ชีวิตยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าของ"นานี่"
ตั้งแต่ทำสกู๊ปชีวิตนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยคิดว่า คริสติอาโน่ โรนัลโด้ คือนักเตะที่เส้นทางชีวิตแสนรันทดสุดๆแล้ว...แต่ให้ตายมาเจอเรื่องราวชีวิตของ "นานี่" ดาวเตะจอมตีลังกาของปิศาจแดงทำให้รู้สึกว่า..ทำไมชีวิตคนเรามันน้ำเน่าและค่นแค้นได้ขนาดนี้...เป็นอย่างไร ไปติดตามกัน...
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า คริสติอาโน่ โรนัลโด้ คือนักเตะที่ทุกสโมสรในโลกของฟุตบอลอยากได้ตัวไปร่วมทีม แต่ ณ เวลานี้ "ปิศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ถือกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของจอมสับอย่าง "โด้จิ๋ว" แล้ว ยังได้ครอบครองนักเตะที่เขาว่าเป็น "นิว รอนนี่" อย่าง นานี่ อีกด้วย
แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายกับการดำรงชีวิต และจะสร้างความประทับใจในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ไม่มีอะไรเกินความพยายามโดยเฉพาะชีวิตที่ผ่านมา เมื่อดาวเตะพรสวรรค์สูงจากโปรตุเกสเจ้าของค่าตัว 17 ล้านปอนด์ อย่างนานี่ ที่มีสายเลือดนักสู้เต็มตัว ..
แต่กว่าจะผ่านวิกฤติของชีวิตฝ่าฟันมายันอายุ 20 ปี นานี่ต้องเผชิญกับชีวิตที่ขาดทั้งพ่อ และแม่...ซึ่งทั้งคู่ทิ้งเจ้าตัวไปตั้งแต่วัยยังไร้เดียงสา
มิดฟิลด์โปรตุเกส ที่ชื่อเต็มไม่อยากจำเพราะมันยาวตามสไตล์ชาวลาติน...หลุยส์ คาร์ลอส อัลเมด้า ดา คันย่า ถือกำเนิดขึ้นที่ อมาโดร่าใกล้ๆ ลิสบอน โดยครอบครัวย้ายมาจากเกาะ คาเป เวอร์เด อดีตอานานิคมของโปรตุเกส
ชีวิตนานี่ ไร้บิดามาตั้งแต่ 5 ขวบ ก่อนที่แม่บังเกิดเกล้า มาเรีย จะมาทิ้งเด็กน้อยผู้น่าสงสารไปอยู่ฮอลแลนด์อีกคนใน 2-3 ปีถัดมา ทำให้นานี่ ต้องอยู่กับป้า แอนโทเนีย ที่เอาหลานชายมาเลี้ยงดูปูเสื่อที่แฟลตเล็กๆห้องนอนเดียวในลิสบอน รวมถึงพี่น้องอีก 3 คนและญาติพี่น้องที่อัดกันอยู่อย่างทุลักทุเล
สภาวะที่โดนพ่อแม่ทิ้งนับว่าเป็นแผลในใจที่ยังไงก็รักษาไม่หายสำหรับนานี่ ป้า แอนโตเนีย เล่าให้ฟังว่า
"เขากลับบ้านด้วยสภาพเหนื่อยอ่อนสโหลสเหลเป็นประจำหลังซ้อม บางทีก็ต้องเดินกลับมาเพราะไม่มีเงินค่ารถที่ไปใหนมาใหน ...สองเท้าเท่านั้นที่พาเขาไป พอมาถึงก็นอนแผ่หลา,ดูดนิ้วมือ..ดูทีวี บางทีก็ผลอยหลับไป"
"ฉันถามเขาอยู่เสมอว่า ทำไมถึงไม่ค่อยพูดค่อยจาเลย เป็นอะไรหรือเปล่า แต่เขาก็บอกเสมอว่า เขาไม่เป็นไร ...แต่ฉันรู้ว่าเขามีอะไรในใจเยอะ"
การเริ่มต้นก้าวสู่ "เวทีชีวิตสายลูกหนัง" ของนานี่ นับว่ามีแต่กวากหนามล้วนๆ อย่างไรก็ตามเจ้าตัวไม่เคยยอมแพ้ เพราะคิดว่าเกมที่ตัวเองรักสามารถชดเชยความสุชที่ขาดหายไปในชีวิตได้
แทบไม่ผิดเพี้ยนจากโด้จิ๋ว นานี่ ที่ไม่มีเงินจะเรียนหนังสือ ยอมออกจากโรงเรียน แล้วมาเล่นบอลข้างถนนไปวันๆรวมถึงช่วยงานป้า "เขาสนใจอย่างเดียวคือฟุตบอล ยอมโดดเรียนเพื่อแมตช์แข่งขัน มันทำให้ฉันปวดใจเหมือนกันนะ ที่เขาไม่สนใจเรียน"
นานี่ ลงเล่นครั้งแรกให้ สปอร์ตี้ เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนด้วยวัย 18 ปี ยิง 9 ประตูใน 58 เกม แถมยังยิงประตูทีมชาติโปรตุเกส ได้ตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนามด้วยเกมเจอกับ เดนมาร์ค ซึ่งเป็นเวทีที่เจ้าตัวได้โชว์ลีลาตีลังกา แฟนบอลชอบอกชอบใจกันไป
นานี่ ยอมรับว่าเรียนรู้การตีลังกาแบบ ซัมเมอร์ซอลต์ส จากศิลปะการเต้นอย่างหนึ่งของบราซิล "ตอนผมเด็กๆ ผมเคยเรียน capoeira แล้วต้องเลิกเรียนในเวลาต่อมา แต่ก็ยังจำทุกอย่างได้ขึ้นใจ ทุกวันนี้เวลาผมยิงประตูสวยๆผมมักฉลองด้วยการตีลังการแบบ death leap ของผม"
แอนโทเนีย บอกว่า นานี่ ยังคงเป็นเด็กขี้อายโดยเฉพาะกับสาวๆ และมักจะบอกกับป้าว่าตัวเองไม่มีแฟน แต่ป้าบอกว่า "เขาควรจะมีได้แล้ว"
"เขาไม่เคยพูดชีวิตส่วนตัวกับใครที่ใหน แต่แน่นอน เขามีแฟนแน่ๆ"
แต่อีกแง่มุมน่ารักของหลานชายที่ แอนโทเนีย บอกไว้คือ "เขาเป็นคนขี้เล่น ชอบทำให้ฉันหัวเราะอยู่เรื่อย เวลาเขาโทรมาหาฉัน มักจะดัดเสียงแล้วบอกว่าเขาเป็นใครซักคนที่รู้จักฉันมาหลายปีใน คาเป เวอร์เด้...ทำแบบนี้ประจำจนฉันจับได้แล้ว"
นับตั้งแต่ได้เซ็นสัญญากับ ยูไนเต็ด นานี่ ได้ตอบแทนพระคุณป้าโดยการซื้อบ้านขนาด 3 ห้องนอนใน อมาโดร่า ได้อยู่อย่างสุขสบาย โดยเมื่อปีที่ผ่านมา นานี่ ได้เดินทางไป คาเป เวอร์เด้ เพื่อพบพ่อเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี รวมถึงแม่ก็กลับมาอยู่โปรตุเกสแล้วเช่นกันซึ่งเป็นการกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
"พวกเขาดูมีความสุขดีตอนนี้" แอนโทเนีย บอก
หลังประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง นานี่ ยังคงใช้ชีวิตแบบเงียบๆรวมถึงปรับตัวกับชีวิตในอังกฤษ เจ้าตัวบอกว่า "มันไม่ง่ายที่จะได้ตำแหน่งตัวจริงใน แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ผมก็พร้อมที่จะสู้ครับ"