ตามความเข้าใจของผมครับ

[AquilaniRooney]

คือผมพึ่งเชียร์แมน-ยูไนเต็ดมาแค่ 4 ปีเองครับ เลยได้ทันดูแค่ชุดนี้ คือตามความคิดผมนะครับ แมนยูมีไอปลิงเกลเซอร์เป็นเจ้าของพร้อมหนี้อีกกว่า 800 ล้านที่มันเอาผลักภาระมาให้แมนยูอีก ผมว่าถ้าคนที่ทำทีมไม่ใช่ป๋าเนี่ย ป่านนี้แมนยูไม่ได้เป็นอยู่ทุกวันนี้หรอกครับ เงินก็ไม่เคยให้ซื้อนักเตะเลย + กับหนี้ที่ต้องชำระอีก ป๋าสามารถทำทีมด้วยทรัพยากรที่จำกัดภายใต้เจ้าของอย่างไอปลิงเกลเซอร์เนี่ย ผมว่าสุดยอดมากๆเลยนะครับทำทีมได้ในระดับนี้ ผมว่าถ้าเรามีเจ้าของทีมที่สนใจในฟุตบอลมากกว่านี้ กล้าทุ่มเงิน+ฝีมือของป๋า ผมแมนยูจะไปได้ไกลกว่าทุกวันนี้แน่นอนครับ ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ

[K.H]

แมนยู กับ แมนซิ ต่างกันยังไง

หาก แมนยู กับ แมนซิ สนใจนักเตะ คนเดียวกัน เป็นไง ค่าเหนื่อย ค่ากินเปล่า ที่ให้ เอเย่น เพราะเอเย่น ต้อง การให้นักเตะไป แมนซิ เพื่อตัวเองได้ส่วนแบ่งมากกว่า ที่จะมา แมนยู อยู่แล้ว ถามว่า ทำไม แมนยู ไม่สู้ ก็เพราะเงิน สู้ไม่ได้ และ จะให้ จ่ายเงินนักเตะ ด้วยความบ้าคลั่ง พร้อมค่าเหนื่อยขนาดนั้น ก็ไม่ได้ เพราะ รายรับ กับ รายจ่าย ต้องสมดุล สโมสร ต้อง อยู่ได้

ปีที่แล้ว 2010-2011 ได้ โจนส์ ยัง เด ถั่ว มา 4 คน ราคารวมกัน ก็ ปาไป 60 ล้าน ปอนด์ ถามว่า ทำไมซื้อตัว 4 คนนี้มา ไม่ซื้อ ตัวเทพ ๆ มาเลย มันก็มีเรือ่งค่า ตัว ค่าเหนื่อย เข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วย

เซ็นเตอร์ มีปัญหา จึง ซื้อ โจนส์ มาก ตอนนั้น ริโอ กับ วิดิช ก็แข็งแรง กันอยู่ จะให้ซื้อ เซ็นเตอร์ เทพ ๆ มาสำรอง ก็ใช่ที่ จึงต้อง ซื้อ โจนส์ ดาวรุ่ง มาเพาะ สักระยะ พอ ริโอ แขวน สัก ปี ก็ เสียบทันที นี่ คือ การถ่ายเลือด ที่ถูก บวก กับ ได้ สมอล มาก่อนหน้า ก็ รอเวลา สักระยะ เพราะ ริโอ วิดิช ยังอยู่



เด แทน ซาร์ ที่แขวนไป บวกกับ ได้ ลิน มา ตอน มกราคม ก็สมดุลดี

ยัง ตอนนั้น ปีกมี ปาร์ค วาเลนเซีย นานี่ ได้ กิ๊ก ได้ ยัง มา รวมเป็น 5 แต่ กิ๊ก ปาร์ค ไม่นับ เพราะ ลดระดับเหลือ อะไล่ รอปลดระวาง รวมเป็น แค่ สามคน นานี่ ก็ผีเข้า ผีออก จึงเอา ยัง มาช่วย ปีก

ถั่ว เข้ามาเติม แดนหน้า เพิ่ม มิติ ด้วยการเล่นที่ ต่างจากคนอื่น ซึ่ง มาปีแรก หลายคน ฮือ ฮา และ ปราบปลื้ม มาก



ถามว่า ทำไมไม่เอา กลาง

กลางเรา มี คาริค แอน เฟรช เคลฟ สโคล ( กิ๊ก ปาร์ค ก็ขยับเล่นได้ และ พร้อม จะดันเคลฟ) ดังนั้น จึงยังไม่จำเป็น และ ด้วย เงินที่ใช้ ไป รวม แล้ว 60 ล้านเข้าให้ แล้ว โครงการจึงมีแค่นี้ ส่วน กองกลาง ป๋า กับ สโมสร ผมมั่นใจเลยว่า ป๋า จะเติม เต็มปีนี้ ในระดับถัดมา

ปีก่อน ที่ซื้อ ยัง เด ถั่ว โจนส์ ผมก็ โมโห เหมือนกัน เพราะผม ไม่ชอบกลาง ชุดนี้ เอามาก ๆ ถึงมากที่สุด อยากได้ กลางรับ และ รุก แต่ ก็เข้า ใจ ในการทำทีม ของ เขา



แผน ของ ป๋า อาจจะผิด ใจหลายคน หลายคน เช่น

ไม่จำเป็น ต้อง ซื้อ ดาวรุ่ง พอ ริโอ วิดิช ปลดระวาง ซื้อ ตัว เทพ มาเสียบเลย แบบที่ มาดริด บาซ่า หรือ ซิตี้ ทำ ไม่ต้อง ซื้อ แบบ โจนส์ ราฟาเอล หรือ รอดัน ดาวรุ่ง อย่าง เคลฟ เสียเวลา ( อันนี้ บางที ผมก็เห็น บางคนอยากให้ ดันดาวรุ่ง กัน)

แต่ ผม เดา ดูว่า มุม มอง ของ ป๋า การใช้ เงิน 60 ล้าน ไปแล้ว กองกลางยัง เล่นได้ดี (ตอนต้นฤดูกาล ก็เล่นสุดยอด แสดงให้เห็นว่า เคลฟ แอน เล่นได้ แต่ เจ็บ ไป ทุกอย่างเลย เป๋ และดันเจ็บ ยาว ตัวสำรอง ที่ สภาพไม่ดี เลยได้เล่น ยาว ทีมเลย ย่ิงเป๋) ดังนั้น กองกลาง ป๋า จะจัดในปีหน้า เพ่ิมใน ส่วนที่ขาด ให้เติมเต็ม อย่างทีป๋า บอก ขอเวลาสักปี สองปี เพราะ ข้อจำกัด เรื่อง เงิน ด้วย


วิธีของ ป๋า ก็ คือ ค่อย ๆ ถ่าย เลือด โดย ให้ มีนักเตะ ประสบการณ์ อยู่ บ้าง แล้ว ซื้อ สด ๆ มา เพิ่มแรงกระตุ้น และ ดันดาวรุ่ง ที่พอ มีแวว เช่นกัน และ บริหารเงิน ให้ เหมาะสม เพื่อ ความอยู่ รอด ของสโมสร ด้วย

และ วิธี ของ อีกหลาย ๆ คน ที ตรงข้ามกัน ชัดเจน ก็คือ อยากได้ แบบ แมนซิ มารดริด บาซ่า ใครหมดสภาพ ก็ขาย ไม่ต้อง ซื้อ ดาวรุ่ง มา สแตน เปลี่ยนเอาตัว ดี ๆ มาเลย จำเป็น ต้อง ทุ่ม สัก 100 - 200 ล้านไปเลย

และ นั่น ก็ คือประเด็น ของทุกวัน นี้ ระหว่างการ บริหาร ของป๋า และ มุม มองของ แฟน บอล



บางมุม ผมก็ มอง ว่า ป๋า ซื้อ มาทำไม แอส ยัง วาเลนเซีย ในเม่อซื้อ ทัง ที ไม่ ซื้อ ปีก ที่ เทพ ๆ ไปเลยเหมือนกัน แต่ อาจจะเพราะ สู้ ค่าเหนือย และ โก่งค่าตัว อีกทั้ง นักเตะ เลือกที ่จะไปกับ ทีม ที่ให้ เงิน ค่าเหนือย มากกว่า และ เอเย่นก็ จะเป่าหู นักเตะ ให้ ย้ายไป กับ ทีมที่ให้ ผลประโยชน์กับ เขามากกว่า มันก็มีส่วน ยกเว้น นักเตะ อยาก จะมาเอง

แต่ก่อน หลายคน เคย ด่า ทีม อื่น ไว้ว่า ทีม อื่น ใช้เงิน ซื้อความ สำเร็จ แต่ บัดนี้ ความคิดของหลายคน คงเปลี่ยนไปแล้ว เพระาหลายคน คงไม่อยาก รอ เพราะไม่ทัน ใจ และ คงไม่ พ้น ยก แมนซิตี้ มาเป็น ตัว อย่าง

อันที จริง กว่า แมนซิ ตี้ จะได้แชมป์ เขาก็ลองผิดลองถูก มาหลายปี กว่าจะสำเร็จ เปลี่ยนโค๊ช มาหลายคน เพราะทุกอย่าง ต้องใช้ เวลาในการปรับปรุง และ จูนให้นักเตะ สามารถประสาน งานเช่นกัน เช่นเดียว กับ มาดริด กว่า ส่วนผสิม จะลงตัว ก็ รอ มาตั้ง หลาย ปีก กว่าทีม จะสมดุล และ ได้ แชมป์

[akillis]

คือผมพึ่งเชียร์แมน-ยูไนเต็ดมาแค่ 4 ปีเองครับ เลยได้ทันดูแค่ชุดนี้ คือตามความคิดผมนะครับ แมนยูมีไอปลิงเกลเซอร์เป็นเจ้าของพร้อมหนี้อีกกว่า 800 ล้านที่มันเอาผลักภาระมาให้แมนยูอีก ผมว่าถ้าคนที่ทำทีมไม่ใช่ป๋าเนี่ย ป่านนี้แมนยูไม่ได้เป็นอยู่ทุกวันนี้หรอกครับ เงินก็ไม่เคยให้ซื้อนักเตะเลย + กับหนี้ที่ต้องชำระอีก ป๋าสามารถทำทีมด้วยทรัพยากรที่จำกัดภายใต้เจ้าของอย่างไอปลิงเกลเซอร์เนี่ย ผมว่าสุดยอดมากๆเลยนะครับทำทีมได้ในระดับนี้ ผมว่าถ้าเรามีเจ้าของทีมที่สนใจในฟุตบอลมากกว่านี้ กล้าทุ่มเงิน+ฝีมือของป๋า ผมแมนยูจะไปได้ไกลกว่าทุกวันนี้แน่นอนครับ ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ

ยังไม่ถูกต้องครับ ก่อนมีเกลเซอร์ ตอนมาร์ตินเอ็ดเวิร์ดก็ให้เงินป๋าพอๆ กับเกลเซอร์ ซึ่งนั่นคงเป็นนโยบายหลักของบอร์ดบริหารและสโมสร สามสี่ปี ถึงจะทุ่มเงินซื้อนักเตะคนเดียวที่ราคาเหยียบ 30 ล้าน แต่ทุกๆ ปี สโมสรจะซื้อนักเตะรวมๆ กันก็รายสิบล้านอาจจะใกล้เคียง 30-50 ขึ้นอยู่กับความต้องการป๋า ซึ่งทุกรายคือดาวรุ่งเพื่อให้ได้หลายๆ คนจึงต้องใช้เงินอย่างคุ้มค่า แม้จะมีหลายครั้งที่เผลอไปหยิบของเก๋มาใส่ทีมก็ตาม

เกลเซอร์ดีอย่าง ไม่เคยมาวุ่นวายกับป๋าเลยว่าอยากได้ใคร ขายใคร ขอเพียงป๋าบอกก็อนุมัติให้ทันที
และไอ้หนี้ที่มีอยู่ เหมือนจะเหลือเพียง 300-500 แล้วนะ ถ้าพันธบัตรขายได้หนี้ก็คงเหลือราวๆ ไม่เกิน 250 ล้าน

ซึ่งแมนยูมีกำไรมหาศาลอยู่แล้ว แต่ถ้าพลาดแชมป์กำไรอาจจะหดลงไปเยอะ ซึ่งปีนี้ตกรอบบอลถ้วยเร็วไปหน่อย ผลประกอบการปีหน้าอาจจะไม่ได้กำไรมากเท่าปีก่อน

*ต่อให้แมนยูไม่มีหนี้ สโมสรก็ไม่ทุ่มบ้าเลือดกับนักเตะรายละ 30 ล้านทีละสามสี่คนแน่นอน เพราะตัวเลขบัญชีจะติดลบตัวแดงทันที ซึ่งเรือใบมียอดติดลบจากการซื้อ เกือบๆ 200 ล้าน แต่เจ้าของมันรวยจึงไม่หนักหนามาก แต่การบริหารขาดทุน ยิ่งถ้าเกิดพลิกล็อกพลาดแชมป์พรีเมียร์ เรือขาดทุนย่อยยับแน่นอน

**เพราะงั้นอย่าไปกังวลว่าเกลเซอร์ไปกู้เงินมาซื้อแมนยูแล้วป๋าจะไม่มีเงินช็อป เพราะแต่ไหนแต่ไร ป๋าก็ช็อปในระดับ 20-30 ล้านต่อปีอยู่แล้ว มีเพียงปีนี้ที่ต้องการแข้งหนุ่มๆ 3 คน ก็ต้องทุ่มนิดหน่อย (ทั้งสามถือว่ายังพอเท่าทุนในตอนนี้ อนาคตจะเป็นคำตอบว่าที่ลงทุนไปคุ้มค่าแค่ไหน กับนักเตะอายุ 20 ทั้งสามคน)

[patindy]

คงไม่มีบอร์ดบริหารคนไหน กล้าล้วงลูกเฟอร์กี้หรอกครับ

แมนยูต่างจากทีมอื่นตรงที่ บารมีของผู้จัดการทีมมากกว่าประธานสโมสรซะอีก

[cinny]

คือผมพึ่งเชียร์แมน-ยูไนเต็ดมาแค่ 4 ปีเองครับ เลยได้ทันดูแค่ชุดนี้ คือตามความคิดผมนะครับ แมนยูมีไอปลิงเกลเซอร์เป็นเจ้าของพร้อมหนี้อีกกว่า 800 ล้านที่มันเอาผลักภาระมาให้แมนยูอีก ผมว่าถ้าคนที่ทำทีมไม่ใช่ป๋าเนี่ย ป่านนี้แมนยูไม่ได้เป็นอยู่ทุกวันนี้หรอกครับ เงินก็ไม่เคยให้ซื้อนักเตะเลย + กับหนี้ที่ต้องชำระอีก ป๋าสามารถทำทีมด้วยทรัพยากรที่จำกัดภายใต้เจ้าของอย่างไอปลิงเกลเซอร์เนี่ย ผมว่าสุดยอดมากๆเลยนะครับทำทีมได้ในระดับนี้ ผมว่าถ้าเรามีเจ้าของทีมที่สนใจในฟุตบอลมากกว่านี้ กล้าทุ่มเงิน+ฝีมือของป๋า ผมแมนยูจะไปได้ไกลกว่าทุกวันนี้แน่นอนครับ ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ

ยังไม่ถูกต้องครับ ก่อนมีเกลเซอร์ ตอนมาร์ตินเอ็ดเวิร์ดก็ให้เงินป๋าพอๆ กับเกลเซอร์ ซึ่งนั่นคงเป็นนโยบายหลักของบอร์ดบริหารและสโมสร สามสี่ปี ถึงจะทุ่มเงินซื้อนักเตะคนเดียวที่ราคาเหยียบ 30 ล้าน แต่ทุกๆ ปี สโมสรจะซื้อนักเตะรวมๆ กันก็รายสิบล้านอาจจะใกล้เคียง 30-50 ขึ้นอยู่กับความต้องการป๋า ซึ่งทุกรายคือดาวรุ่งเพื่อให้ได้หลายๆ คนจึงต้องใช้เงินอย่างคุ้มค่า แม้จะมีหลายครั้งที่เผลอไปหยิบของเก๋มาใส่ทีมก็ตาม

เกลเซอร์ดีอย่าง ไม่เคยมาวุ่นวายกับป๋าเลยว่าอยากได้ใคร ขายใคร ขอเพียงป๋าบอกก็อนุมัติให้ทันที
และไอ้หนี้ที่มีอยู่ เหมือนจะเหลือเพียง 300-500 แล้วนะ ถ้าพันธบัตรขายได้หนี้ก็คงเหลือราวๆ ไม่เกิน 250 ล้าน

ซึ่งแมนยูมีกำไรมหาศาลอยู่แล้ว แต่ถ้าพลาดแชมป์กำไรอาจจะหดลงไปเยอะ ซึ่งปีนี้ตกรอบบอลถ้วยเร็วไปหน่อย ผลประกอบการปีหน้าอาจจะไม่ได้กำไรมากเท่าปีก่อน

*ต่อให้แมนยูไม่มีหนี้ สโมสรก็ไม่ทุ่มบ้าเลือดกับนักเตะรายละ 30 ล้านทีละสามสี่คนแน่นอน เพราะตัวเลขบัญชีจะติดลบตัวแดงทันที ซึ่งเรือใบมียอดติดลบจากการซื้อ เกือบๆ 200 ล้าน แต่เจ้าของมันรวยจึงไม่หนักหนามาก แต่การบริหารขาดทุน ยิ่งถ้าเกิดพลิกล็อกพลาดแชมป์พรีเมียร์ เรือขาดทุนย่อยยับแน่นอน

**เพราะงั้นอย่าไปกังวลว่าเกลเซอร์ไปกู้เงินมาซื้อแมนยูแล้วป๋าจะไม่มีเงินช็อป เพราะแต่ไหนแต่ไร ป๋าก็ช็อปในระดับ 20-30 ล้านต่อปีอยู่แล้ว มีเพียงปีนี้ที่ต้องการแข้งหนุ่มๆ 3 คน ก็ต้องทุ่มนิดหน่อย (ทั้งสามถือว่ายังพอเท่าทุนในตอนนี้ อนาคตจะเป็นคำตอบว่าที่ลงทุนไปคุ้มค่าแค่ไหน กับนักเตะอายุ 20 ทั้งสามคน)

คุณบ้าไปแล้ว ลองคิดดู การเป็นบริษัทมหาชน กับ เจ้าของคนเดียวมันต่างกัน ตอนมาร์ตินเอ็ดเวิร์ด เค้าไม่ได้มายุ่งเพราะเวลาเป็นมหาชน เค้าให้ประธานบริหารเลย ส่วนผู้ถือหุ้นรอรับปัญผลอย่างเดียว แต่พอเป็นเจ้าของคนเดียวอย่างเกลเซอปั๊บ มันมีผลแน่นอน คุณบอกว่าถ้าพันธบัตรขายได้หนี้ก็คงเหลือราวๆ ไม่เกิน 250 ล้าน เข้าใจพันธบัตรมั้ย มันคือการเอาเงินอนาคตมาใช้ ยังไง หนัีมันก้อไม่ลด แต่เป็นการลดหนี้ในปัจจุบัน และแบ่งกำไรลงไป ลองคิดดูน่ะ คุณบอกว่า หนี้อาจจะลดเหลือ 250 ล้านปอน แต่คุณต้องแลกมาด้วยการได้กำไรลดลงจาก 100 ล้านเหลือ 50 ล้าน(สมมุติ) แล้วคุณบอกว่ามันจะไม่กระทบต่อการซื้อได้ไง ในเมื่อแมนยู ตั้งใจที่จะทำให้ไม่กระทบต่อ ผลของบัญชี มันกระทบแน่นอนอยุ่แล้วครับ เงินจากโด้ 80 ล้าน มันไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น คุณบอกว่า แมนยูซื้อ 20-30 ล้านต่อปี คุณไม่คิดถึงเงินเฟ้อเหรอ แต่กก่อนเราช๊อบหลักแสน ไอ้พวกนี้มันต้องเพิ่มขึ้นทุกปีครับบ !!!

[UpToGru]

สรุปง่ายๆ ทีมที่มีตังค์ได้เปรียบที่สุด ทีมที่มีตังค์+หนี้ ได้เปรียบรองลงมา 555

ขอตอบ ประเด็น เจ้าของกระทู้ละกันครับ ของท่านอืน ยาวมาก 55555

ส่วนตัว ผมคิดว่า การที่จะเอาเงินไปซื้อ นักเตะเล่นเหมือนทีมอื่น แมน ยู คงไม่มีปัญญาแน่ๆ เพราะหนี้สินมันมีอยู่ การซื้อของป๋า ผมว่า ถ้าป๋าซื้อ บิ๊กเนมมาจริงๆ เสียเงินค่าตัวไปเยอะ แต่รายรับจากการขายสินค้า ของที่ระลึก เกี่ยวกับนักเตะที่ซื้อมา ย่อมเข้ามามากเหมือนกัน ซึ่งหักลบกันไป ก็คงไม่เท่าไหร่ และถ้าเสียงที่จะให้เงินก้อนโต และแมน ยู ได้แชมป์ ผลประโยชน์ที่ได้มันมากกว่ากันเยอะครับ และผมดูว่า เป็นเรือง สภาพนักเตะ กับแทคติก ของทีมเสียมากกว่า ที่เป็นปัญหา

แต่ผมมอง เรื่องการซื้อนักเตะ เมื่อ ผมเปรียบเทียบกับ อาเซนอล ละกัน เพราะอาเซนอล นิยม เด็ก เหมือน ป๋า
แมน ยู มีตังค์ อาเซนอลมี ตังค์
สมมุติ
แมน ยูซื้อ นักเตะ 5 คน อาเซนอล ซื้อเข้ามา 5 คน
ประโยชน์ที่ได้รับ จากนักเตะ 5 คนที่ซื้อเข้ามา กลับกลายเป็น อาเซนอล ใช้ประโยชน์ ได้มากกว่ากันเยอะ
ง่ายๆ แมนยู อาจจะได้นักเตะดีๆ รุ่งๆ สัก 1 คน จาก 5 คน ส่วน อาเซนอล อาจจะได้มากถึง 3-4 จาก 5 คน

แล้วพวกที่ ยังไม่ถึงขั้นที่เหลือ ทำไง ถ้าเป็นฝั่ง อาเซนอล ผมไม่รู้ แต่ถ้าเป็นฝั่ง แมน ยู ถ้าเป็น ป๋า ก็คง ให้อยู่ในทีม เยาวชน สำรอง ดอง แล้วก็ ยืมตัว และก็ปล่อย

เงินที่ เสียไป กับ สิ่งที่ได้มา มันเลย ดูไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่

ถ้าบอกว่า ต้องใช้เวลาหมักตัวใช้เวลา (เหมือนปลากัด) ให้โอกาสให้เวลา จริงๆ แล้วมันก็น่าจะให้ นะแหละ เพราะนักเตะ ที่ แจ้งเกิด ตอนไกล้ อายุ 25-30 มีถมไป
แต่ต้องถามแฟนบอลว่า รอได้ขนาดนั้นหรือเปล่า จะปล่อยให้ นักเตะ แบบนี้ รอเวลาแจ้งเกิด ซึ่งไม่รู้จะ เด่นแจ้งเกิดขึ้นมาตอนอายุเท่าไหร่

ผมย้อนกลับไปดูนักเตะ บางคนที่ยังอยู่กับทีม บางคนพัฒนาการแทบไม่มี บางคน อยู่มา 1-2-3 ปี ก็ยังเหมือนเดิม แถมเจ็บบ่อยต่างหาก บางคน เล่นไม่เข้ากับทีม ทั้งๆที่อยุ่กับทีมมา หลายปี ถามง่ายๆ คุณไม่ได้ฝึกซ้อม หรือเล่นกับเพื่อนร่วมทีมเหรอ โดนซ้อมแยก เหรอไง

ฉะนั้น อย่าไปมอง ว่าเกี่ยวกับ เกรเซอร์เลยครับ มันเกี่ยวกับว่า พอได้เงินมา เราเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากแค่ไหนเท่านั้นเอง

ตอบซะเยอะ ไม่รู้จะตรง กระทู้หรือเปล่า

[ตั้ม_สิบล้อ]

หลายๆทีมมีพวกมหาเศรษฐืมา Take Over แต่มีไม่กี่ทีมที่ประสบความสำเร็จ
ดังนั้นผมคิดว่า เงินยังเป็นรองมันสมองของผู้จัดการทีม และ ระบบการทำทีมครับ

[Lohas]

แผน ของ ป๋า อาจจะผิด ใจหลายคน หลายคน

และ นั่น ก็ คือประเด็น ของทุกวัน นี้ ระหว่างการ บริหาร ของป๋า และ มุม มองของ แฟน บอล

แต่ก่อน หลายคน เคย ด่า ทีม อื่น ไว้ว่า ทีม อื่น ใช้เงิน ซื้อความ สำเร็จ แต่ บัดนี้ ความคิดของหลายคน คงเปลี่ยนไปแล้ว เพระาหลายคน คงไม่อยาก รอ เพราะไม่ทัน ใจ และ คงไม่ พ้น ยก แมนซิตี้ มาเป็น ตัว อย่าง

อันที จริง กว่า แมนซิ ตี้ จะได้แชมป์ เขาก็ลองผิดลองถูก มาหลายปี กว่าจะสำเร็จ เปลี่ยนโค๊ช มาหลายคน เพราะทุกอย่าง ต้องใช้ เวลาในการปรับปรุง และ จูนให้นักเตะ สามารถประสาน งานเช่นกัน เช่นเดียว กับ มาดริด กว่า ส่วนผสิม จะลงตัว ก็ รอ มาตั้ง หลาย ปีก กว่าทีม จะสมดุล และ ได้ แชมป์

ซิตี้ใช้เงินซื้อความสำเร็จ แต่กว่าจะสำเร็จก็ไม่ใช่ว่าใช้ปุ๊บจะได้แชมป์ปั๊บสักหน่อย

เชลซีซื้อความสำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถซื้อได้ทุกปีเช่นกัน

ทุกวันนี้แมนยูก็ถือว่ามาไกลมากแล้วนะครับ (แชมป์ 4 จาก 6 ปี หลังสุด)
ตอนนี้มาไกลจนถึงจุดที่จะต้องชะลอหรือพักแล้วครับ (เปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่)
ทุกทีมจะต้องมีช่วงเวลานี้ครับ ไม่มีทีมไหนไม่เจอหรอก

ผมก็ยังสงสัยว่าไอที่ว่าทีมน่าจะไปได้ไกลกว่านี้คือยังไงอะครับ
แชมป์ทุกปี
ผลิตนักเตะดาวรุ่งขั้นเทพทุกปี
ยิงกระจุยกระจายทุกปี
เสียประตูน้อยที่สุดทุกปี(ปีนี้ก็ที่สองนะเนี่ย)
เล่นบอลสวยงามชนะด้วยความภาคภูมิใจทุกปี
ซื้อนักเตะเทพทุกปี - ไอทีมแบบนี้มันมีในโลกมนุษย์ด้วยหรอ..

[benz12]

ฟุตบอล ลูกกลมๆ จะกลิ้งไปทางไหนก็บอกไม่ได้เท่าไร ถ้าไม่ได้แชมป์ ต้องบอกว่า เสียดายมากๆ เพราะ โอกาส มาถึงเราแล้วเราทำไม่ได้

[UpToGru]

แมน ซิ ถ้าไม่มี เงินมาซื้อนักเตะ ขนาดนี้ ต่อให้ เปลี่ยนผู้จัดการทีม ปรับเปลี่ยน หรือ ลองผิด ลองถูก อีกสัก 10 ปี ก็ไม่มีทาง ได้แชมป์ หรอกครับ แต่เพราะเขามีตังค์ สิ่งที่เขาทำ เขาซื้อ ก็เพราะเขามีตังค์

ความสำเร็จ แบบรวดเร็วแบบสมัยนี้ จริงๆแล้ว เงินต่างหากที่เป็นปัจจัยต้น นักเตะ กับ ผู้จัดการทีม เป็นตัวแปรตาม ถ้า ตัวแปร ทั้ง 2 อย่างไปกันได้ดี พอถึงจุด สิ่งที่จะได้รับ คือ ความสำเร็จ
แต่จะสำเร็จต่อเนื่องได้หรือเปล่า มันขึ้นอยู่กับว่า องค์ประกอบ ต่างๆ มันไปได้มากแค่ไหน

ดูอย่างแมน ซิ จริงๆแล้ว ถ้าไม่มีดาราดังในทีม ก็เป็นแค่ ทีมกลางๆ เท่านั้น แต่พอมีเงินเข้ามา เขาก็พร้อมที่จะยกระดับมาตราฐานของตัวเองให้ ทันทัดเทียม แมน ยู ลิเวอร์พูล อาเซ เชลซี ให้ได้ วิธีที่เขาทำให้เร็วที่สุด ก็คือ ใช้เงิน จะจ้างโค้ช ผู้จัดการ นักเตะ จะลองผิดลองถูกเท่าไหร่ ถ้าลงล็อคเร็ว ก็ดีเท่านั้น แล้วเวลาเขาปรับเปลี่ยน เขาไม่ได้ใช้ ดาวรุ่ง(ที่รอเวลาเกิด) แต่เขาใช้ นักเตะ(ที่พร้อมใช้) ในการปรับเปลี่ยนซึ่งใช้ได้ทันที ซึ่งผลมันจะออกมาให้เห็นกันไม่นาน

อีกอย่าง แมนซิ ใช้เงินไปมากมายขนาดนี้ อาจจะเป็นวีธีที่เขาปูพี้นฐาน สู่ความสำเร็จในอนาคต ก็ได้ เมื่อ ฐานแน่น อันเกิดจาก เงิน ผู้จัดการทีม นักเตะ การที่ในอนาคต แมน ซิ จะต่อยอด จะหันกลับไปปั้นนักเตะ หรือ ซื้อ ดาวรุ่ง มาปั้น เอง เหมือน แมน ยู อาเซนอล ทำ ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก

และไม่มีใครรู้หรอกครับ ว่า ต่อไป เชลซี แมน ซิ ลิเวอร์พูล อาเซนอล สเปอร์ หรือ แม้แต่ แมน ยู ใคร จะได้แชมป์ ใครจะหมดยุค ใครจะครองยุค
แค่ต่อไป เมื่อมีโอกาสชนะ อย่าพลาด เท่านั้นเอง แล้วค่อยวัดกันดูต่อไป

สุดท้าย ต่อไป ต้องตระหนักว่า อย่าประมาท เน้นทุกนัด มีโอกาส แล้วอย่าให้พลาด เล่นก้นให้เต็มที่ เดี๋ยวก็แชมป์เอง

[pru010532]

ปัญหาคือสมัยการเราอยากได้ใครก็ต้องได้ ไม่มีทีมไหนมาแย่งเลย แต่ตอนนี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปหมด

[devil_never_die]

คุณบ้าไปแล้ว ลองคิดดู การเป็นบริษัทมหาชน กับ เจ้าของคนเดียวมันต่างกัน ตอนมาร์ตินเอ็ดเวิร์ด เค้าไม่ได้มายุ่งเพราะเวลาเป็นมหาชน เค้าให้ประธานบริหารเลย ส่วนผู้ถือหุ้นรอรับปัญผลอย่างเดียว แต่พอเป็นเจ้าของคนเดียวอย่างเกลเซอปั๊บ มันมีผลแน่นอน คุณบอกว่าถ้าพันธบัตรขายได้หนี้ก็คงเหลือราวๆ ไม่เกิน 250 ล้าน เข้าใจพันธบัตรมั้ย มันคือการเอาเงินอนาคตมาใช้ ยังไง หนัีมันก้อไม่ลด แต่เป็นการลดหนี้ในปัจจุบัน และแบ่งกำไรลงไป ลองคิดดูน่ะ คุณบอกว่า หนี้อาจจะลดเหลือ 250 ล้านปอน แต่คุณต้องแลกมาด้วยการได้กำไรลดลงจาก 100 ล้านเหลือ 50 ล้าน(สมมุติ) แล้วคุณบอกว่ามันจะไม่กระทบต่อการซื้อได้ไง ในเมื่อแมนยู ตั้งใจที่จะทำให้ไม่กระทบต่อ ผลของบัญชี มันกระทบแน่นอนอยุ่แล้วครับ เงินจากโด้ 80 ล้าน มันไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น คุณบอกว่า แมนยูซื้อ 20-30 ล้านต่อปี คุณไม่คิดถึงเงินเฟ้อเหรอ แต่กก่อนเราช๊อบหลักแสน ไอ้พวกนี้มันต้องเพิ่มขึ้นทุกปีครับบ !!!

แมนยูไม่มีปัญหาเลยในการซื้อตัว ถ้าเข้าใจเเละเปิดใจให้กว้างๆ แมนยูซื้อ ยาย่า แมนซิ้กะยื่นซื้อ แมนยูยื่นซื้อนาสรี่ ซิตี้กะยืนซื้อ เงินค่าตัวมีจ่ายแน่นอนครับ แต่เงินค่าจ้าง รายสัปดา มันจ่ายไม่ไหว ถามว่าการมีเงินเข้าสโมรสรมันก็ต้องมีที่มาของเงินที่สามารถตรวจสอบได้ รู้ไหมเรือมันทำยังไง อันดับแรก เซ็นสัญญาสปอนเซอบนอกเสื้อใหม่ แต่ก็ยังไม่สามารถลบตัวเลขแดงๆได้ พี่แกก็ขายชื่อสนามจาก ซิตี้ออฟเเมนเชสเตอร์ เป็น อัลลีฮัล สเตเดี้ยม หรือคุณอยากให้ขายชื่อ โอลเเท๊บฟอร์ดทิ้งไป เอางั้นไหม น่าจะได้หลายร้อยปอนอยู่ ท่าจะดี ผมไม่เห็นเราจะมีปัญหาเรื่องค่าตัวเลย แต่ปัญหาจริงๆคือ ค่าเหนื่อย ถ้าปล่อยให้มีการเรียกร้องค่าเหนื่อยสูงๆ ต่อไปจะซื้อใครมาก็คงไม่พ้น 150000 + หรือเกิดใครฟอร์มเเจ่มๆต่อสัญญาที่ก็คง เรียกร้องกันวุ่นวาย ถ้าเพดานเงินเดือนมันสูงไปรายจ่ายเพิ่ม แล้วที่มาของรายรับเราจะเอามาจากไหน 80ล้านของโด้ ผ่านมา2ปีป่านนี้ หายไปหมดหล่ะ 2ปีนี้ซื้อนักเราะมาก็รวมๆ70แล้ว จะเหลือทำไรได้ ถ้าเราไม่สนใจค่าเหนื่อย อนาคตสโมสรคงลำบาก จริงๆหล่ะ

[AquilaniRooney]

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ ตอนนี้ผมเข้าใจหมดแล้ว คือเราไม่ได้มีนโยบายทุ่มเงินบ้าเลือดแบบแมนซิมาแต่ไหนแต่ไรแล้วใช่มั้ยครับ ขอถามอีกอย่างนึงครับ ถ้ากฏ financial fair play ของยูฟ่ามีผลบังคับใช้เนี่ย แมนซิจะยังกล้าทุ่มบ้าเลือดแบบนี้อยู่ป่าวครับ

[akillis]

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ ตอนนี้ผมเข้าใจหมดแล้ว คือเราไม่ได้มีนโยบายทุ่มเงินบ้าเลือดแบบแมนซิมาแต่ไหนแต่ไรแล้วใช่มั้ยครับ ขอถามอีกอย่างนึงครับ ถ้ากฏ financial fair play ของยูฟ่ามีผลบังคับใช้เนี่ย แมนซิจะยังกล้าทุ่มบ้าเลือดแบบนี้อยู่ป่าวครับ

ถ้ามีออกมาใช้ ยังไงก็หาทางซิกแซกได้อยู่แล้ว ขอเพียงมีเงินเข้ามาในรายรับ ตัวเลขบัญชีก็ยังไม่ติดลบ เผลอๆ แมนซิอาจจะมีบริษัทเครือข่าย แล้วมาเป็นสปอนด์เซอร์ เข้าตำราเงินยายซื้อขนมยาย5555+

นอกจากจะมีกฏห้ามใช้เงินซื้อนักเตะเกินเท่านั้นเท่านี้ มีเพดานระบุกันไปเลยก็ดีเหมือนกันนะ

[AquilaniRooney]

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ ตอนนี้ผมเข้าใจหมดแล้ว คือเราไม่ได้มีนโยบายทุ่มเงินบ้าเลือดแบบแมนซิมาแต่ไหนแต่ไรแล้วใช่มั้ยครับ ขอถามอีกอย่างนึงครับ ถ้ากฏ financial fair play ของยูฟ่ามีผลบังคับใช้เนี่ย แมนซิจะยังกล้าทุ่มบ้าเลือดแบบนี้อยู่ป่าวครับ

ถ้ามีออกมาใช้ ยังไงก็หาทางซิกแซกได้อยู่แล้ว ขอเพียงมีเงินเข้ามาในรายรับ ตัวเลขบัญชีก็ยังไม่ติดลบ เผลอๆ แมนซิอาจจะมีบริษัทเครือข่าย แล้วมาเป็นสปอนด์เซอร์ เข้าตำราเงินยายซื้อขนมยาย5555+

นอกจากจะมีกฏห้ามใช้เงินซื้อนักเตะเกินเท่านั้นเท่านี้ มีเพดานระบุกันไปเลยก็ดีเหมือนกันนะ

อ๋อ มิน่าหละครับ ทำไมมันถึงเปลี่ยนชื่อสนามตั้ง 400 ล้านปอนด์ แพงเว่อร์ ตอนแรกผมก็งงว่าชื่อสนามเหี้ยไรราคาตั้ง 400 ล้าน ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว