
เปิดฤดูกาลมาใหม่มา 2นัด ท่ามกลาง ความคาดหวังของแฟนบอลปีศาจแดง สยามประเทศแถบอาเซียน สูงปรี๊ด แม้6แต้มเต็ม แต่ ทำไม มีแต่คอมเม้นท์ เบื่อรูนีย์ เอือม ฟาน กัล มีแต่คนไล่ มีแต่คนถากถาง ??? ทั้งในเฟส ในเว็บบอร์ดต่างๆ จนไม่ได้มองความเป็นจริง ในแต่ละเกมแล้ว
จริงๆ เว็บบอร์ด ก็คล้ายๆ ร้านกาแฟ ร้านเหล้า สำหรับคนชอบบอล ที่หลังเกม เรามา พูดคุย ถกเถียง บ่น ระบาย แน่นอน มันก็มาจากความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ไม่พอใจ ก็ต้องด่าเป็นธรรมดา เวลาผมเข้ามาอ่าน ก็มันส์ๆแสบๆคันๆดี แม้บางประเด็นจะไม่เห็นด้วย และบางประเด็นจะกากจะหยาบไร้ซึ่งตรรกะ แต่มันก็เป็นสีสัน และผมก็เคารพในความ คิดของทุกคน (แม้บางคน จะเด็กกว่าผม 10-20ปี)

แต่ การที่ทีม เล่นไม่ถูกใจ ทำทีมไม่ดีดังใจ แล้วพอเกิดอุปทานหมู่ "เบื่ออ้วน ปรัชญา อ้วนรองทรง" + "เซ็งหมูหมดไฟ หมูลูกรัก" ก็รุมด่า ตั้งแต่เห็นเงาในทีมชีท ยิ่งพอลงสนามแล้วไม่ได้ดั่งใจ ยิ่งปูพรมด่า ทั้งก่อนเกม - หลังเกม บางรายถึงกับไล่ ฟาน กัล ให้ออกไป แล้วก็บ้วนรายชื่อ คล็อปป์บ้าง บล็องก์บ้าง เป๊บบ้าง จนไปถึง กิ๊กส์บ้าง ! แบบแค่มองโหงวเฮ้ง กับความสำเร็จในทีมอื่น ก็ยกว่า จะดีกว่า คนที่ทำงานปีแรก จบที่4ในลีกสุดหิน และลามมาจน ผ่านมา2นัดของปีนี้ ได้6แต้มเต็ม ยังถูกไล่ด่ายับขนาดนี้
ผมไม่ได้บอก... ว่าผมพอใจกับ การวางแผนการเล่น หรือการสร้างแมนยู ยุคใหม่ ในสไตล์ หลุยส์ ฟาน กัล เพราะผมโตมากับแมนยู 4-4-2 บุกแหลกด้วยปีกตัว
จี๊ด2ข้าง เดินหน้าฆ่ามัน.... ยุคนี้ ยอมรับว่า งง กับ ฟาน กัล ในหลายๆครั้งเหมือนกัน

แต่... ช่วงปรีซีซั่น มาจนถึง 2นัดฤดูกาลใหม่ที่ผ่านมา ผมเริ่มเห็นความเป็นระบบที่ชัดเจนของเขา แพทเทิร์นของทีมลงตัวแล้ว เขาแค่สลับนักเตะมาวางลงใน
ตำแหน่ง เพื่อหาคนที่ดีที่สุด ชุดแรก กับชุดสอง ในแบบความคิดของเขา ผมเริ่มพอใจ และอดทนรอไปกับเขาได้ อย่างน้อย ทีมเรา ก็ยังฟื้นเร็ว ฝืนกฏวัฏจักรความสำเร็จได้ ไม่เหมือนบางทีม ที่ตกจากสูงสุด ในยุค80 แล้วยังลุกไม่ขึ้นเลย
ผมเห็นด้วย กับหลายๆคน ที่มองว่า "รูนีย์ ฟอร์มตก" แต่ผมยังเชื่อว่า เขายังมีไฟ เขาแค่เปลี่ยนสไตล์มาเล่นเพื่อทีมมากขึ้น ยิ่งอายุเยอะขึ้น สปีดก็ตกลง ไม่เหมือนหมูตกมัน ก้มหน้าก้มตา ตะลุยเข้าในเขตโทษ หรือยิงแม่มทุกจังหวะ เหมือนสมัยห้าวๆ
ทำไม ไม่ลองเอา ชิชา เอา วิลสัน มาเล่นบ้าง หรือซื้อ ดาวยิงบิ๊กเนม มาแทนไปเลย ในเมื่อ2นัดที่ผ่านมา รูน แทบหายไปจากเกม ?
ตามความคิดผม ฟาน กัล กำลังทดลองหมุนนักเตะใหม่-เก่า โดยเฉพาะกองกลาง 6-7คน แต่ฤดูกาลแข่งจริงมันเริ่มแล้ว จะหมุนมันทั้งทีม ตั้งแต่กองหน้า ยันผู้รักษาประตูเลย มันก็ไม่ได้ ทีมเวิร์คจะพังหมด ยังไง ก็ต้องมีตัวยืนเป็นแกนก่อน แล้วหมุนตัวอื่นมาลง จนกว่า จะได้ตัวที่ดีที่สุด เข้ากับระบบที่สุด นี่คือเหตุผลที่ ทำไม รูนีย์, คาร์ริค, สมอลลิ่ง, บลินด์, มาต้า ลงตัวจริงทุกนัด (3คนแรก กฏโฮมโกรว์น ก็มีผลด้วย) พวกกลุ่มนี้ จะเล่นดี ไม่ดี ก็ได้ยืนจนจบเกม ยกเว้น คาร์ริค ที่เล่นครึ่งเดียวเพราะสังขาร แต่ยังไง ก็เริ่มเจอคู่ต่อสู้ด้วย คาร์ริค เพื่อให้แดนกลางนิ่งก่อน แล้วคอยดูฝ่ายตรงข้ามมาแผนไหน แล้วค่อยเปลี่ยนทีหลัง
สำหรับ รูนีย์ ก็เช่นกัน ฟาน กัล วางเขาเป็นตัวยืนในแผน กองหน้าตัวเดียว แล้วเปลี่ยนคนที่รอบๆตัวเขา ไปมา เพื่อหาคนที่ใช่ ฉะนั้น รูนีย์ ไม่ใช่แค่ต้องลงไปเป็นกองหน้าเท่านั้น ทุกๆสัปดาห์ เขามีหน้าที่ต้องเล่นประคอง คนที่เปลี่ยนลงมาด้วย
ถ้าคุณเคยเล่นบอล เวลาคุณลงทีมไปเจอเพื่อนคนเดิม คุณ กับเขา จะรับส่งบอล ทำทางกันได้เหมือนง่าย แต่วันไหน ต้องไปรวมทีมกับคนอื่น คงได้ตระโกนด่ากันตลอดเกม แม่มทำไมไม่ส่ง, พอกูวิ่งทำทาง มึงเสือกเลี้ยงเอง พอกูไม่มองมึง มึงเสือกส่งมา ซะแรง (ไอ้ฟัสสส)

ยิ่งถ้าเกมระดับอาชีพ ระดับโลกแบบนี้ คู่ต่อสู้ไม่ใช่ไก่กา กองหลังเขาเวลาเจอกองหน้าตัวเดียว วิ่งรุมกินโต๊ะสบายๆ ไม่เก่งจริง ได้หายตัวไปจากสนามทั้งเกม ตอนนี้ รูนีย์ เจอแบบนี้ทุกเกม ต้องยืนพิงกองหลังลำพัง วิ่งหลงไลน์กับเพื่อนบ่อยๆ จนลิ้นห้อย วิ่งชิงกับดักล้ำหน้า เพื่อนก็ส่งช้า เลยล้ำหน้ามันอยู่นั่นแหล่ะ และ พวกเราก็คง ได้เห็น รูนีย์ต้องลิ้นห้อย จนกว่าจะได้บัดดี้ ที่เล่นด้วยกันจริงๆ เมื่อนั้น คงได้เห็น ฟอร์มของรูนีย์ อีกครั้ง... (หรือไม่ ก็ประคองคนอื่น จนตัวเองถูกเตะ ถูกแซะจนเดี้ยงไปเอง)

ภาระอย่าง รูนีย์ ผมมองไม่เห็นคนอื่นในทีม ที่จะทำแบบนี้ได้ ไม่ว่า ชิชา หรือ วิลสัน ตัวที่ใช่ มันต้องสามารถเล่นแบบ โรเมลู ลูกากู ของเอฟเวอร์ตัน ที่เจอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน เกมเมื่อวาน ต้องถึก ต้องเบียด ปะทะ วิ่งบังกองหลัง เปิดทางให้เพื่อน แล้ววิ่งมารอเข้าฮอส ภาระแบบนี้ ในทีมเรา มีรูนีย์ ได้คนเดียว ที่เป็นได้ (หรือใคร จะเสนอชื่อ หัวฟู)
ไอ้ครั้น จะซื้อตัว กองหน้า เวิลด์คลาส ได้ทันทีทันใด สมใจแฟนๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาไม่ย้าย เขาไม่ขาย เขาไม่รักเรา เอาเงินไปกอง ก็ใช่ว่าจะมา มาแล้ว มีใครบอกได้บ้าง ว่าวิ่งลงสนามไปแล้ว จะดีกว่า รูนีย์ ? เพราะเห็นบ่นกัน ว่า ซื้อแต่กองกลาง มาเยอะแยะทำป๊ะอะไร กองหน้าไม่ซื้อ....
ผมเชื่อว่า ไอ้ทุกตัวที่มีข่าวบ่อยๆ เรายื่นซองไปจีบแล้วแหล่ะ แต่พวกมันไม่มา และเขาไม่ขาย
ความจริงแบบที่แฟนๆทุกคนพูดก็ถูก คือ กองหน้า มันต้องมีบทบาท มากกว่า ลงไปวิ่งให้ครบ 11 ตัว แต่ผมมองความเป็นจริงก่อนครับ ว่าในทีม มีตัวแบบที่ทำได้มากกว่า รูนีย์ รึเปล่า?
จริงๆ ประเด็นใหญ่ๆ ก็คือ แฟนๆเริ่มจะเบื่อ ระบบของ ฟาน กัล ทั้งแผนการเล่น ที่ครองบอล ถ่ายไปมา คืนหลัง (แม่มทั้งเกม) โดยเฉพาะการจัดตัวที่แย้งสายตาสุดๆ
เรื่องการครองบอล แปลกนะ ผมกลับมองว่า เริ่มแบบนี้ มาถูกทางแล้ว สมัยยุครุ่งเรืองในมือป๋า เราได้เข้าไปเล่นแชมเปี้ยนลีกกี่ครั้ง ส่วนใหญ่ จะครองบอลสู้ทีมในภาคพื้นยุโรปไม่ได้ และมักจะแพ้ กับทีมที่ครองบอลดีๆตลอด ส่วนเกมที่เราชนะ ก็มาจากทีเด็ดทีขาด แบบไม่กี่จังหวะ เฮ เลย
ผมบ่นป๋ากับตัวเองบ่อยๆ ทำไม ไม่ฝึกการครองบอล และส่งบอลให้แม่นยำกันหน่อยนะ แต่พอเรา ดูการเล่นของทีมบ่อยๆ เห็นภาพความเป็นจริง ก็เข้าใจป๋า เพราะสไตล์ของแมนยู ยุคป๋า เป็นแบบเล่นเร็ว ใช้จังหวะเข้าทำแบบได้เสีย โอกาสผิดพลาดจึงเห็นบ่อย แต่พอจังหวะมันคลิ้กกัน ก็สำเร็จโทษคู่แข่งได้เลย...
จนมายุคปลายๆ พอทีมเราไม่เหลือตัวทีเด็ดทีขาดแบบยุคก่อนๆ ป๋า ก็หันมาใช้แผน เล่นช้าลง ครองบอลมากขึ้น เพื่อสู้กับทีมยุโรป พวกเราคงจำกันได้
ฟาน กัล มารับช่วงทีม มีชาติตระกูล มีกลิ่นแชมเปี้ยน (ที่กำลังขาลง) แบบนี้ ในปีสองปีแรก การทำทีม ให้เล่นเหนียว ไม่แพ้ไว้ก่อน คือ สิ่งที่กุนซือผ่านร้อนผ่านฝนอย่างเขา จำเป็นต้องทำ ครองบอล ถ่ายไป ถ่ายมา อยู่กับทีมตัวเอง เข้าทำไม่ได้ แต่มันก็ไม่เสีย ดีกว่า การบุกแหลก ส่งบอลเสี่ยงๆ คิลเลอร์พาส แล้วถูกคู่แข่งตัดได้ จบเกมแพ้ !! เชื่อสิ คนที่เคยพูดว่า "เล่นเกมบุก เล่นสนุก แล้วแพ้ ก็ไม่ว่ากัน" จะออกมาการันตี ตำแหน่งงาน ให้แกได้ ทำงานต่อได้ไหม
ปัจจุบัน จะมีใคร ได้โอกาสอย่าง ป๋าเฟอร์กี้ หรือ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ทำทีม 4-5ปี ไม่ได้แชมป์ แค่วนเวียน 10อันดับแรก ก็ไม่เป็นไร ยังได้โอกาสทำทีมต่อ
ขนาดเกมแรก คว้า3แต้มตามเป้า จาก สเปอร์ส (ด้วยฝีเท้า ไคล์ วอล์กเกอร์ ช่วยยิงให้ เพราะกลัว รูนีย์ ยิงจ่อๆไม่เข้า) ยังถูกแฟนๆเมืองไทยด่าซะยับ เล่นน่าเบื่อ ยืนกันมั่ว ไม่มีประสิทธิภาพ...!!!
เอ่อ ขอโทษครับ เล่นกับ สเปอร์ส ไก่มีชาติตระกูลนะครับ ไม่ใช่ บอร์นมัธ

ลองดูในสัปดาห์เดียวกัน ถ้าเปลี่ยนนัดนั้น เป็น แมนยู เปิดบ้าน เล่นเกมบุกแล้วเสมอ สวอนซี 2-2 หรือ เปิดบ้านเล่นเกมบุก แล้วแพ้ เวสต์แฮม 0-2 หรือ เล่นกับทีม สโต๊ค แล้ว พยายามจะบุก แต่ตลอด 45นาทีแรก ไม่มีโอกาสยิงเข้ากรอบสักครั้งเลย ทั้งๆที่ ซื้อผู้เล่นมามากมาย อาจารย์หลุยส์ กับ รูนีย์ ก็ยังโดนแฟนด่าอยู่ดีล่ะครับ โทษฐานที่เล่นกับทีมรอง แต้มต่อเยอะ แล้วจบแบบ3เกมนั้น
แฟนบอลไทย (บางคนเกือบหลายคน) ใช้คีย์บอร์ด+ประสบการณ์ดูบอล+มีเล่นรูหนูมาบ้าง แล้วพิมพ์ แสดงทรรศนะ กึ่งแนะนำปนคำหยาบ ว่าทำไมไม่จับ มาต้า เล่นหน้าต่ำ ทำไมไม่เอา ชิชาแทนรูน ให้หมูมันเล่นอยู่นั่นแหล่ะ ทำไมไม่เอาแอร์เรร่าลง ทำไมไม่เอา ยัง เล่นปีกขวา ทำไมเอาแต่ จดแลคเชอร์ จะไปทำวิทยานิพนธ์เหรอ ทำไม แต่ละเกมเอาแต่นั่งหน้า เป็นตูดอยู่ข้างสนาม ไม่ลงมายืนสั่งบ้าง ? ? ? ?
ในฐานะแฟนบอล ทำแบบนี้ ไม่ผิดครับ มันเป็นวิธีระบายออกของแฟนบอล ต่อทีมที่เขารัก นี่ขนาด ทำแบบที่เขาด่าๆกัน ก็ยังชนะ2เกม มีอะไรยืนยันครับว่า แบบที่เราอยากให้เป็นกัน ถ้าเขาทำตาม แล้วมันจะดี มันจะเจ๋ง แล้วถ้าเกิดมันไม่เวิร์ค คนอยู่หลังคีย์บอร์ดแบบเรา จะแสดงความรับผิดชอบอะไรได้บ้าง?
แต่คนอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ทำทีมต่อหน้า และสายตาคนนับล้านๆคน ในที่แจ้งทุกสัปดาห์ เขาเปลี่ยนแล้วพัง เขาโดนพิพากษาเต็มๆ มันต่างกันครับ เขาจึงต้องมีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีจุดยืน ไปเปลี่ยนตามใจ นักวิจารณ์ หรือ คนหลังคีย์บอร์ดแบบพวกเราไม่ได้หรอก

แต่แฟนบอล (จากสยามประเทศ) บางคน ก็เกินเลย พอ ฟาน กัล ยังทำแบบเดิมๆด้วยวิธีเขา พอนัดต่อไป ทีมเล่นไม่ดี ก็ออกมาด่า ออกมาไล่ ใส่สารพัดสัตว์ ล้อเลียนทรงผม ล้อความอ้วน จิกกัด ด่าว่า ยิ่งกว่าเขาไปข่มขืนยายข้างบ้านตัวเอง ยิ่งถ้ามีแฟนบอลคนไทยด้วยกัน (คนที่อยู่ในประเทศเดียวกัน) ที่มาเห็นต่าง มาคอมเม้นท์ มาแสดงความคิดเห็น ที่ต่างออกไป ยิ่งไม่ได้ ต้องเอาคืน ต้องพิมพ์ประชดเหน็บแนม ต้องแรงใส่กัน จนบางทีก็ งง ว่า พวกนี้ เขาเป็นอะไรมากป่ะ ขนาดตัวเอง ยังไม่ยอมรับความคิดเห็นคนอื่นเลย ทำไมคนระดับ ฟาน กัล ที่เขามีค่าจ้าง1เดือน เท่ากับพวกแกทำเป็นปี เขาต้องมาฟังคำแนะนำของพวกแก
ผมชื่นชม เจ้าของทีม หรือ ผู้ที่จ่ายเงิน สนุบสนุนทีม พรีเมียร์ลีก ที่เป็นคนไทย หลายๆคน เขามีความเป็นมืออาชีพสูงมาก เขาไม่ก้าวก่ายการทำงาน ผจก ทีม และสต๊าฟโค้ช ไม่เคยมีข่าว คนไทยไปล้วงลูก ไปใช้คีย์บอร์ดพิมพ์กดดัน ว่า ต้องเอาตัวนี้ลงตรงนั้นตรงนี้ ไม่ไปยุ่งว่าจะแผน 4-3-3 จะแผน 4-5-1 ไม่พิมพ์ไล่ ผจก หรือ ผู้เล่น ให้ไปอยู่ที่อื่น และไม่ถือตนว่า เป็นศูนย์รวมของจักรวาล ทั้งๆที่เขาหมดเงินกับทีมนับพันล้าน
ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีม แมนยู คนจ่ายเงินตัวจริง (ที่ไม่เกี่ยวกับคนไทยบางคน ที่รักและหวงแหนทีมเกิน แต่ทั้งชีวิต ยังไม่มีโอกาส บินไปอังกฤษ ซื้อบัตรดูเกม ในโอลด์แทรฟฟอร์ด สักครั้ง) นี่ก็สุดยอดมืออาชีพ ตั้งแต่เขาฮุบทีมไป คนด่า คนตราหน้าครอบครัวเขามากมาย แต่ไม่เคยมีข่าว สักครั้ง ว่าเขาลงมาล้วงลูกการบริหารงาน ของป๋าเฟอร์กี้ จน มาถึงยุค ฟาน กัล เขาไม่เคยพูดหรือออกข่าว บ่นว่า ทีมกู เอาแต่ส่งคืนหลัง คืนโกล หรือบ่นว่าเอาแต่บ้าปรัชญาครองเกม หรือเอาแต่บ้าซื้อมิดฟิลด์
ผมไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางทุกอย่างของ ฟาน กัล และผมก็ไม่ได้บอกว่า รูนีย์ เล่นดี และแม้แต่ตัวผมเอง ก็ไม่สามารถคิด หรือตัดสิน การกระทำผิด-ถูก ของคนที่คร่ำหวอดในสายอาชีพนั้นๆ ได้หรอก
ผมชอบอ่านทุกความเห็น ทุกคอมเม้นท์ ที่น่าสนใจ แม้บางความเห็น จะเกรียน จะเกินเลย แต่ในบางมุมมอง แฟนบอลบางรายนั้นก็ดูน่ารับฟัง แค่อยากให้เพลาๆบ้างเรื่องการใช้ถ้อยคำรุนแรง ต่อว่าตัวบุคคล (แม้จะจริงตรงที่ว่า ผมดันสะเออะมาอ่านเอง) เพราะยังมีแฟนบอลหลายๆคน ก็รักทีม รักผู้เล่น รัก ผจก.ทีม เขาก็ไม่ชอบที่ใครจะมาว่า คนที่เขารัก จริงไหมครับ
โชเซ มูรินโญ ก็บ้าปรัชญา ชอบจดยิกๆมันทุกจังหวะ และ เขาไปที่ไหนช่วงแรกๆ ก็ทำทีมได้ อั๊กลี่ โครตๆ เน้นรับ เน้นอุด เพื่อแต้ม โดยไม่สนใจ ชาติตระกูล ของทีมที่ตนเองทำอยู่ จนถึงวันนึง วันที่เขาได้ทีม ได้ผู้เล่น ในแบบที่เขาต้องการทุกอย่างแล้ว เราถึงได้เห็น สุดยอดทีม ที่เล่นสนุก เหนียวแน่น และอันตรายในทุกๆตำแหน่ง
ผมว่า ผมก็เห็นสิ่งนั้น ในตัว หลุยส์ ฟาน กัล เหมือนกัน

.