แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ใช้ผู้เล่น 11 คนแรก ดังนี้ (ผู้รักษาประตู) เดเกอา (กองหลัง) สมอลลิ่ง - เอวร่า - เฟอร์ดินานด์ - วิดิช (กองกลาง) นานี่ - แอชลี่ย์ ยัง - แอนเดอร์สัน - คาริค (กองหน้า) รูนี่ย์ - เวลเบ็ค (ตัวสำรอง) ลินเดการ์ด - ราฟาเอล - ฟิล โจนส์ - อีแวนส์ - ปาร์ค จีซุง - เคลฟเวอร์ลี่ย์ - เบอบาตอฟ ปีศาจแดงใช้ระบบการเล่น 4-4-2 โดยให้ รูนี่ย์ และ เวลเบ็ค ยืนคู่หน้า นานี่ และ ยัง เล่นปีก ส่วนแดนกลางใช้ แอนเดอร์สัน กับ คาริค ยืนแดนกลาง
เปิดเกมมาแมนยูเป็นฝ่ายได้ครองบอลบุกมากกว่า แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้ บทบาทเกมรุกของปีศาจแดงจะอยู่ที่ หลุยส์ นานี่ และ แอชลี่ย์ ยัง เป็นส่วนใหญ่ส่วน แมนซิตี้ ใช้จังหวะตั้งรับและรอสวนกลับ เกมเดือดเป็นระยะๆ แมนซิตี้ตั้งรับถึงท้ายครึ่งหลัง จนได้จังหวะปั่นฟรีคิกจากระยะ 35 หลา เลสค๊อตต์ กองหลังแมนซิตี้ เข้าแทรกระหว่าง วิดิช และ เฟอร์ดินานด์ กระโดดโขกผ่านมือ ดาบิด เดเกอา เสียบเสาสองให้แมนซิตี้ นำแมนยู อยู่ 1 - 0 แมนซิตี้กลายเป็นบอลได้ใจ บุกทำเกมในช่วงท้ายครึ่งหลังก่อนที่ เอดิน เชโก้ จะซัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งผ่านมือ เดเกอา เข้าประตูอย่างสวยงาม จบครึ่งแรก แมนซิตี้ นำแมนยู 2 - 0
เริ่มครึ่งหลัง เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน เปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยส่ง ฟิล โจนส์ และ จอนนี่ อีแวนส์ ลงไปแทนปราการหลังตัวหลักทั้งคู่ และส่ง ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ แทน ไมเคิล คาริค หลังจากเปลี่ยนตัว เกมทั้งหมดตกเป็นของแมนยูเหมือนกับครึ่งแรก โดยมีจังหวะหวือหวาหลายจังหวะมากขึ้น และปีศาจแดงมีโอกาสจากฟรีคิกหลายครั้ง แอชลี่ย์ ยัง รับเหมาฟรีคิกระยะไกล และลูกเตะมุมตลอด ส่วนฟรีคิกระยะใกล้เป็นหน้าที่ของรูนี่ย์และนานี่ผลัดกันส่อง ในนาทีที่ 52 แอชลี่ย์ ยัง ปั่นฟรีคิกไปหน้าประตู สมอลลิ่ง แทรกขึ้นมาแปหนีมือ โจ ฮาร์ท เข้าประตูเหมือนลูกแรกที่โดน เลสค๊อตต์ สอดขึ้นมาโหม่งก็ไม่ปาน ปีศาจแดงไล่ตามขึ้นมาเป็น 1 - 2 อีก 5 นาทีต่อมา เรดอามี่ได้เฮอีกครั้ง เมื่อปีศาจแดงเล่นแบบตอนซ้อม ต่อบอลจังหวะเดียวหน้าประตู ว่าประตูของ เอดิน เชโก้ สวยแล้วแต่รูนี่ย์ แคลฟเวอร์ลี่ย์ และนานี่ ประสานงานกัน จบสกอร์ได้สวยกว่า ทำให้ปีศาจแดงตามตีเสมอแมนซิตี้เป็น 2 - 2 นาทีที่ 70 เอวร่า เกมยังคงเป็นของปีศาจแดงบุกอย่างต่อเนื่อง แต่แมนซิตี้ก็มีจังหวะสวนกลับจาก อดัม จอห์นสัน ส่องไกลให้ เดเกอา ได้โชว์เซฟ ก่อนครบ 90 นาที เบอบาตอฟ ถูกส่งลงมาแทน แดนนี่ เวลเบ็ค หลังจากนั้นแมนซิตี้ได้โอกาสโขกจากในเขตโทษ เดกาเอ โดดปัดบอลออกไปได้ ก่อนผู้ตัดสินจะเป่าว่าเป็นลูกฟาวล์ เป็นบอลของปีศาจแดง ช่วงทดเจ็บมา 4 นาที นานี่ได้บอลจากจังหวะกองหลังของแมนซิตี้ทำพลาดกระชากเข้าไปดวลเดี่ยวกับ โจ ฮาร์ท ก่อนนานี่ใช้ทักษะล๊อคหลบหนีมือ ฮาร์ท เข้าไปสังหารอย่างเลือดเย็น ทำให้ครึ่งหลังปีศาจแดงรัวแซงชนะแมนซิตี้อย่างสุดมันส์ด้วยสกอร์ 3 - 2 คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์อีกสมัย
จากเกม เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน วางแผนใช้ แดนนี่ เวลเบ็ค และ เวย์น รูนี่ย์ ที่มีความขยัน ไล่บอลและหาช่องในแดนหน้า ส่วนแดนกลางส่ง เคลฟเวอร์ลี่ย์ ลงมาแก้เกมทำให้ แอนเดอร์สัน มีตัวช่วยผ่านบอล และช่วยตัดเกมในแดนกลางได้ดี ส่วนปราการหลังที่นัดนี้ฟอร์มไม่ดีนัก พลาดในจังหวะขึ้นโหม่ง และการเข้าประกบจากหน้าเขตโทษทำให้เสียประตูถึง 2 ลูก ถูกเปลี่ยนตัวโดยทดลองใช้ ฟิล โจนส์ และ จอนนี่ อีแวนส์ ลงมาประสานงานเป็นปราการหลังแทน เฟอร์ดินานด์ กับ วิดิช ด้วยความสดและหนุ่มของ โจนส์ กับ อีแวนส์ ทำให้มีจังหวะดันขึ้นสูงบ่อยครั้ง โดยอีแวนส์มีจังหวะตัดเกมในแดนหลังและลากเลื้อยขึ้นไปเอง แต่ยังคงกลับลงมาช้าเช่นเคย ดูทรงแล้วเมื่ออีแวนส์ ถูกจับไปเล่นตำแหน่งแบ็กจะเล่นได้ดีกว่าในการเติมเกม และตัดเกมในริมเส้น ส่วน ฟิล โจนส์ มีความเร็วและการเปิดบอลจากแดนหลังที่ค่อยข้างหน้ากลัวต่อทีมคู่แข่งส่วนทางด้าน ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ หลายจังหวะสามารถทำให้เรดอามี่ได้เฮด้วยการประสานงาน การผ่านบอล และการตัดเกมได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว ถ้าปีศาจแดงไม่เสริมทัพในแดนกลางเพิ่ม คาดว่า เคลฟเวอร์ลี่ย์ น่าจะสามารถแจ้งเกิดในสีชุดของปีศาจแดงได้แน่นอน แต่เบอบาตอฟที่ถูกส่งลงสนามน้อยลงนับตั้งแต่ท้ายฤดูกาลก่อน และนัดชิงยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก จะถูกดรอปหรือถูกขายออกไปในฤดูกาลใหม่หรือไม่ พูดถึงบทบาทคงต้องยกให้ แอชลี่ย์ ยัง และ หลุยส์ นานี่ ปีกความเร็วสูงของปีศาจแดงทั้งคู่ที่ทำให้เกมบุกนั้นไหลรื่น ทั้งการกระชากและพาบอลทำเข้าประตู รวมถึงการเปิดบอล ทั้งคู่นั้นทำได้ดี แอชลี่ย์ ยัง สามารถเปิดบอลช่วยทำประตูได้หนึ่งลูก และนานี่สามารถทำประตูได้ถึงสองลูกในเกมนี้ ในอนาคตคงจะเห็นปีกคู่นี้ได้วาดลีลาเยอะขึ้นอีกแน่นอน
นิกกี้
จากผู้เขียน : ผมเพิ่งหัดเขียนคอลั่มโดยใช้ความรู้เล็กน้อย ผิดพลาดอย่างไรขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ







