iovoi เขียน:ผมว่าผลงานของทีมระยะหลังเล่นดีขึ้นระบบและตัวผู้เล่นเริ่มลงตัว ให้เวลาให้เขาปรับแต่งอีกสักหน่อยผลงานของทีมจะแจ่ม

ผลงานของ ยูไนเต็ด ในระหลังดีขึ้นจริง แต่ไม่ใช่เพราะลุงอ้วนรองทรง
แต่เป็นเพราะลุงอ้วนรองทรงโดนวิจาณ์หนักมาก โดนแฟนบอลโห่ ทรงบอลก็กาก
ก็เลยยอมทำตามที่แฟนบอล+อดีตนักเตะหลายๆคนเรียกร้องต่างหากล่ะ
เกินครึ่งฤดูกาลกับระบบ 3-5-2 เกินครึ่งฤดูกาลที่ให้นักเตะเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองไม่ถนัด ฝืนธรรมชาติ
เอากองหน้าไปเล่นกองกลาง เอาปีกไปเล่นกองหน้า เอากองหลังตัวเซ็นเตอร์ไปเตะมุมเปิดลูกนิ่ง
จะเห็นว่า ปรัชญาบ้าๆบอๆ ที่ ลุงอ้วนรองทรง นำมาใช้กับ ยูไนเต็ด ทุกอย่างนั้น ล้มเหลวหมด
พอโดนวิจาณ์หนักขึ้นเรื่อยๆ โดนแฟนบอลในสนามโห่ เพราะทรงบอลอันแสนจะทุเรศ
ก็เลยมาจบที่ให้นักเตะกลับมาเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด
ซึ่งมันก็คือระบบ 4-4-2 (4-4-1-1 ระบบปีก 2 ข้าง)
ระบบธรรมชาติที่ ยูไนเต็ด คุ้นเคยมานานแสนนาน
เป็นระบบที่ไม่ฝืนธรรมชาติของนักเตะ เป็นระบบที่ไม่ต้องใช้ปรัชญาบ้าๆบอๆ
แล้วผลงานมันก็ดีขึ้นอย่างที่เห็นๆกัน ทรงบอลก็ไม่ทุเรศเหมือนช่วง 20 กว่าเกมแรกแล้ว
สไตล์การคุมทีมลุงอ้วนรองทรงก็แสนจะอุบาทว์ นั่งเฉยทำหน้ามึนๆงงๆตลอด 90 นาทีได้ยังไงกัน?
มีผู้จัดการทีมของทีมใหญ่ๆในโลกนี้คนไหนที่ เค้านั่งเฉยๆกันแบบนี้บ้าง?
เชลซี, รีล มาดริด เค้าเปลี่ยนผู้จัดการทีมตั้งหลายคน คนไหนผลงานไม่เข้าตา ปีเดียว (บางคนไม่ถึงปีด้วยซ้ำ) ก็โดนปลดแล้ว
ดิมัตเตโอ พาเชลซีได้ดับเบิ้ลแชมป์ (เอฟเอคัพ+ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก) อีกไม่กี่เดือนต่อมายังโดนเสี่ยหมีไล่ออกเฉยเลย
เพราะงั้นไม่มีใครรู้หรอกว่า ใครคนไหนมาคุมทีมแล้วจะดีหรือไม่ดี แต่การเปลี่ยนผู้จัดการทีมบ่อยๆ มันก็ไม่ได้ทำให้ เชลซี, รีล มาดริด แย่ลงเลย
และหากจบฤดูกาลนี้ ถ้า ยูไนเต็ด ได้ที่ 4 แล้วบอร์ดบริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ไล่ลุงอ้วนรองทรงออก มันก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย
ยิ่งเป็นทีมใหญ่การเปลี่ยนผู้จัดการทีมบ่อยๆ ยิ่งเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดา
ใช้เงินไปก็เยอะแต่ดันเป็นแชมป์ว่าว การห่างจากความสำเร็จเนี่ย ยิ่งนานเท่าไร
สปอนเซอร์+แฟนบอลทั่วโลกก็จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ มันไม่เป็นผลดีกับทีมใหญ่หรอก
เป็นทีมใหญ่ แล้วห่างความสำเร็จไปนานๆ ในอนาคตอันใกล้ ทีมก็จะไม่ใหญ่อีกต่อไป
