เฟอร์กี้บอกเอง..ยังต้องการอีกหนึ่งตำแหน่ง...
ผมคิดว่าบางทีอาจจะมีการเซ็นสัญญาเพิ่มอีกซักตำแหน่งนะ ปีนี้เราใช้เงินไปเยอะ และนั่นเราต้องคุยกับเจ้าของสโมสร แต่ผมเชื่อว่าเค้าจะยอมจ่าย... อย่างไรก็ตาม มันต้องขึ้นอยู่กับว่ามีนักเตะคนนั้นที่เราต้องการอยู่ในตลาดด้วย...
เวนเกอร์ห่วงแทนเฟอร์กี้ เวลเบค ชิชาริโต้...เมื่อไหร่จะได้เล่น
นั่นแหละ ความแตกต่างของทีมนึง สร้างทีมเพื่อคว้าแชมป์ กับทีมนึง สร้างทีมเพื่อรอวันขายนักเตะที่ฟอร์มดี... เหตุผลที่อาร์เซนอล ไม่ได้ลุ้นแชมป์ เอาแต่ปั้นนักเตะขายไปวันๆ เพราะเวนเกอร์ มีความเป็นครูมากไป เอาแต่สร้างนักเตะ แต่ไม่ประเมินสภาพทีม ว่ามีดีเท่านี้ จะพอที่จะไปลุ้นแชมป์กับเค้าหรือเปล่า... การได้เห็นทั้งเชลซี และแมนซิตี้ ก้าวหน้าขึ้นมาแบบนี้ สโมสรที่ต้องการแต่แชมป์ เท่านั้นอย่างแมนยูฯ ถ้าอยู่เฉยก็ไม่ใช่แมนยูฯแล้วล่ะ...
ไหนว่าจะซื้อเบอร์บาตอฟ เซนิตบอกไม่มีกั๊กว่าอยากได้นานี่...
อาศัยจังหวะที่การเจรจาสัญญาระหว่างแมนยูฯ และนานี่ยังไม่ได้ข้อสรุป เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ยื่นข้อเสนอเป็นทางการเข้ามาให้แมนยูฯ พิจารณาแล้ว แต่ไม่วายตีกัน บอกจะไม่ยอมจ่ายแพงเวอร์แน่... ในขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าเซนิตได้ถอนข้อเสนอซื้อเบอร์บาตอฟเรียบร้อยแล้ว ...
เฟอร์กี้เปรียบการเซ็นฟานเพอร์ซี่เหมือนสมัยได้คันโตน่า...
การเซ็นสัญญากับฟานเพอร์ซี่ เป็นการซื้อจากคู่ปรับโดยตรง อย่างอาร์เซนอล เทียบกับแมนยูฯ ที่ได้คันโตน่าจากลีดส์ ที่เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์กันในสมัยนั้น...นอกจากนี้เฟอร์กี้ยังเชื่อว่า ฟานเพอร์ซี่จะมีอิทธิพลกับการพัฒนาของนักเตะดาวรุ่งในทีม อย่างเวลเบค และชิชาริโต้ ที่จะได้เรียนรู้ จากนักเตะเวิลคลาสอย่างฟานเพอร์ซี่ แม้แต่รูนี่ก็น่าจะได้ประโยชน์ด้วย...
พูดแบบนี้ นักเตะในทีมก็เตรียมตัวรอย้าย...
เวนเกอร์แอบจิกกัดแมนยูฯ บอกว่าไม่มีทางที่เราจะยอมจ่าย 250,000-300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อย่างแมนยูฯ ... เสียงดังแบบนี้ นักเตะในทีมอาร์เซนอล คนไหนไกล้หมดสัญญาก็เร่งโชว์ฟอร์มให้เตะตาทีมเงินหนาเข้าไว้ อยู่อาร์เซนอล ได้แค่เป็นอคาเดมี่แฟนตาเชียแน่นอน... เท่าที่รู้ ค่าเหนื่อยของนักเตะในระยะหลัง ได้มีการบวกค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ของนักเตะไปเรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่ารายได้จากการขายเสื้อ และโฆษณาในนามสโมสร เกี่ยวกับนักเตะ จะไม่ต้องแบ่งให้นักเตะเพิ่มอีกแล้ว... ตัวเลขถึงได้สูงมหาศาล... ก็น่าจะคุ้มกับสโมสรเช่นกัน...