เราอาจจะเห็นดิมาเรียคือความหวือหวา เป็นนักเตะที่สร้างความแตกต่างได้.. แต่สิ่งที่น่ายินดีกว่านั้นสำหรับผม คือการกำเนิดของคู่กองกลางอย่างอันเดอร์ เอเรร่า และดาเลย์ บลินด์ ... ทำไมถึงมั่นใจขนาดนี้ แม้จะเป็นนัดแรก...
คนแรก เอเรร่า ... ความขยันในการทำเกมวิ่งไล่บอล วิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล การยิงประตู เราเห็นมาไม่น้อยแล้ว ผมว่าหลายๆคน(โดยส่วนใหญ่) ก็น่าจะเชื่อว่านี่แหละ คือนิวสโคลส์ คนที่จะเติมเต็มใจกลางของเรา... คุณภาพของคนนี้ ผมว่าไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากแล้วล่ะ...
ว่ากันด้วยอีกคนเลยดีกว่า บลินด์ ... สิ่งที่ฟานกัลพูดไว้ไม่ได้เกินเลยจากความเป็นจริง นิยามที่ว่า บลินด์คือกองกลางที่ยอดเยี่ยมในความคิดของเค้า รู้ว่าต้องเพรสเชอร์เมื่อไหร่ จ่ายบอลให้คนที่ว่างอยู่ได้เสมอ และวิ่งไม่มีหมด ที่สำคัญคือการอ่านเกม... สิ่งที่ผมเห็นทั้งเกม ก็คือ
1. บลินด์วิ่งไปรับบอลจากกองหลังเพื่อพาบอลขึ้นไปบุก อันนี้สำหรับผม สำคัญมากทีเดียว เพราะกองหลังไม่ว่าจะแทคเกิ้ลเก่งแค่ไหน เรื่องการผ่านบอล ยังไงก็ต้องเป็นรองมิดฟิลด์ นักเตะที่ไม่กลัวที่จะรับบอลหน้าแผงกองหลัง กล้าที่จะทำเกมจากจุดนั้น มันคือการทำเกมของยอดทีมเท่านั้น ไม่งั้นก็คงไม่พ้นกองหลังสาดบอลขึ้นหน้าไปลุ้น... ที่สำคัญคือเราได้ถึง 2 คนที่ลงไปล้วงบอลทำเกม ทั้งบลินด์ และเอเรร่า... ก่อนหน้านี่คงยังจำกันได้ ให้สังเกตุการเล่นของเฟลทเชอร์ ที่ชี้โบ้ชี้เบ๊ ให้กองหลังจ่ายไปทางอื่น อย่าส่งมาให้กู เห็นภาพจนเหนื่อยหน่าย ชินตา... หมดหวัง...ตอนนี้ความหวังกำลังกลับมาล่ะครับ
2. สัมผัสแรกของบลินด์ และสโตรกบอล เบสิคที่เห็นจนชินตา สิ่งเล็กๆที่ทำให้พอลสโคส์เหนือกว่ากองกลางทั่วไป ก็คือสัมผัสบอลแรก ที่เค้าจะเน้นเป็นอย่างมาก... การจับบอลแรกต้องได้เปรียบ ถ้าจับบอลไม่ดี ต้องเสียเวลาแต่งเยอะ ก็เสียจังหวะสร้างสรรเกมดีๆไป ... หากใครไม่ได้ดู แนะนำให้ไปดูย้อนหลัง การจับบอลของบลินด์ ... อีกอย่างคือสโตรกบอล คือน้ำหนักการผ่านบอล ความพุ่งของบอล ผมรู้สึกว่าแน่นมาก ไม่ค่อยมีแป้ก กระดอน น้ำหนักขาด นี่คือเบสิคที่กองกลางตัวเชื่อมเกมต้องมี แม้ว่าจะมีบางจังหวะโดนบีบเร็วเกือบเสียบอลในช่วงแรก แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งดี ปรับจังหวะเข้ากับการเพรสเชอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ถูกใจมากๆๆ
3. ไม่มีหลุดตำแหน่ง... สิ่งที่เห็นชัดเจน ต่างจากกองกลางไร้อนาคตอย่างเทพเฟลท ก็คือการยืนตำแหน่งในเกมรับ และเกมรุก ตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์ จำเป็นต้องอ่านเกมให้ขาด คนไม่มีวิสัยทัศน์ อ่านเกมมั่วๆ จังหวะบีบไม่บีบ จังหวะเติมไม่เติม มันก็คือระเบิดเวลา สร้างช่องโหว่ให้กับทีม และเหนื่อยหนักกว่าเดิมเวลาต้องให้ทั้งทีมกลับมาวิ่งไล่บอล... สิ่งที่ผมเคยเห็นและคาดหวังกับเฟไลนี่ ที่จะยืนเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์ เพราะเคยเห็นในบางเกมยุคมอยส์ ที่โดนจับอยู่หลัง แต่ปัญหาของเฟไลนี่คือชอบหลุดตำแหน่ง ขึ้นไปรอเล่นบอลสาด ซึ่งเป็นบอลที่ผิดพลาดและเสียง่ายที่สุด... จนวันนี้ได้มาเห็นสิ่งนี้จากบลินด์ในที่สุด...
4. อย่าเผลอ มีเติม... หลังจากยืนค้ำเกมรับอย่างมั่นคง แต่จากเมื่อคืนคงได้เห็นกันแล้ว เผลอแป๊บเดียวเติมมายิงไกลเฉย ถ้าได้ซ้อมเรียกจังหวะอีกหน่อยเผลอๆฟัลกัลจัดหายไปแล้ว...
ผมเห็นภาพในไม่เกินอีก 2-3 นัด คนที่จะค่อยๆกลายเป็นกลจักรสำคัญในแผงกองกลางที่ขาดไม่ได้ ก็คือบลินด์เนี่ยแหละ... จะได้เห็นความยอดเยี่ยมกันมากกว่านี้แน่นอน... รอดูได้เลย...