุนแรง ถ้าป๋าใช้วาเลนเซียอย่างถูกจังหวะเกมสืรุกแมนยูก็จะน่ากลัว และวาเลนเซียจะอยู่เป็ยตัวหลักอีกนาน
หลุยส์ นานี่ - ปีกจอมพลิ้วหรือปีกอินดี้ที่ทุกๆ คนเรียก แม้จะมีลีลาการเล่นที่เยอะ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถก้าวไปถึงระดับโลกได้ เพราะการตัดสินใจเฉพาะหน้าที่นานี่มักจะทำได้ไม่ดี บ่อยครั้งที่ลากเลื้อย ล็อกหาจังหวะได้ดี แต่จบที่มักเลือกยิงเองและออกมากกว่าเข้าเสมอ
แม้นานี่จะมีประโยชน์ต่อรูปเกมส์ของแมนยู เมื่อไม่สามารถต่อบอลเข้าเขตโทษได้ ปีกอย่างนานี่คือคำตอบของการปลดล็อกจุดนั้น แต่การตัดสินใจในบางจังหวะของนานี่มักทำให้ทีมเสียโอกาสสำคัญๆ เสมอ แม้นานี่จะตัดใจถูกในบางครั้ง แต่การจะเป็นยอดนักเตะระดับโลกต้องรู้จักการใช้ความสามารถของตนเองให้มีประโยชน์กับเพื่อนร่วมทีมเสมอ แม้ยูเว่อยากได้ไปเสริมแกร่ง แต่ถ้าข้อเสนอไม่มากพอ คาดว่าป๋าคงเก็บไว้ใช้งานต่อ
เบเบ้ - เปิดตัวสร้างความมึนงงให้แฟนๆ พอสมควร แม้ลีลาการเล่นจะไม่หวือหวาแต่ด้วยสภาพร่างกาย ที่บึกบึนและแข็งแกร่ง ส่วนสูงที่สามารถขึ้นไปเป็นกองหน้าได้เลย อาจจะทำให้ป๋าและสตาฟท์คิดอยู่เหมือนกันว่าจะปั้นเบเบ้ให้เป็นกองหน้าจอมเวหาดีหรือไม่ หลังจากลงเล่นทีมสำรองมักเป็นกองหน้าริมเส้นเสมอๆ ความเร็วและแข็งแกร่งอาจจะมีประโยชน์มากกว่าจะจับให้เล่นเป็นปีกที่ยังต้องพัฒนาลูกเปิดอีกพอสมควร ป๋าอาจจะปั้นต่ออีกปีสองปี เพราะเพิ่งซื้อเข้ามา และแนวทางที่ดีอาจจะส่งให้น้องใหม่ยืมไปเล่นสังเกตุพัฒนาการต่อไป
โทมัส เคลฟเวอร์ลี่ - หลังจากไปช่วยทีมวีแกนได้อย่างมากมาย กลับมาหนนี้ป๋าจะใช้งานเคลฟเวอร์ลี่อย่างจริงจัง ที่เล่นได้ทั้งริมเส้นและกลาง ที่สำคัญเล่นได้ทั้งสองเท้า (แม้จะถนัดขวามากกว่าก็ตาม) โอกาสของเคลฟเวอร์ลี่จึงมีสูงกว่ากิ๊บสัน โอแบร์ตองและเบเบ้ หลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีตอนปรีซีซั่นครั้งก่อน มาหนนี้ต้องดูกันต่อไปว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักได้ดีแค่ไหน
เด็กผีจากทีมสำรอง อย่าง โอลิเวอร์ นอร์วูด / พอล ป็อกปา /ราเวล มอริสัน / ไรอัน ทันนิคลิฟท์ / แม็ทธิว เจมส์ / ดาวิดเด้ เปรตุซี่ อาจจะถูกส่งออกไปเล่นแบบยืมตัวสักปี เพื่อดูพัฒนาการอย่างรุ่นพี่คนก่อนๆ ถ้าใครทำผลงานดีอาจจะถูกเรียกตัวกลับมาช่วยงานเร็วกว่าเพื่อน
กองหน้า
เวนย์ รูนี่ย์ - ถือว่าเป็นตัวหลักของทีมในการเล่นเกมส์รุก แม้ลีลาการจับบอลสัมผัสบอล อาจจะเทียบกับสุดยอดกองหน้าระดับโลกไม่ได้ แต่ด้วยความขยันและเล่นง่าย ให้เพื่อนเสมอถ้าตำแหน่งเพื่อนดีกว่า ถ้าบอกว่ารูนี่ย์คือทุกสิ่งทุกอย่างในการเล่นเกมส์รุกของแมนยูคงไม่ผิดนัก เพราะสังเกตุได้จากตอนไม่มีรูนี่ย์ แม้ช่วงก่อนหน้านี้จะงอแงอยากย้ายทีม ก็ทุกอย่างเป็นอดีตไปเสียแล้ว ถ้าเจ้าหมูไม่ของขึ้นอีกคงอยู่แมนยูไปอีกยาวนาน แม้ชุดขาวจะลองๆ หยั่งท่าทีของป๋าด้วยการจะขอยื่นซื้อ แต่คงต้องถึง 70-80 ล้าน เท่าโด้ป๋าอาจจะใจอ่อนยอมปล่อย (ในข้อแม้ที่เจ้าหมูอยากไปด้วย)
ฮาเวียร์ เอร์นันเดส - หลังจากย้ายมาร่วมทีม ด้วยความคาดหวังจะเป็นอย่างโซลชา คือเป็นทีเด็ดข้างสนามเท่านั้น แต่ ณ วันนี้เจ้าถั่วน้อยทำได้ดีกว่านั้น
แม้ลีลาการเล่นจะไม่พลิ้ว แต่การเล่นที่เข้าขากับเจ้าหมูรูนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นจอมเข้าออสอันดับหนึ่งของทีม สร้างผลงานดีเยี่ยมแม้เป็นปีแรกที่มาร่วมทีม จนนึกย้อนไปถึงยอดกองหน้าจอมถล่มประตูอย่างพี่ม้า ฟานนิสเตรลอย แต่เจ้าถั่วยังต้องพัฒนาฟอร์มการเล่นต่อไป ที่ต้องฉีกออกให้มากกว่าการเป็นจอมเข้าฮอส ต่อไปต้องสร้างโอกาสยิงประตูได้ด้วยตนเอง
ดิมิทาร์ เบอบาตอฟ - หัวหอกจอมลีลาอันดับหนึ่งของทีมตอนนี้ แม้ช่วงแรกจะเล่นไม่เข้าระบบ แต่พอปรับตัวได้ทุกอย่างก็เริ่มไหลลื่น จนมาสะดุดกับฟอร์มอันร้อนแรงของเจ้าถั่ว ที่เบิปมักต้องหลีกทางก่อนเสมอ จนช่วงหลังมักเสียความมั่นใจไปเยอะ ยิงยังไงก็ไม่เข้าผิดกับก่อนหน้านี่ที่ยิงยังไงก็เข้า
แต่ด้วยความที่พอเล่นเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมรวมไปถึงเจ้าหมูรูนได้ อาจจะทำให้โอกาสเบิปยังพอเปิดกว้างเสมอในตำแหน่งหน้าเป้า เพราะตอนนี้เบิปยังถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับสามจากสองตำแหน่งถือว่าไม่เสียหายอะไร
ไมเคิล โอเว่น - เพิ่งได้ต่อสัญญาช่วยทีมออกไปอีกปี แม้ความเฉียบคมยังพอหลงเหลือ แต่ที่ต้องยอมรับคือความฟิตและความคล่องที่ลดลงไปเยอะมาก โอกาสลงเล่นอาจจะมีจำกัดลงไป แต่ด้วยประสบการณ์อาจจะมีประโยชน์กว่าดาวรุ่งของทีมในตอนนี้
เฟรเดริโก้ มาเคด้า - หลังจากช่วยยิงเซฟแต้มและคว้าแต้มสำคัญๆ เมื่อสองปีก่อน ตอนนี้วี่แววของมาเคด้าเริ่มลดลง จนป๋าเลือกที่จะส่งไปเล่นที่อิตาลี โดยส่งแมวมองตามไปดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่โดยรวมอาจจะยังไม่ถึงขั้นที่ป๋าจะมอบตำแหน่งตัวหลักให้ตอนนี้ ทางเลือกเป็นได้ทั้งสองทางปล่อยยืมอีกปี กับปล่อยถาวร ในเมื่อตอนนี้คู่แข่งอย่างเวลเบ็คทำผลงานได้ดีกว่าหลายก้าว
แดนนี่ เวลเบ็ค - ถูกบรู๊ซปลุกปั้นต่อจากป๋า จนเริ่มเห็นแววบ้าง แต่ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ ด้วยลีลาการเล่นที่รวดเร็วรวมไปถึงการยิงไกลที่ทำได้ดีพอตัว อาจจะเป็นตัวช่วยให้ป๋าเลือกเก็บไว้ใช้งานต่อ เพราะนอกจากกองหน้าแล้วเวลเบ็คยังเล่นริมเส้นได้ด้วย (แต่การเปิดครอสต้องดูกันอีกที)
แต่การที่ป๋าต่อสัญญากับโอเว่นออกไปอีกปี อาจจะเป็นตัวแปรช่วยส่งให้เวลเบ็คย้ายออกไปเพิ่มศักยภาพในตัวกับทีมอื่นอีกปี โดยมีซันเดอร์แลนด์ทีมเดิมอยากได้ไปเล่นต่ออีกปี และนั่นอาจจะเป็นทางออกที่ดี เมื่อปีหน้าโอเว่นก็หมดสัญญา อาจจะรวมไปถึงเบอบาตอฟอีกคน
มาเม่ บิรัม ดิยุฟ - คงต้องย้ายทีม ถ้าไม่สามารถรับบทบาทกองหน้าตัวเลือกที่เจ็ด (ถ้ามาเคด้ากับเวลเบ็คยังอยู่กับทีมต่อ) แต่ถ้าป๋าส่งมาเคด้ากับเวลเบ็คไปเล่นที่อื่นสักปี โอกาสของดิยุฟที่จะเป็นตัวเลือกที่สี่เคียงข้างโอเว่น อาจจะพอมี ในเมื่อดิยุฟมีจุดเด่นที่ความแข็งแกร่ง คล่องตัว รวมไปถึงการเล่นลูกโหม่งที่หาโอกาสได้ดี ถ้ายังไม่มีทีมไหนสนใจ ป๋าอาจจะเก็บไว้ใช้งานต่ออีกปี แต่ถ้ามีอาจจะเลือกปล่อยออกไป โดยแว่วๆ ว่า โมลด์ของยอดซุปเปอร์ซับโชลชา เมียงมองอยู่เหมือนกัน หลังจากมาสอยเอ็กเร่มไปเมื่อต้นซีซั่น
หลังจากผมลิสต์หลายชื่อตัวปัจจุบัน ทำให้มองๆ ดูว่า ถ้าป๋าไม่ปล่อยออกไป คงยากที่จะเสริมทีมเพราะขนาดทีมคงใหญ่เกินไป และพวกค่าเหนื่อยหลายหมื่นต่อสัปดาห์ อย่าง โอแบร์ตอง เบเบ้ กิ๊บสัน บราวน์ คงไม่เหมาะถ้าให้เล่นทีมสำรองต่อไป
และมองๆ ดูขุมกำลัง ที่พอจะเป็นปัญหาคือนายทวาร ที่ยังไม่รู้อนาคตคุสแช็คว่าถ้ามีโอกาสแล้วจะกลับมาเล่นดีไหม ลำพังเหลือลินเดการ์ดคนเดียวคงไม่พอใช้ เกิดบาดเจ็บขึ้นมา เอมอสคงยังไม่แกร่งพอจะรับช่วงต่อได้ โอกาสซื้อหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ป๋าจะให้โอกาสคุสแช็กต่อหรือเปล่า
และกองกลางที่เล่นได้ทั้งรุกและรับ หลังจากสโคลส์แขวนเกือก รวมไปถึงกิ๊บสันที่อาจจะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมต่อ จึงเหลือเพียงคาริก เฟล็ท แอนเดอสัน คงไม่พอสู้ศึกได้ แต่ต้องอยู่ที่ป๋าว่าจะเลือกใช้งานเคลฟเวอร์ลี่ตรงไหน ถ้าแดนกลาง โอกาสซื้อตัวสตาร์อาจลดน้อยลงไป
*ไม่อยากตั้งความหวังเรื่องนักเตะใหม่เลยเมื่อเห็นรายชื่อชุดใหญ่ในปัจจุบัน นอกจากนายทวารเท่านั้นที่อาจจะมีมาเพิ่ม...