ผมคัดมาเฉพาะที่เกี่ยวกับรูนี่ย์เท่านั้นนะครับ...
ความสัมพันธ์ระหว่างเจฟเฟอร์สและรูนี่ย์นั้นเข้าใจได้ไม่ยาก ทั้งคู่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของท็อฟฟี่สีน้ำเงินที่โตมาจากชุมชนคร็อกซ์เทธ โดยเจฟเฟอร์สประเดิมลงสนามให้ต้นสังกัดตั้งแต่ปี 97 ขณะที่มีอายุได้ 16 ปี แล้วอีก 5 ปีต่อมารูนี่ย์ก็ประเดิมลงสนามให้ทีมขณะที่อายุเท่ากันโดยอ่อนกว่าแค่ 38 วันเทียบกับแมตช์เปิดตัวของเจฟเฟอร์ส จากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2003 ซึ่งขณะนั้นเจฟเฟอร์สย้ายไปอยู่อาร์เซน่อลแล้ว ทั้งคู่ก็ได้ลงเล่นร่วมกับในนามนักเตะทีมชาติอังกฤษโดยลงมาเป็นตัวสำรองในเกมอุ่ยเครื่องที่อัพตันพาร์คซึ่งแพ้ออสเตรเลียไป 3-1 หลังจากนั้นเส้นทางของทั้งคู่ก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เจฟเฟอร์สได้พูดถึงตอนที่เผชิญหน้ากับรูนี่ย์ครั้งแรกเมื่อรูนี่ย์ซ้อมกับทีมชุดใหญ่หนแรกเมื่ออายุ 14 ว่า “เขาป่วนเดฟ วัตสัน ตลอดทั้งเกม ผมเห็นกองหน้าเพียงแค่ไม่กี่คนที่จะทำอย่างนั้นกับเขาได้ในเกมพรีเมียร์ลีก แต่เวย์นทำได้ทันทีที่เขาลงสนามซ้อม” “เขาเป็นเอฟเวอร์โตเนี่ยนตัวจริง ผมนั่งกับเขาในห้องแต่งตัวแล้วเขาไม่พูดอะไรซักคำ เขาดูขี้อายมาก แต่พอลงไปในสนามเขาบงการเกมให้อยู่ภายใต้อุ้งเท้าของเขา คุณคงคิดว่าเขาทำอย่างนั้นได้ยังไง? เขาก้าวไปอยู่จุดสูงสุดได้อย่างที่ผมเคยทำ แต่จริงๆแล้วเขาสุดยอดมาตั้งแต่อายุ 14, 15” “สำหรับผมแล้วเขาน่าจะเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลของอังกฤษ แต่คงจะมีคนพูดว่า “แกบ้าไปแล้วหรือเปล่า? คนโน้นคนนี้ดีกว่าอีก” แต่เท่าที่ผมรู้ก็คือเขากำลังจะได้ลงสนามมากกว่ากองหน้าคนไหนๆเคยเล่นมา และเขาจะยิงได้อีกเรื่อยๆ นั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณเป็นกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลไม่ใช่หรอ? นอกจากนี้ไหวพริบในการเล่นบอลยังทำให้เขาสามารถทำได้ทุกอย่างอีกด้วย”
“ผมดูเขาเล่นกับสเปอร์สในถ้วยเอฟเอยูธคัพ และเขาก็ยิงหนึ่งในประตูที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา เขายิงฟรีคิกแล้วมันเด้งกลับมาหาเขา จากนั้นเขาก็ซัดไปเต็มข้อระยะซัก 30 หลาได้มั้ง เขายิงเหมือนกับว่าบอลมันจะทะลุออกไปนอกสนามยังไงยังงั้น เพราะเขารู้สึกหงุดหงิดที่ยิงไปติดกำแพงในตอนแรก ไม่น่าเชื่อว่ามันเสียบมุมบนเฉยเลย นั่นคือสิ่งที่คุณคาดหวังได้จากเขา คุณรู้ว่าเขาทำได้”
