แชมป์ลีกสมัยที่ 6 ฤดูกาล 1999/00

แม้จะผ่านค่ำคืนอันยอดเยี่ยมที่บาร์เซโลน่ามาแล้ว แต่อัศวินใหม่ถอดด้ามอย่างเซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสันก็ไม่ได้คิดที่หยุดพักความสำเร็จ ด้วยการท้าทายเหล่าผู้เล่นว่า "พิสูจน์ว่าพวกแกยังต้องการความสำเร็จอีก"
และถ้าจะมีคนที่จะไม่มีคำถามว่ายังหิวกระหายในชัยชนะรึปล่าว นั่นก็คือ รอย คีน แม้ว่าการเจรจาต่อสัญญากัปตันทีมผู้นี่จะยืดเยื้อจนถึงเดือนธันวาคม เมื่อสิ้นสุดเดือนกันยายน การเอาชนะลีดส์และนิวคาสเซิลสบายๆในบ้าน การบุกไปเอาชนะอาร์เซนอลถึงไฮบิวรี่ และชัยชนะ 3-2 เหนือลิเวอร์พูลที่แอนด์ฟิลด์ (จำได้มั้ยว่าใครยิงเข้าประตูตัวเองสองประตู เอิ้กๆ) แสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นของเหล่านักเตะยังไม่หายไปไหน
การลาทีมของปีเตอร์ ชไมเคิล ทำให้มาร์ค บอสนิชได้รับหน้าที่เป็นตัวแทนซึ่งก็ทำผลงานได้พอใช้ แต่ป๋าก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ เลยไปดึงตัวผู้รักษาประตูชาวอิตาเลี่ยนอย่าง มัสซิโม่ ตาอิบี้ แต่ว่าการถูกเชลซีถลุง 5-0 ที่แสตมป์ฟอร์ด บริดจส์ แล้วถูกสเปอร์สไล่ทุบ 4-1 แสดงให้เห็นว่านี้เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
แต่หลังจากที่รอย คีนจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่ ทีมก็กลับมาเข้ารูปเข้ารอย แม้กระทั่งการออกไปเผชิญความยากลำบากถึง 10 วันที่บราซิลในรายการ FIFA's World Club Championship ก็ไม่อาจจะหยุดฟอร์มอันร้อนแรงในลีกของเราได้ เราไล่บี้คู่อริเมืองใกล้เคียงอย่างลีดส์แบบไม่เห็นฝุ่น จากการแพ้เพียงนัดเดียวในสี่เดือน และการบุกไปชนะ 1-0 ถึงเอลเลนโร้ดก็ยอดเยี่ยม สกอร์ 7-1 ต่อเวสต์แฮมต่อด้วย 4-0 ที่แบรดฟอร์ด จากการวอลเล่ย์มหัศจรรย์จากพอล สโคลส์ นอกจากนั้นยังซัดสี่ประตูได้อีกในเกมในบ้านกับซันเดอร์แลนด์และนัดออกไปเยือนมิดเดิ้ลสโบรห์
และในวันสุดท้ายในการรับแชมป์ที่เซาต์แธมตัน แม้แต่ฟิล เนวิลล์ก็ทำประตูได้ แมนยูจบอันดับหนึ่งด้วยการทิ้งห่างอันดับสองถึง 18 คะแนน ทำประตูได้ถึง 97 ประตู ทั้งทีมยังอยากที่จะเป็นผู้ชนะอยู่จริงๆด้วย
เกมสำคัญ
อาร์เซนอล 1 ยูไนเต็ด 2
ไฮบิวรี่ 22 สิงหาคม 1999
กัปปิตันของเรา รอย คีน ระเบิดฟอร์มเหมือนอย่างที่ในตูรินเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี่อีกครั้ง โดยการเหมาคนเดียวสองประตู พลิกกลับจากตาม 1-0 เป็นชัยชนะอันหอมหวาน