เอริค คันโตน่าตำนานเจ้าของฉายา "เดอะ คิง" ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้สัมภาษณ์เผยว่าเขารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดอีกครั้งในการพาทีมนิวยอร์ค คอสมอสมาเตะกับอดีตต้นสังกัดซึ่งเป็นเกมอำลาสนามของพอล สโคลส์
"มันยอดเยี่ยมเสมอที่ได้กลับมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด"
"มันเป็นเรื่องที่พิเศษมากๆสำหรับผมและครั้งนี้มันก็จะมากกว่าเดิมด้วย"
นอกจากนี้คันโตน่ายังพูดถึงการทุ่มเงินคว้านักเตะระดับโลกเพื่อเป้าหมายคว้าแชมป์ของคู่อริร่วมเมืองอย่างแมนน ซิตี้
"ยูไนเต็ดเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด ผมไม่รู้แน่ชัดว่าซิตี้เค้าทำงานกันอย่างไร บางทีพวกเขาอาจจะเน้นพัฒนาระบบเยาวชนด้วย แต่ในวันนี้พวกเขาทุ่มเงินกันอย่างหนักในการสร้างทีม ในการซื้อนักเตะ"
"พวกเขาประสบความสำเร็จแล้วเพราะพวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ"
"แต่หากพวกเขาทำอย่างนั้นอย่างเดียว พวกเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับยูไนเต็ดเพราะว่ายูไนเต็ดทำงานกันแบบระยะยาวโดยปั้นนักเตะดาวรุ่งขึ้นมามากมาย"
"ตอนที่ผมอยู่ที่นี่น ผมลงเล่นกับนักเตะ 2 ยุคด้วยกัน"
"เซอร์อเล็กซ์ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งมากมาย และพอล สโคลส์ก็เป็นหนึ่งในนั้น"
"ถึงตอนนี้ผมมาที่นี่อีกครั้งโดยเวลาผ่านไป 15 นาทีและเจ้านายก็ยังคงอยู่"
"คุณสามารถทดแทนนักเตะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรอย่างยูไนเต็ด โดยมีผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมอย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน"
"ผมออกมา, โรนัลโด้ย้ายออกมา, ฮิวจส์ย้ายออกมา แต่ยูไนเต็ดก็ยังคงเป็นหนึ่งในสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"
นอกจากนี้คันโตน่ายังปฏิเสธข่าวลือในตำแหน่งใหม่ของเขากับคอสมอส นั้นเพื่อเป็นการปูทางสู่เก้าอี้ของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันในอนาคต
"บางทีผมอาจจะตายก่อนอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน!"
"ผมมั่นใจว่าเขาจะอยู่บนเก้าอี้ของเขาไปตลอดกาลเพราะนั่นมันคือชีวิตของเขา"
เตฟ-โอ้สะดุ้ง!ก็องโต้งงพวกปรับตัวไม่ได้คิดอะไรกัน
เอริค คันโตน่าตำนานนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องมาริโอ บาโลเตลลี่และคาร์ลอส เตเบซหัวหอกของแมนฯ ซิตี้ที่ต้องการจะย้ายทีมเพราะไม่มีความสุขในเมืองแมนเชสเตอร์
"กับพวกนักเตะที่ปรับตัวไม่ได้เหล่านี้ มันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามาจากไหน และพวกเขามาทำไม"
"หากพวกเขามาจากมิลาน ก็บางที หากพวกเขามาจาก....ไม่ล่ะ ผมไม่พูดชื่อเมืองดีกว่า แต่ผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่นี่"
"สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมก็คือการลงเล่นให้กับสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกกับนักเตะที่ดีที่สุดในโลก"
"นั่นมันเป็นเรื่องสำคัญเมื่อคุณเป็นนักเตะมืออาชีพ"
"ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่คุณจะมีได้ก็คือยามที่คุณลงสนาม"
"ผมรักแมนเชสเตอร์ ตอนที่ผมอยู่ที่นี่และผมก็รักผู้คนที่นี่ ผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม"
คาสโนป๋า!เฟอร์กี้เลิกคบ'สไนจ์เดอร์'หันจีบ'เกิ๊ทเซ่'แทน
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบรมกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหันกลับมาให้ความสนใจมาริโอ เกิทเซ่เพลย์เมคเกอร์ดาวโรจน์ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์อีกครั้งและพร้อมยื่นข้อเสนอทาบทามทันทีหากพลาดได้เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์จากอินเตอร์ มิลานในซัมเมอร์นี้
เมื่อพอล สโคลส์ตัดสินใจหันหลังให้กับสนามฟุตบอลทำให้ป๋าเฟอร์กี้วุ่นอยู่กับการตามหาจอมทัพคนใหม่มาบงการเกมรุกให้"ปีศาจแดง"และได้กางแผนคว้าเกิทเซ่มาร่วมทีมโดยหวังว่าการที่นักเตะได้เห็นนูริ ซาฮินย้ายออกไปร่วมทัพสโมสรใหญ่อย่างเรอัล มาดริดอาจทำให้อยากเจริญรอยตามบ้าง
เกิทเซ่เป็นกองกลางตัวรุกที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งผู้ร้อนแรงที่สุดในวงการลูกหนังยุโรปยุคนี้จนทำให้เขาตกเป็นที่หมายตาของทีมชั้นนำมากมายรวมไปถึงสองยักษ์จากสเปนอย่างเรอัล มาดริดและบาร์เซโลน่า
ในการลงเล่นเต็มซีซั่นครั้งแรกในทีมชุดใหญ่ของดอร์ทมุนด์เกิทเซ่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมเมื่อกระทุ้งไป 8ประตูบวกกับแอสซิสต์อีก 11 ครั้งจนได้รับการเรียกตัวขึ้นไปติดทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่ในที่สุด
ได้ครับนาย!โจนส์ยันไม่มีปัญหาหากถูกจับเล่นกลาง
ลูกน้องแบบนี้เจ้านายรักใคร่อยู่แล้วหลังฟิล โจนส์ปราการหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยืนยันว่าเขาไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนหากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจะให้เขาเล่นมิดฟิลด์
ดาวเตะทีมชาติอังกฤษชุดยู 21 ย้ายจากแบล็กเบิร์น โรเวอร์สมาสู่โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ดด้วยค่าตัวที่คาดว่าอยู่ที่ 17 ล้านปอนด์แต่กองหลังดาวรุ่งผู้นี้ต้องเจอกับก้างชิ้นโตในการแย่งตำแหน่งอยู่ถึง 2 คนก็คือริโอ เฟอร์ดินานด์และเนมัยน่า วิดิช
โจนส์เชื่อว่าตัวเขานั้นจะเล่นได้ดีที่สุดในตำแหน่งของเซ็นเตอร์ฮาล์ฟแต่เขาก็ยืนยันว่าหากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเจ้านายเขาจะให้ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ก็ยินดีทำตามแน่นอน
"ผมได้ลงเล่นมิดฟิลด์บ่อยนะ แต่ผมเชื่อว่าตัวเองนั้นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คและยังเป็นตำแหน่งที่ผมเล่นได้ดีสุดอีกด้วย"โจนส์บอกกับอินไซต์ ยูไนเต็ด
"ผมชอบที่จะดูเกมตรงหน้าผมและคอยอ่านจังหวะ ตอนอยู่แบล็กเิบิร์น ผู้จัดการทีมมาขอให้ผมเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ มันรู้สึกแปลกๆและทำเอาผมตกใจไม่น้อย"
"ผมต้องใช้เวลาหลายเกมเพื่อปรับตัวเข้ากับบทบาทและตำแหน่งที่ได้รับ หากถูกขอให้ทำแบบนั้นที่นี่ ผมก็พร้อมจะลงเล่นให้"
โจนส์ยังเชื่ออีกว่าตัวเขานั้นจะได้เรียนรู้อย่างเต็มที่จากถิ่นโอลด์ แทร๊ฟฟอร์ดและจะตั้งใจพัฒนาฝีเท้าอย่างเต็มที่แน่นอน
"ในฐานะเซ็นเตอร์แบ็คแล้ว ผมอ่านเกมได้ดี ผมเล่นลูกกลางอากาศได้ดีและยังผ่านบอลได้ดีพอตัวด้วย"
"เหมือนนักฟุตบอลทุกคนน่ะแหละ ผมชอบพัฒนาตัวเองและผมจะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆที่ยูไนเต็ดนี้"
ปิดตายราชัน!ป๋าเร่งปรับปรุงสัญญาถั่วน้อยอยู่ยาว
ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแอบหวั่น เรอัล มาดริด ฉกกล่องดวงใจ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ เตรียมแก้ไขสัญญาฉบับใหม่ผูกพันในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ระยะยาว
"แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์" หนังสือพิมพ์ชื่อดังรายงานหลังหอกดาวรุ่งจังโก้แจ้งเกิดได้อย่างสวยสดงดงามแค่ฤดูกาลแรกซัลโว 20 ประตูทำเอา "ราชันชุดขาว" ที่กำลังตามหาศูนย์หน้าอยู่พอดีจ้องตาไม่กระพริบ
เพื่อความไม่ประมาทแม้ดาวรุ่งวัย 22 ปีย้ายจาก ชิวาส กัวดาลายาร่า มาเล่นที่เกาะอังกฤษเพียงแค่ซีซั่นเดียวแถมยังเหลือสัญญาอีก 4 ปีแต่ป๋าเฟอร์กี้ไม่นิ่งนอนใจอาศัยช่วงที่ "ชิชาริโต้" กำลังพักฟื้นถกอนาคตร่วมกันโดยยินดีปรับปรุงเงื่อนไขรับค่าเหนื่อยมากขึ้นแถมขยายระยะเวลาค้าแข้งยาวกว่าปี 2015
น้าซาร์ตื้นตันแฟนบอล-นักเตะเตะสั่งลายิ่งใหญ่
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ตำนานมือกาวของชาวดัตช์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม สุดซาบซึ้งที่แฟนบอล และเพื่อนร่วมอาชีพค้าแข้ง มาร่วมเกมอำลาวงการของเขาอย่างยิ่งใหญ่ ในเกมเทสติโมเนี่ยล แมตช์ ที่ทีมรวมดาราดรีมทีม ชนะ อาแจ๊กซ์ ไปได้ 2-1 ที่ อัมสเตอร์ดัม อารีน่า วันพุธที่ผ่านมา
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ตำนานจอมหนึบชาวดัตช์ ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวอำลาอาลัย ด้วยความปลาบปลื้มตื้นตันใจ หลังจบเกมเกียรติยศ เทสติโมเนี่ยล แมตช์ ที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ต้นสังกัดแจ้งเกิดของเขา ทำศึกนัดพิเศษ พบกับทีมรวมดารา "ดรีม ทีม" ที่เขาเป็นคนลงมือเลือกนักเตะด้วยตัวเอง ที่สนาม อัมสเตอร์ดัม อารีน่า เมื่อคืนวันพุธที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ฟาน เดอร์ ซาร์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับ อาแจ็กซ์ ปี 1990 ซึ่งเขามีส่วนช่วยคว้าแชมป์ยุโรปปี 1995 ทำให้หลังจากที่ น้าซาร์ อำลาสนามในเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทางต้นสังกัดเก่าจึงจัดเกมเกียรติยศให้ เป็นเกมระหว่าง อาแจ๊กซ์ กับทีมรวมดาราดรีม ทีม ซึ่ง ฟาน เดอร์ ซาร์ เลือกนักเตะเอง ทั้ง เวย์น รูนี่ย์, ไรอัน กิ๊กส์, เดิร์ค เค้าท์, เอ็ดการ์ ดาวิดส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เดนนิส เบิร์กแค้มป์ ขณะที่ก่อนหน้าเกมนี้ มีเกมโชว์ก่อน 1 คู่ ระหว่าง อาแจ็กซ์ ที่มีนักเตะอย่าง แพทริก ไคลเวิร์ต, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส, แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด และ สองพี่น้องเดอ บัวร์ พบกับทีมชาติฮอลแลนด์ ที่มี เบิร์กแค้มป์ กับ โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ นำขบวน
จอมหนึบเจ้าของส่วนสูง 1.97 เมตร ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามช่วงท้ายเพื่อให้แฟนบอลกว่า 53,000 คน ลุกยืนปรบมือ ในเกมที่ ดรีม ทีม ชนะ 2-1 จากประตูของ หลุยส์ ซาฮา และ เบิร์กแค้มป์ โดย ฟาน เดอร์ ซาร์ กล่าวว่า "นี่มันน่าเหลือเชื่อ เป็นสิ่งที่วิเศษ และทำให้ผมซาบซึ้งมาก ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเป็นจุดเด่น การได้รับค่ำคืนเช่นนี้จากทุกคนทำเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ ผมไม่คาดคิดเลยว่าจะมีแฟนบอล และเพื่อนนักเตะมากมายขนาดนี้ คุณรู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรบางอย่างให้ฟุตบอลดัตช์ และ ยูไนเต็ด แต่สิ่งต่างๆ แบบนี้มันก็ยังเกินความคาดหมายอยู่ดี"
นอกจากเพื่อนร่วมอาชีพ และแฟนบอลแล้ว ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังขอบคุณครอบครัว พลางเอาใจช่วยต้นสังกัดเก่าให้คว้าแชมป์ในปีนี้ หลังจากได้ลงซ้อมกับทีมในวันอังคาร "ผมอยากขอบคุณ อาแจ็กซ์ สำหรับค่ำคืนที่น่าเหลือเชื่อนี้ และผมยังอยากขอบคุณนักเตะ อาแจ็กซ์ ที่ทุ่มเทเต็มที่ ผมซ้อมกับพวกคุณเมื่อวาน (วันอังคารที่ 3 ก.ค.) และผมมั่นใจว่าพวกคุณจะทำผลงานในลีกดัตช์ได้ดี ท้ายที่สุด ผมอยากขอบคุณภรรยา และครอบครัวผมสำหรับการสนับสนุนที่ดีตลอดหลายปี ผมขอบคุณทุกคน"
ด้าน หลุยส์ ฟาน กัล อดีตโค้ชอาแจ๊กซ์ และทีมชาติฮอลแลนด์ กล่าวว่า "นี่คือค่ำคืนที่แสนวิเศษ ผมไม่คิดเลยสิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้ มันบ่งบอกอะไรบางอย่างถึงสถานะของ เอ็ดวิน ไม่ใช่แค่แฟนบอล แต่ยังมีนักเตะดังๆ มากมาย เมื่อปี 1995 ผมรู้ว่าเขาจะมีเส้นทางที่ยิ่งใหญ่ แต่ปี 92 ผมไม่รู้ ในฐานะโค้ชตอนนั้นคุณต้องตัดสินใจระยะยาว ช่วงแรกๆ เขาเล่นพลาดแบบเดียวกับที่ โธมัส คราฟท์ เป็นกับ บาเยิร์น ปีก่อน ซึ่งมันก็มีเหตุมีผล"
ฟาน เดอร์ ซาร์ วัย 40 ปี เจ้าของสถิติเล่นทีมชาติฮอลแลนด์มากสุด 130 นัด เริ่มต้นเส้นทางนักเตะอาชีพกับ อาแจ็กซ์ (1990-1999) ก่อนย้ายไป ยูเวนตุส (1999-2001) ต่อด้วย ฟูแล่ม (2001-2005) และย้ายมาเลิกเล่นกับ ยูไนเต็ด ตั้งแต่นั้น ระหว่างนั้นทำสถิติไม่เสียประตูนานสุดในพรีเมียร์ลีก 1,311 นาที ระหว่างซีซั่น 2010-2011
<object width="560" height="349"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/qNeODiE-hi0?version=3&hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/qNeODiE-hi0?version=3&hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="349" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
สโคลส์คัมแบ็กเตะลูกหนังซัดแฮตทริก!
แฟนผีหูผึ่ง! พอล สโคลส์ ตำนานมิดฟิลด์ตัวเก่ง แมนฯ ยูไนเต็ด หวนกลับมาเตะลูกหนังอีกครั้งแล้ว แถมซัดแฮตทริกยิงคนเดียว 3 เม็ดอีกต่างหาก ในเกมการกุศลของสโมสรที่ลูกชายตัวเองสังกัดอยู่ด้วย ใจดีสุดๆ แจกตั๋วให้เด็กๆ ไปนั่งดูนัดเทสติโมเนี่ยลแมตช์ของตัวเองวันศุกร์นี้
พอล สโคลส์ อดีตกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งแขวนสตั๊ดอำลาสีเสื้อ "ปีศาจแดง" เมื่อ 2 เดือนก่อน หวนกลับมาลงเตะลูกหนังอีกครั้งอย่างรวดเร็ว โดยโผล่โชว์ทักษะดาวเตะระดับตำนานแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในนัดการกุศลของ สตาลี่ย์บริดจ์ เซลติก สโมสรของ แอรอน ลูกชายวัย 12 ขวบ ของตนเอง ซึ่งเป็นเกมที่ทีมคุณพ่อต้องมาดวลแข้งกับทีมโค้ช
เดอะ ซัน และ เดลี่ เมล์ สองหนังสือพิมพ์ดังเมืองผู้ดี พร้อมใจกันรายงานว่า "สโคลซี่" วัย 36 ปี ลงเล่นในครึ่งแรกให้กับทีมโค้ช ก่อนจะเปลี่ยนข้างมาเตะให้ทีมคุณพ่อในครึ่งหลัง แถมยังเหมายิงคนเดียว 3 ลูก ทำแฮตทริกในครึ่งหลังล้วนๆ ได้อีกต่างหาก แต่ก็ไม่อาจช่วยทีมป๊ะป๋าให้รอดพ้นความพ่ายแพ้ไปได้ โดยทีมกุนซือเป็นฝ่ายชนะไปอย่างมโหฬาร 12-9 ในเกมที่แข่งขันกันที่เมืองสตาลี่ย์บริดจ์ ย่านเกรทเทอร์ แมนเชสเตอร์
อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ยังแสดงความใจดี แจกบัตรเข้าชมเกมฟาดแข้งนัดเกียรติยศ หรือเทสติโมเนี่ยล แมตช์ อำลาสนามของตนเอง ที่จะพบกับ นิวยอร์ก คอสมอส ในวันศุกร์ที่ 5 ส.ค.นี้ ณ สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้กับเด็กๆ ที่มานั่งดูชมเกมการกุศลครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
Credit : www.soccersuck.com , www.siamsport.co.th















